เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2022… สื่อทั่วโลกเผยแพร่คำสั่ง President Vladimir Putin แห่งรัสเซียในประเด็นคำสั่งถึงหน่วยสรรพาวุธนิวเคลียร์ให้ High Alert Mode of Standby Combat Duty หรือ ประจำการเตรียมพร้อมรับคำสั่งปฏิบัติการ… อันเป็นคำขู่อย่างเปิดเผย จนเห็นภาพนักเลงใหญ่เอาปืนกระบอกโตไปขู่เด็กอนุบาลเพื่อเรียกแขก ซึ่งก็ประสบความสำเร็จในเช้าวันจันทร์ที่ได้เห็นการคว่ำบาตรชุดใหญ่จากทั่วโลกโดยเฉพาะแกนนำ NATO อย่างสหรัฐอเมริกาและพันธมิตร ที่จัดเต็มให้ทั้งตัดช่องทางค้าขาย การโอนเงิน และ ยังริบทรัพย์สินของรัสเซียในต่างประเทศด้วย
แต่นักการทหารทั่วโลกยังเชื่อว่าเป็นคำสั่งประจำการเพื่อยกระดับในภาวะสงคราม อันเป็นระเบียบปกติทางการทหาร เพียงแต่ President Vladimir Putin แห่งรัสเซียเลือกที่จะใช้เป็นวาทะกรรมทางยุทธวิธีมากกว่า… เพราะในทางเทคนิคแล้ว “ทำเนียบเครมลิน” สามารถปกปิดคำสั่งสำคัญที่ไม่ต้องการเปิดเผยได้ดีกว่านี้มาก ซึ่งแม้แต่ Ben L. Wallace ในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของอังกฤษก็ยังให้ความเห็นว่าเป็น Battle of Rhetoric หรือ สงครามวาทกรรม
แต่ปัญหาก็คือ… นอกจากคำสั่ง High Alert Mode ที่หลุดออกมาจากเครมลิมแล้ว… President Vladimir Putin แห่งรัสเซียยังมีถ้อยแถลงทางสื่อก่อนหน้านั้น ที่ส่งคำเตือนถึง “ใครที่ไม่เกี่ยว” แล้วสอดเข้ามาในเหตุการณ์จะเจอการตอบโต้ในขั้น “ไม่เคยได้พบได้เจอมาก่อน หรือ Which They Have Never Seen” ซึ่งพันธมิตร NATO ก็รู้ว่าเป็นคำขู่… แต่ใครหล่ะจะกล้าเสี่ยง นอกจากหาทางช่วยยูเครนให้ได้มากที่สุด… ซึ่งที่ชัดเจนที่สุดก็คงจะเป็นการคว่ำบาตรครั้งรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งของโลก ที่นานาชาติส่วนใหญ่รุมกินโต๊ะรัสเซีย…
ที่น่าสนใจก็คือ… กองทัพสหรัฐได้ตั้งอยู่ในสถานะเตรียมพร้อมตาม Defcon Status หรือ Defense Readiness Condition ที่พร้อมแบบไม่ประมาทไปแล้ว… ซึ่งข่าวนี้ถูกยืนยันโดยโฆษกทำเนียบขาว Jen Psaki ในการตอบคำถามผู้สื่อข่าว… ก็แปลว่าทั้งรัสเซีย และ NATO เข้าโหมดโชว์ปืนว่าพร้อมดวลกันแบบที่เห็นในหนังคาบอยตะวันตก แต่ต่างก็รู้ว่าอีกฝ่ายยังไม่ขยับมือให้ชวนสงสัย หรือ หวาดระแวงอะไรตอนนี้!
ทุกฝ่ายจึงยังมองว่าอีกไกลกว่าสถานการณ์จะเดินไปถึงจุดที่จะเป็นสงครามนิวเคียร์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศหลายคนต่างก็ออกสื่อ และ ยืนยันว่าสงครามรัสเซีย–ยูเครน ไม่ใช่วิกฤตนิวเคลียร์ และ ต้องไม่กลายเป็นวิกฤตนิงเคลียร์ด้วย… โดยเฉพาะ Ben L. Wallace รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของอังกฤษ ซึ่งได้ให้ข้อมูลกับนักข่าว BBC ว่า… ฝ่ายความมั่นคงของอังกฤษยังไม่เห็นท่าทีคุกคามของอาวุธนิวเคลียร์รัสเซีย… ที่ต่างฝ่ายก็เฝ้าจับตาดูกันและกันอย่างใกล้ชิดมาแต่ไหนแต่ไร
ด้าน Dr.Patrick Bury ในฐานะอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจาก University of Bath ก็ให้ความเห็นไม่ต่างกันว่า… ไม่แปลกหรอกที่รัสเซียจะสั่งเตรียมพร้อมในระดับกำลังพลในหน่วยรบทุกหน่วย รวมทั้งหน่วยสงครามนิวเคลียร์
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร… ภาวะเงินเฟ้อทั่วโลกได้ระเบิดไปแล้วอย่างแน่นอนผ่านราคาน้ำมันที่พุ่งเกิน 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และ มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นได้อีกมาก โดยเฉพาะถ้าเกิดกรณีที่รัสเซียหยุดป้อนพลังงานให้ยุโรปเพื่อเอาคืน แต่ “เจ้ามือ” อย่างสหรัฐและโอเปค ก็คงเอาน้ำมันสำรองออกมาพยุงตลาดแน่ๆ เมื่อราคาน้ำมันถึงจุดเปราะบาง… และหลายความเห็นยังเชื่อว่า จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อสถานการณ์สงครามบานปลายอย่างชัดเจนกว่านี้ซึ่งก็ต้องจับตากันต่อไป… ส่วนท่านที่เล่นทอง และ เก็บเหรียญ Tether Gold หรือ XAUT รวมทั้ง “บัญชีทองในแอพเป๋าตัง” ที่สถิติแห่เปิดบัญชีและยืนยันตัวตนคึกคักมาตลอดสัปดาห์… ระมัดระวังด้วยครับ
References…