Virgin Hyperloop กับการทดสอบวิ่งพร้อมผู้โดยสาร

First Hyperloop Passengers Josh, Sara

เทคโนโลยีการขนส่งในอุโมงค์สุญญากาศความเร็วสูงอย่าง Virgin Hyperloop ได้ประสบความสำเร็จอีกขั้นกับการทดสอบนั่งโดยสารของทีมงานของ Virgin Hyperloop 2 คน โดยทดสอบกับทางวิ่งในอุโมงค์สุญญากาศยาว 500 เมตร ที่ความเร็วทดสอบ 172 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและใช้เวลาราว 15 วินาทีในการทดสอบ

Josh Giegel, CTO ของ Virgin Hyperloop และ Sara Luchian, Director of Passenger Experience หรือ ผู้อำนวยการฝ่ายประสบการณ์ลูกค้าของ  Virgin Hyperloop คือผู้โดยสารคู่แรกที่ได้นั่งโดยสารในการทดสอบครั้งนี้ และถือเป็นชายหญิงคู่แรกของโลกที่ได้นั่งโดยสารใน Hyperloop Pod

Josh Giegel และ Sara Luchian

การทดสอบมีขึ้นในเขตทะเลทรายนอกเมืองลาสเวกัส เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 8 พฤษจิกายน ปี 2020 ซึ่งผู้โดยสารทั้งสองต่างสวมเสื้อแขนยาวผ้าฟลีซและกางเกงยีนส์แบบธรรมดาในการทดสอบ… Sara Luchian ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว BBC ว่า… การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น และ ไม่รู้สึกเหมือนการนั่งรถไฟเหาะตีลังกาเลย แม้ในช่วงการเร่งความเร็วจะรู้สึกถึงพลังมากมาย แต่ทั้งสองก็ไม่ได้รู้สึกไม่สบายหรือคลื่นไส้แต่อย่างใด

Hyperloop เป็นเทคโนโลยีที่ใช้เวลาในการพัฒนามานานหลายปี โดยสร้างขึ้นจากแนวคิดของ Elon Musk ซึ่งได้เสนอแนวคิดระบบขนส่งนี้ครั้งแรกเมื่อปี 2013 โดยตั้งเป้าว่า จะพัฒนาระบบนี้ให้มีความเร็วสูงสุดที่ 1,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อย่นระยะเวลาการเดินทางในอนาคต

Hyperloop  มีแนวคิดมาจากรถไฟแม็กเลฟ หรือ Maglev ซึ่งเป็นรถไฟความเร็วสูงที่ใช้เทคโนโลยีพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าในการสร้างแรงยกตัวให้รถไฟวิ่งไปโดยที่ลอยอยู่เหนือรางแทนการใช้ล้อ จากนั้นใช้การเร่งความเร็วไปตามอุโมงค์สุญญากาศเพื่อทำให้ Hyperloop ทำความเร็วได้มากขึ้น

รถไฟแม็กเลฟของญี่ปุ่นได้สร้างสถิติโลก ด้วยการทำความเร็วสูงสุดราว 601 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในการทดสอบวิ่งใกล้กับภูเขาไฟฟูจิ เมื่อปี 2015

Virgin Hyperloop ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 ในชื่อ Hyperloop One จากนั้นกลุ่มบริษัท Virgin ภายใต้การนำของ Sir Richard Branson ได้เข้าไปลงทุนในปี 2017… และ Moon Shot หรือความสำเร็จระดับการเยือนเหยียบดวงจันทร์ครั้งแรกของ Virgin Hyperloop กับการทดสอบนั่งโดยสารจริงใน Hyperloop Pod… ถือเป็นก้าวสำคัญของการนำเทคโนโลยีการเดินทางด้วยเทคนิคนี้มาสู่มนุษยชาติ… อีกขั้น

อ้างอิง

Share this post

Add Properea's Friend

เพิ่ม Properea.com เป็นเพื่อนทาง Line
ท่านจะได้ Link บทความใหม่ส่งตรงให้อย่างสม่ำเสมอโดยรบกวนแต่น้อย

Related Post

Rob Siltanen

The People Who Are Crazy Enough To Think They Can Change The World Are The Ones Who Do ― Rob Siltanen

ความสำเร็จของแคมเปญ Think Different ในชุดนั้น… ส่งให้ Apple Computer และผลิตภัณฑ์ iMac สีลูกกวาดกับจอ CRT ยุคสุดท้าย… เขย่าขวัญพันธมิตร Windows ในขณะที่ Microsoft กำลังจะตายเพราะ Windows 98 และ Windows Me ที่นอกจากจะไม่มีอะไรใหม่อีกแล้ว… ไวรัสคอมพิวเตอร์ก็คุกคามคนใช้ Windows จนคนมีทางเลือกไม่ลังเลที่จะซื้อเครื่อง Mac มาใช้ ด้วยความภาคภูมิดั่งเป็นอัจฉริยะผู้กล้าแตกต่าง

Creator Economy

Creator Economy… เศรษฐกิจนักสร้างสรรค์

ข้อมูลจาก ​​FastCompany.com ระบุว่า… มีคนกว่า 50 ล้านคนจากทั่วโลกที่ผันตัวเองมาเป็น Content Creators ในปี 2021 ที่ผ่านมา ทำให้มีมูลค่าทางการตลาดสูงกว่า 104,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่มีการลงทุนโดยตรงจากนักลงทุนเพื่อรองรับการเติบโตของ Content Creators ไปแล้วไม่น้อยกว่า 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีตัวเลขประมาณการรายได้ของ Content Creators ในกลุ่มเป้าหมายรายได้ปานกลางราว 41% ทำเงินค่าตอบแทนการพัฒนาคอนเทนต์ไปไม่น้อยกว่า 69,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2021

Space Economy

Space Economy และ ภาคีความร่วมมืออวกาศไทย

NIA ได้เปิดตัวสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีอวกาศ หรือ Space Technology Startups จากโครงการ Space Economy: Lifting Off 2021 ซึ่งเป็นโครงการสนับสนุน และ ส่งเสริมให้สตาร์ทอัพที่มีศักยภาพในการทำเทคโนโลยี ระบบ หรือ บริการด้านกิจการอวกาศ สามารถต่อยอดสู่ธุรกิจจริง และ สร้างความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจอวกาศโลกที่ปัจจุบันมีมูลค่าสูงถึง 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะพุ่งสูงถึง 1,000,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในอีก 20 ปีข้างหน้า…

MAITRIA HOTEL SUKHUMVIT 18

Hospitel… โอกาสเป็นส่วนหนึ่งใน Health Tech Ecosystem

ประเทศไทยมีศักยภาพเพียงพอที่รับนักท่องเที่ยวมารับวัคซีน และ รักษาโรคทางเดินหายใจ หรือ โรคอื่นๆ บนวิสัยทัศน์ Health Hub ท่ามกลางความหวั่นกลัวทั่วโลกครั้งนี้ได้แน่นอน ผมไม่ได้ใช้ความรู้สึกหรือความเห็นส่วนตัวฝ่ายเดียวมาบอกแบบนี้หรอกครับ หลายปีก่อนผมมีโอกาสได้ทำข้อมูลกับ Health Tech Startup มาก่อนและมีข้อมูลในมือชัดเจนหลายมิติยืนยันความเห็น… แต่คนไทยต้องดึงสติมาช่วยกันแก้ปัญหา และ ดึงศักยภาพมาเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสจริงๆ ไปด้วยกัน และเลิกดราม่าใส่กันแบบนักโต้วาทีก่อนอื่น… เรามีบุคลากรทางการแพทย์ที่ไม่เป็นรองใครในโลกเพียงพอ… เรามีโรงงานยา โรงงานวัคซีน และโรงงานผลิตวัสดุทางการแพทย์ในประเทศมากพอ และทุกอย่างจะเรียบร้อยโดยไม่ล่าช้าจนเกินไปแน่นอน