บทวิเคราะห์แนวโน้มธุรกิจคลังสินค้า… จาก Krungsri Research

warehouse 2020

ธุรกิจคลังสินค้าและพัฒนาคลังสินค้า… ดูเหมือนจะเป็นความเคลื่อนไหวเดียวที่ยังไม่แผ่วไปกับสถานการณ์ที่ VUCA สุดๆ ในห้วงเวลานี้… ซึ่งนอกจากจะไม่แผ่วลงแล้ว ข้อมูลในมือผมตอนนี้มีการลงทุนกับคลังสินค้าทั้งรายเก่าและเจ้าใหม่ รวมทั้งรายใหญ่ระดับบริษัทมหาชน และรายเล็กรายน้อยที่กระจายตัวทั่วทุกภูมิภาค… วันนี้ก็เลยของัดเอา รายงานการวิจัยและบทวิเคราะห์ของกรุงศรีรีเสิร์ช ประเด็นแนวโน้มธุรกิจคลังสินค้า 2562-2564 ที่มีข้อมูลน่าสนใจอย่างมากในมุมมองของผม

บทวิเคราะห์ดังกล่าวชี้ว่า… แนวธุรกิจคลังสินค้าในช่วงปี 2562-2564 มีแนวโน้มซบเซาถึงทรงตัว แม้ความต้องการเช่าพื้นที่จะขยายตัวต่อเนื่องตามการลงทุนของภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตร และภาคการค้า/บริการในประเทศ โดยเฉพาะธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ แต่การลงทุนขยายพื้นที่คลังสินค้าที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อาจส่งผลให้ธุรกิจคลังสินค้าในบางพื้นที่มีภาวะอุปทานส่วนเกิน จึงคาดว่าการแข่งขันด้านราคาจะรุนแรงขึ้นและการปรับขึ้นค่าเช่ายังทำได้ยาก…

คลังสินค้าในทำเลที่มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องในระยะข้างหน้า ได้แก่ พื้นที่ในเขตอุตสาหกรรมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล พื้นที่โดยรอบระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ Eastern Economic Corridor หรือ EEC… จังหวัดศูนย์กลางภูมิภาค จังหวัดชายแดนที่ได้อานิสงส์จากการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ หรือ Special Economic Zone หรือ SEZs รวมทั้งพื้นที่คลังสินค้าที่ทุนไทยเข้าไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน… ธุรกิจคลังสินค้าแช่เย็น/แช่แข็ง และคลังสินค้าธัญพืช หรือ ไซโล ซึ่งมีความเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจการเกษตรยังมีแนวโน้มซบเซา เนื่องจากพื้นที่คลังสินค้าส่วนเกินมีอยู่สูง

คลังสินค้า หรือ Warehouse หมายถึงอาคารที่ใช้เก็บรักษาหรือรับฝากสินค้าระหว่างรอการเคลื่อนย้ายเพื่อสนับสนุนการผลิต ในกรณีจัดเก็บวัตถุดิบส่วนประกอบและชิ้นส่วนต่างๆ… และการกระจายสินค้ากรณีจัดเก็บสินค้าสำเร็จรูปให้กับผู้เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทานและลูกค้า 

การให้บริการคลังสินค้าให้เช่าจึงเป็นธุรกิจบริหารงานโลจิสติกส์ที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการดำเนินงานของธุรกิจต่างๆ ทั้งกระบวนการผลิต การค้า และการขนส่ง… คลังสินค้าให้เช่าในประเทศ แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่ 

1. คลังสินค้าแบบดั้งเดิม หรือ Traditional warehouse… มีสัดส่วนกว่า 95% ของจำนวนคลังสินค้าทั่วประเทศ ส่วนใหญ่เน้นบริการพื้นที่เช่าและระบบสาธารณูปโภค และสิ่งอำนวนความสะดวกพื้นฐาน อาทิ ถนน ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ ระบบรักษาความปลอดภัย 

2. คลังสินค้าสมัยใหม่ หรือ Modern warehouse… ให้บริการพื้นที่เช่าโดยมีระบบโลจิสติกส์ครบวงจร มีการนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการคลังสินค้า เช่น ระบบจัดเก็บ ระบบตรวจนับ และระบบตรวจสอบสินค้าคงคลัง รวมทั้งมีระบบขนถ่ายสินค้าและบรรจุหีบห่อสินค้าอัตโนมัติ… ปัจจุบันมีผู้ประกอบการบางส่วนปรับเปลี่ยนรูปแบบคลังสินค้าดั้งเดิมมาเป็นคลังสินค้าสมัยใหม่มากขึ้นเพื่อเพิ่มช่องทางสร้างรายได้จากการให้บริการด้านอื่นนอกเหนือจากค่าเช่าพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงโครงสร้างอาคารให้ได้มาตรฐานมากขึ้น โดยบางแห่งมีการลงทุนพัฒนาระบบอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมภายในอาคาร เช่น มาตรฐาน LEED: Leadership in Energy and Environmental Design และวางโครงสร้างอาคารที่คำนึงถึงการป้องกันภัยพิบัติ เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว เป็นต้น ซึ่งเป็นกระแสความต้องการของผู้เช่าในปัจจุบัน

การดำเนินธุรกิจคลังสินค้าในไทยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการกำกับคลังสินค้า ไซโล และห้องเย็น กระทรวงพาณิชย์ ผู้ให้บริการคลังสินค้ามีทั้งที่เป็นหน่วยงานในสังกัดรัฐ คือ องค์การคลังสินค้า

หรือ อคส. รวมทั้งหน่วยงานเอกชนที่อยู่ภายใต้การกำกับและสนับสนุนของรัฐ เช่น สหกรณ์การเกษตร และผู้ประกอบการคลังสินค้าเอกชนต่างๆ ที่มีสถานะเป็นนิติบุคคล

สถานการณ์ธุรกิจคลังสินค้าขึ้นอยู่กับภาวะธุรกิจหรือกิจกรรมการผลิตและการค้า ซึ่งมักเป็นไปตามทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจ ลักษณะสำคัญของธุรกิจคลังสินค้า คือ…

1. เป็นธุรกิจที่มีระยะเวลาคืนทุนนาน เฉลี่ย 8-13 ปี เนื่องจากใช้เงินลงทุนเริ่มต้นสูง ทั้งค่าที่ดินและค่าก่อสร้างอาคาร แต่รายได้หลักเป็น “ค่าเช่า” ซึ่งเป็นการทยอยรับรู้รายได้ในระยะยาว โดยทั่วไปอัตราค่าเช่าคลังสินค้าจะแปรผันตามขนาดพื้นที่ ประเภทคลังสินค้า ทำเล รวมทั้งขึ้นอยู่กับระดับการแข่งขันในแต่ละทำเล 

2. ทำเลที่ตั้ง เป็นปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จของกิจการ การลงทุนคลังสินค้าให้เช่าเป็นการลงทุนเพื่อรองรับความต้องการเช่าพื้นที่ในอนาคต…โดยทั่วไป การก่อสร้างอาคารคลังสินค้าใช้ระยะเวลาเฉลี่ย 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับขนาด/พื้นที่ของอาคาร ดังนั้น การประเมินศักยภาพทำเลที่ตั้งซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยบ่งชี้ความต้องการเช่าพื้นที่คลังสินค้า จึงมีความสำคัญต่อการรับรู้รายได้ในระยะยาวของผู้ประกอบการ 

ประเภทคลังสินค้า

สำหรับประเภทคลังสินค้าให้เช่า จากการจำแนกของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ประกอบด้วย 3 ประเภทหลัก คือ…

1. คลังสินค้าทั่วไป… เป็นอาคารที่ใช้เก็บรักษาสินค้าทั่วไป

2. คลังสินค้าแช่เย็น/แช่แข็ง… เป็นอาคารควบคุมอุณหภูมิใช้เก็บรักษาและยืดอายุผลิตผลทางการเกษตร ประมงและผลิตภัณฑ์อาหารที่เน่าเสียง่าย หรือ Perishable Food เช่น อาหารทะเล ผลิตภัณฑ์นม ดอกไม้สด เนื้อสัตว์ ผัก/ผลไม้  

ห้องเย็น

3. คลังสินค้าธัญพืช หรือ ไซโล… เป็นถังทรงกลมขนาดใหญ่ซึ่งมีระบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้น ใช้ในการเก็บรักษาธัญพืช เช่น ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง แป้ง และรำข้าว เป็นต้น

ไซโล

ลักษณะการให้เช่าคลังสินค้า

ลักษณะการให้เช่าคลังสินค้าจะมีการทำสัญญาเช่า 2 แบบ คือ

1. สัญญาเช่าระยะสั้น ไม่เกิน 3 ปี… ส่วนใหญ่เป็นสัญญาเช่าคลังสินค้าดั้งเดิมขนาดกลางและเล็กที่มีกลุ่มผู้เช่าหลักเป็นกิจการ SME และ/หรือ ธุรกิจ/อุตสาหกรรมที่มีปริมาณธุรกรรมไม่แน่นอนและอาจผันผวนตามปัจจัยฤดูกาล อาทิ สินค้าเกษตร สินค้าแฟชั่น เป็นต้น ผู้ประกอบการคลังสินค้าที่ทำสัญญาเช่าระยะสั้นเป็นส่วนใหญ่ จึงอาจมีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของรายได้ และเผชิญการแข่งขันรุนแรง ทั้งในการรักษาฐานผู้เช่ารายเดิมและหาผู้เช่ารายใหม่

2. สัญญาเช่าระยะยาว หรือสัญญา 3 ปีขึ้นไป… ส่วนใหญ่เป็นสัญญาเช่าคลังสินค้าขนาดใหญ่ที่มักมีความได้เปรียบด้านตลาด บริการด้วยระบบโลจิสติกส์ทันสมัยและครบวงจร ทำเลที่ตั้งใกล้แหล่งผลิตและตลาด และบางรายมีบริการคลังสินค้าสำเร็จรูปพร้อมใช้ หรือ Ready-Built Warehouse หรือคลังสินค้าให้เช่าตามความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของลูกค้า หรือ Build to Suit… สำหรับผู้ประกอบการที่มักทำสัญญาให้เช่าแบบระยะยาวกับลูกค้า ส่วนใหญ่ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และนิคมอุตสาหกรรม… ผู้ประกอบการ

คลังสินค้าที่เน้นให้เช่าโดยทำสัญญาเช่าระยะยาว ส่วนใหญ่จึงมักจะสามารถจัดการคลังสินค้าได้มีประสิทธิภาพมากกว่าและเผชิญความผันผวนในการรับรู้รายได้น้อยกว่า

ปัจจัยหลักในการเลือกเช่าคลังสินค้า

ผู้เช่าจะพิจารณาจากปัจจัยด้านทำเลที่ตั้งควบคู่กับปัจจัยอื่นๆ เช่น สิ่งอำนวยความสะดวก ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน เทคโนโลยีการจัดการและบริหารคลังสินค้าที่เหมาะสมกับประเภทสินค้าที่ต้องการจัดเก็บ รวมทั้งอัตราค่าเช่า การเลือกคลังสินค้าที่เหมาะสมจะช่วยให้ผู้เช่าสามารถผลิต และ/หรือ จัดส่งสินค้าได้รวดเร็ว ช่วยลดภาระต้นทุนจากระยะทาง เวลา และค่าใช้จ่ายในการขนส่ง ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของกิจการ

แนวโน้มธุรกิจคลังสินค้า

ช่วงปี 2562-2564 คาดว่าความต้องการเช่าพื้นที่คลังสินค้ามีแนวโน้มทรงตัวเมื่อเทียบกับปี 2561 ตามทิศทางการลงทุนภาคอุตสาหกรรมและความต้องการใช้บริการโลจิสติกส์ที่ต้องมีกระบวนการรวบรวมและกระจายสินค้าไปยังพื้นที่ต่างๆ อย่างไรก็ตาม การลงทุนขยายพื้นที่เช่าต่อเนื่องในบางทำเลอาจกดดันอุปทานส่วนเกินให้เพิ่มขึ้น ทำให้การแข่งขันยังคงรุนแรงและค่าเช่ายังทรงตัวต่ำ

คลังสินค้าทั่วไป: แนวโน้มความต้องการเช่าพื้นที่กระเตื้องขึ้นเล็กน้อยด้วยแรงหนุนจาก 

1.  ความเชื่อมั่นในการลงทุนที่ชัดเจนขึ้นหลังการเลือกตั้ง โดยศูนย์วิจัยกรุงศรีคาดการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนยังเติบโตต่อเนื่องในปี 2562-2564

2. การทยอยย้ายฐานการผลิตมาไทยของนักลงทุนต่างชาติโดยเฉพาะญี่ปุ่นและจีน ส่วนหนึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากสงครามการค้าจีนขสหรัฐ

3. การเร่งส่งเสริมการลงทุนเพื่อผลักดัน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐ 

4. แนวโน้มการเติบโตต่อเนื่องของธุรกิจ E-Commerce หรือการค้าออนไลน์ในไทยจะหนุนให้มีการใช้พื้นที่เช่ามากขึ้นเพื่อสต็อกวัตถุดิบ/สินค้าก่อนส่งมอบ

คลังสินค้าแช่เย็น/แช่แข็ง: แนวโน้มธุรกิจยังซบเซาถึงทรงตัวต่อเนื่องตามทิศทางเศรษฐกิจโลกและไทยที่ขยายตัวในอัตราชะลอลง ขณะที่อุปทานส่วนเกินมีแนวโน้มสูงขึ้น ส่วนใหญ่มาจากการขยายพื้นที่คลังสินค้าแช่เย็น/แช่แข็งของผู้ประกอบการ กลุ่มต่างๆ ได้แก่ 

1. คลังสินค้ากลุ่มแช่เย็น/แช่แข็งที่เก็บรักษาผลไม้ขององค์กร ใช้รองรับการจัดเก็บ/แปรรูปผลผลิตเกษตรในพื้นที่ต่างๆ เพื่อรอการจำหน่ายหรือส่งออก เช่น ห้องเย็นของสหกรณ์เกษตรในพื้นที่ต่างๆ

2. คลังสินค้าห้องเย็นในโครงการระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก หรือ Eastern Fruit Corridor หรือ EFC ในนิคมอุตสาหกรรม Smart Park จังหวัดระยอง 

3. คลังสินค้าส่วนบุคคลเก็บสินค้าแช่เย็น/แช่แข็งของผู้ประกอบการกลุ่มอาหารทะเลแปรรูปรายใหญ่ เพื่อให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตามมาตรฐานหรือข้อกำหนดของประเทศคู่ค้ากลุ่มอาหารทะเลแปรรูปรายใหญ่

4. การลงทุนคลังสินค้าใหม่แบบ Super-frozen เพิ่มขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพโดยนิยมสินค้าที่มีความสดใหม่ จากเดิมที่นิยมอาหารแปรรูปพร้อมรับประทานแบบ Frozen ธรรมดา

คลังสินค้าธัญพืช หรือ ไซโล: อุปทานพื้นที่ส่วนเกินที่สูง ยังคงเป็นปัจจัยกดดันค่าเช่า โดยมีแรงฉุดที่สำคัญมาจาก 

1. แนวโน้มความต้องการใช้พื้นที่สำหรับสต็อกผลผลิตธัญพืชเพื่อใช้ในประเทศและเพื่อรอส่งออกมีน้อยลงตามสภาพอากาศแล้งและฝนทิ้งช่วงจากภาวะเอลนีโญ่

2. การระบายสต็อกข้าวในโครงการจำนำข้าวได้หมดลงตั้งแต่ปี 2562 ส่งผลให้การแข่งขันรับซื้อผลผลิตเพื่อเก็บสะสมเป็นสต็อกในคลังสินค้ารุนแรงขึ้น ทั้งในกลุ่มผู้ประกอบการคลังสินค้าเก็บธัญพืชด้วยกันเอง ผู้ประกอบการที่เป็นพ่อค้าคนกลาง รวมถึงผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุผลผลิตเกษตร หรือล้ง

แนวโน้มการลงทุนคลังสินค้า

ด้านการลงทุนขยายพื้นที่คลังสินค้าคาดว่าส่วนใหญ่เป็นรูปแบบคลังสินค้าทั่วไปของกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์และนิคมอุตสาหกรรมรายใหญ่ในลักษณะคลังสินค้าสมัยใหม่ เพื่อรองรับกิจกรรมการผลิต การค้าและการลงทุนภายในประเทศ โดยพื้นที่ลงทุนจะมีการกระจายตัวทุกภาค แต่ทำเลสำคัญยังคงอยู่ใน ภาคกลาง และภาคตะวันออก สำหรับพื้นที่คลังสินค้าที่มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องในระยะข้างหน้าจะอยู่ในทำเลต่อไปนี้

คลังสินค้าในทำเลใกล้แหล่งผลิต: คาดว่าจะมีความต้องการเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้นในเขตนิคมอุตสาหกรรมเดิมและพื้นที่ในเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาล อาทิ พื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พื้นที่โดยรอบ EEC และจังหวัดศูนย์กลางภูมิภาค

คลังสินค้าในทำเลใกล้ตลาดผู้บริโภค: คาดว่าจะมีความต้องการเช่าพื้นที่เพื่อใช้เป็นศูนย์กระจายสินค้าและเป็นศูนย์กลางรองรับการขยายตัวของตลาดการค้าออนไลน์ในหลายพื้นที่ อาทิ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จังหวัดศูนย์กลางการเติบโตของภูมิภาค เช่น ชลบุรี พิษณุโลก นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี สุราษฎร์ธานี

คลังสินค้าในพื้นที่ชายแดน: คาดว่าความต้องการเช่าพื้นที่จะเริ่มขยายตัวตามความคืบหน้าของโครงการภาครัฐในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของไทย ทั้งระบบราง ถนน หรือระบบการบินที่เชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน จังหวัดและบริเวณโดยรอบ SEZs โดยอาศัยความได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้งของประเทศไทย ที่เป็นศูนย์กลางภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น จังหวัดตาก มุกดาหาร สระแก้ว ตราด สงขลา เชียงราย หนองคาย

นอกจากนี้ กลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์และนิคมอุตสาหกรรมรายใหญ่ยังมีโอกาสขยายการลงทุนคลังสินค้าในต่างประเทศเพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่มีศักยภาพการเติบโตสูง อาทิ อาเซียน จีน และอินเดีย ซึ่งหลายประเทศมีการเปิดเสรีให้นักลงทุนจากชาติอาเซียนเข้าไปลงทุนธุรกิจคลังสินค้าได้มากขึ้น โดยเฉพาะเวียดนามที่เปิดให้นักลงทุนอาเซียนถือหุ้น 100%… อินโดนีเซีย 49-51%… กัมพูชา 49%… ฟิลิปปินส์ 40%… ทั้งนี้ ประเมินว่า แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศเพื่อนบ้าน ผนวกกับการค้าชายแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านที่เติบโตต่อเนื่อง จะเป็นปัจจัยหนุนให้มีความต้องการใช้พื้นที่คลังสินค้าเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการที่ขยายธุรกิจคลังสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านสามารถรับรู้รายได้เพิ่มขึ้น

มุมมองจาก Krungsri Research

ในช่วงปี 2562-2564 คาดว่าธุรกิจคลังสินค้ายังมีภาวะซบเซา แม้ความต้องการเช่าพื้นที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องตามภาคเกษตร การลงทุนของภาคอุตสาหกรรมและภาคการค้าบริการในประเทศ แต่การลงทุนขยายพื้นที่คลังสินค้าที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อาจส่งผลให้คลังสินค้าในบางพื้นที่มีอุปทานส่วนเกินสูง การแข่งขันด้านราคาจึงรุนแรงขึ้นและการปรับขึ้นค่าเช่ายังทำได้ยาก

คลังสินค้าทั่วไป: ธุรกิจพื้นที่ให้เช่าของคลังสินค้าสมัยใหม่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องตามการเข้ามาขยายการลงทุนคลังสินค้าของผู้ประกอบการขนาดใหญ่จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และนิคมอุตสาหกรรม กดดันให้การแข่งขันด้านราคามีแนวโน้มรุนแรงและการปรับขึ้นค่าเช่าทำได้จำกัดในบางพื้นที่ โดยเฉพาะผู้ประกอบการกลุ่มคลังสินค้าแบบดั้งเดิมและกลุ่ม SMEs นอกจากนี้ ผู้ประกอบการคลังสินค้าแบบดั้งเดิมบางกลุ่มอาจมีความเสี่ยงต่อการสูญเสียส่วนแบ่งตลาด จากพฤติกรรมของผู้เช่าใช้คลังสินค้าที่มีแนวโน้มต้องการบริการเสริมอื่นๆ ในลักษณะที่ครบวงจรมากขึ้น นอกเหนือจากการเช่าพื้นที่เพื่อเก็บสินค้า ทำให้ผู้ประกอบการต้องเร่งปรับตัวโดยอาจต้องหาพันธมิตรทางธุรกิจ หรือร่วมทุนกับกิจการข้ามชาติหรือทุนไทยขนาดใหญ่เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง และลงทุนปรับโมเดลธุรกิจสู่คลังสินค้าสมัยใหม่ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการรับรู้รายได้ในระยะยาว

ธุรกิจคลังสินค้าแช่เย็น แช่แข็งและห้องเย็น: ความต้องการเช่าพื้นที่มีแนวโน้มชะลอตัวตามทิศทางการส่งออกอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร ขณะที่มีแรงกดดันด้านอุปทานพื้นที่ส่วนเกิน ทำให้ผู้ประกอบการมีอำนาจต่อรองกับลูกค้าต่ำ และผลประกอบการมีแนวโน้มชะลอตัว

ธุรกิจคลังสินค้าธัญพืช หรือ ไซโล: ยังมีความเสี่ยงจากพื้นที่คลังสินค้าส่วนเกินที่มีมากหลังสิ้นสุดโครงการจำนำข้าวของรัฐ ประกอบกับสต็อกข้าวรัฐที่ทยอยหมด โดยอุปทานพื้นที่ส่วนเกินอาจกดดันให้ผู้ประกอบการมีแนวโน้มแข่งขันรุนแรง

ตามนั้นครับ… ผมคัดลอกและเรียบเรียงข้อความเพิ่มเติมเพียงเล็กน้อย เพื่อให้การอ่านราบรื่นขึ้นในทัศนะของผม… ท่านที่สนใจงานวิจัยฉบับเต็มผมวางเอาไว้ใต้อ้างอิงเช่นเดิมครับ ซึ่งมีทั้งข้อมูลและภาพประกอบตัวเลขสถิติระดับหนึ่ง อาจจะเป็นงานวิจัยที่อ่านยากซักนิด แต่ข้อมูลและการวิเคราะห์หนักแน่นเชื่อถือได้แน่นอนครับ!

อ้างอิง

Share this post

Add Properea's Friend

เพิ่ม Properea.com เป็นเพื่อนทาง Line
ท่านจะได้ Link บทความใหม่ส่งตรงให้อย่างสม่ำเสมอโดยรบกวนแต่น้อย

Related Post

Trend 2020 : Baby Boomer

วารสาร Trend 2020 ของสำนักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ TCDC ได้เผยแพร่แนวโน้มของปีหน้าจากข้อมูลมากมายที่ TCDC ทำขึ้นทุกปี และเมื่อวานผมก็ได้เผยแพร่ eMagazine ฉบับดังกล่าวผ่านเวบไซด์ https://reder.red ไปแล้ว ซึ่งท่านสามารถหา download ได้ทั้งจากเวบไซต์ https://web.tcdc.or.th/ รวมทั้งที่ reder.red เช่นกัน

FOMO Trader

Fear of Investing…ความกลัวกับการลงทุน

ในหนังสือ Trading in the Zone: Master the Market with Confidence, Discipline and a Winning Attitude ของ Mark Douglas พูดถึงนักลงทุน หรือ นักเทรดกลุ่มเล็กๆ เพียง 10% ที่ Always’ Win หรือ อยูใน Winning Zone ในขณะที่ 30%-40% ขาดทุนยับเพราะซื้อแพงขายถูก หรือ ทำกำไรได้น้อยนิดกับบางออเดอร์ เพราะรีบซื้อรีบขายอย่างร้อนรน ในขณะที่ราคาสินทรัพย์ลงทุนในรอบนั้น… ยังปรับตัวไปต่อในทิศทางที่ FOMO จนสั่นเสียดาย และ ต้องรีบเข้าออเดอร์รอบใหม่… แล้วก็ขาดทุนอีกครั้งในที่สุด

ความร่วมมืออุตสาหกรรมดิจิทัลไทย–มาเลเซีย โดย depa และ MDEC

9 กุมภาพันธ์ 2023… นายกรัฐมนตรีประเทศไทย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และ นายยกรัฐมนตรีมาเลเซีย ดาโตะ เซอรี อันวาร์ บิน อิบราฮิม ได้ร่วมเป็นสักขีพยานการแลกเปลี่ยนบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ depa โดย ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ และ Malaysia Digital Economy Corporation หรือ MDEC โดย มหาธีร์ อาซี เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลระหว่างกัน รวมถึงการแลกเปลี่ยนแนวทางและความสำเร็จในการดำเนินงานด้านการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ที่ช่วยยกระดับภาคอุตสาหกรรม และ เปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล อีกทั้งเป็นความร่วมมือในการสร้างเครือข่ายดิจิทัลสตาร์ทอัพกับความท้าทายในการแข่งขันทางการค้าท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจรูปแบบใหม่

Digital Yuan

Digital Yuan… อีกครั้งของเงินสกุลเดียวสองรูปแบบ

Digital Yuan ไม่ใช่ Cryptocurrencies และไม่ใช่เงินสกุลที่สองของจีนเหมือนกรณีเงินว่ายฮุยเจวี้ยน… สำหรับทุกคำอธิบาย แต่เป็น StableCoin Yuan ของจีนโดยธนาคารกลางของจีน