Trend 2020 : Millennial Generation

Gen Millennial หรือ GenY ในที่นี่จะนับเอาช่วงวัยหลังจบการศึกษาปริญญาตรีขึ้นมาถึงกลุ่มอายุราวๆ 40 บวกลบ… ซึ่งทฤษฎีการแบ่งกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดด้วยการกำหนดเป็น Generation เป็นการแบ่งโดยอ้างอิงพฤติกรรมการบริโภคเป็นหลัก… วันเดือนปีเกิดหรืออายุ จึงไม่ใช่ข้อมูลหลักที่ต้องระบุชัดๆ เปะๆ… แต่ช่วงเวลาการเกิดและเติบโตของกลุ่มคนวัยต่างๆ จะเติบโตมากับสิ่งแวดล้อมที่ต่างกัน พฤติกรรมการใช้ชีวิตหรือพฤติกรรมการบริโภคและใช้จ่ายเงินทอง จึงแตกต่าง ซึ่งหากเราต้องการสื่อสารหรือค้าขายกับคนกลุ่มไหน ก็ต้องเข้าใจพื้นฐานคนกลุ่มนั้นให้มาก

เอาหล่ะกลับมา GenY กัน… GenY ชอบทำอะไรตามใจตัวเองโดยไม่ยึดตามกระแสหลัก เป็นมนุษย์ JOMO ย่อมาจาก Joy of Missing Out หมายถึงหาความสุขได้โดยไม่ต้องออกไปไหน เพราะคนกลุ่มนี้เกิดและเติบโตมากับอินเตอร์เน็ต… ก็อย่างที่ทราบว่า อะไรๆ ก็หาได้จากอินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะความบันเทิง

คนกลุ่มนี้รักสุขสบายและเติมเต็มชีวิตด้วย Wellness Experience… เข้า Fitness กินอาหารสุขภาพ สะสมความรู้ใหม่ๆ หลากหลาย ใส่ใจบุคคลิกภาพเสื้อผ้าหน้าผมและผิวพรรณ… ความบันเทิงส่วนใหญ่พึ่งพาอินเตอร์เน็ตอย่าง App Streaming ทั้งหลาย… ใช้เวลาส่วนหนึ่งในสื่อสังคมออนไลน์เป็นประจำ และกล้าใช้จ่ายเพื่อแลกประสบการณ์ที่สร้างประสบการณ์แปลกใหม่ หรือช่วงเวลาพิเศษอันแตกต่าง…รายงานการตลาดจาก Eventbrite บริษัทแพลตฟอร์มผู้ให้บริการตั๋วงานอีเวนต์ ระบุว่า กลุ่ม GenY 72% ยินดีจ่ายเงินให้กับประสบการณ์ที่ยากแก่การเข้าถึง

มีข้อมูลชี้ชัดว่า คน GenY ช่วงวัย 30 บวกลบจะมองหาบ้านหรือคอนโดมิเนียม พร้อมลงทุนและกู้ยืมเพื่อเริ่มสร้างฐานะ… ในขณะที่ GenY บางส่วนที่รายได้และฐานะไม่มั่นคง หรือยังเป็นสมาชิกครอบครัวขยายและโสด จะเริ่มกระตือรือล้น ขวานขวายหาความรู้ใหม่ๆ และมองหาโอกาสใหม่ๆ ไปพร้อมกัน

ลองมาดูพฤติกรรมแยกเฉพาะดูบ้าง… GenY ให้ความสำคัญกับการพักผ่อนนอนหลับ ผลสำรวจจาก Zion Market Research พบว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสกินแคร์ สปา หรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการนอน เป็นที่นิยมมากในกลุ่ม GenY… ในตลาดสหรัฐอเมริกาสามารถทำรายได้ถึง 4 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในสินค้าประเภทดูแลตัวเอง ที่สามารถใช้งานได้ที่บ้าน เช่น แอพพลิเคชั่นสำหรับกล่อมเพื่อให้หลับสบาย หรือเทียนหอมเพื่อเสริมสร้างบรรยากาศให้รู้สึกผ่อนคลาย

สถิติการกู้เงินจากธนาคาร HSBC ในประเทศจีนพบว่า 70% ของคนที่อายุ 19-36 ปี คือช่วงอายุที่เริ่มต้นวางแผนลงทุนเรื่องอสังหาริมทรัพย์ของตัวเอง นอกจากนี้ยังมองหาที่อยู่อาศัยประเภท Co-Sharing อย่างคอนโดที่ใช้พื้นที่ส่วนกลางในส่วนของห้องครัวหรือห้องนันทนาการต่างๆ แฟลตหรือบ้านเช่าที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายได้จากการแชร์ห้องหรือชั้นอาศัยการได้เข้าร่วมกิจกรรมจากพื้นที่ส่วนกลางแต่มีความหลากหลาย อย่างพื้นที่ยิม ห้องครัว ห้องสมุด ห้องนั่งเล่น ห้องดูภาพยนตร์ หรือแม้แต่สวนผักซึ่งใช้งานได้แบบกลางแจ้งเหล่านี้ สามารถแบ่งเบาค่าใช้จ่ายและเติมเต็มความเป็นบ้านที่เพียบพร้อมเหมือนดั่งบ้านส่วนตัวได้เช่นกัน

การชื่นชอบซื้อของออนไลน์ของชาวมิลเลนเนียล เปรียบเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญอันดับต้นๆ ของการใช้ชีวิต การคัดเลือกสินค้าที่ดีที่สุดหรือได้ราคาคุ้มค่าที่สุดเป็นเหมือนชัยชนะของการช้อปปิ้ง ยิ่งไปกว่านั้นคือการได้รับประสบการณ์ซื้อของทางออนไลน์ที่ไม่เหมือนใคร อย่างการออเดอร์สินค้าพรีเมียมหรือสินค้าที่มีคุณสมบัติแตกต่างเฉพาะบุคคลการได้รับสินค้าลดราคาเฉพาะลูกค้าวีไอพีตลอดจนการเป็นสมาชิกที่ได้รับสิทธิพิเศษ ทั้งหมดนี้เป็นความภูมิใจเล็กๆ น้อยๆที่สามารถตอบโจทย์การตัดสินใจเรื่องการใช้จ่ายได้เช่นกัน

บริการในรูปแบบ Home as a Service กลายเป็นกระแสที่เข้ามาตอบรับพฤติกรรมการใช้งานที่อยู่อาศัยภายใต้ข้อจำกัดด้านเนื้อที่และราคาค่าใช้จ่าย โดยการเติมเต็มพื้นที่ที่ขาดหายไป ด้วยการเช่าพื้นที่ส่วนกลาง ใช้บริการส่วนใดส่วนหนึ่งของบ้านในลักษณะ Co-Living เช่าอุปกรณ์อำนวยความสะดวกตลอดจนลงทุนกับเทคโนโลยีสมาร์ทโฮมที่ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายด้านพลังงานภายในบ้านได้ เช่น สินค้า Smart Thermostat ผู้ช่วยอัจฉริยะจัดการระบบไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอย่างชาญฉลาดของบริษัท Nest ที่สามารถครองใจชาวมิลเลนเนียลในสหรัฐอเมริกา จนบริษัทสามารถปรับลดราคาลงเพื่อให้สินค้าเข้าถึงผู้คนได้ทุกกลุ่ม

ในปี 2018 ผลสำรวจทั่วโลกจาก International Workplace Group พบว่าหลายบริษัทเริ่มปรับเปลี่ยนการจ้างงานที่สามารถทำได้จากที่บ้านและรับอัตราพนักงานฟรีแลนซ์มากขึ้นถึง 56% ซึ่งเป็นที่มาของชุมชนคนทำงานที่บ้านซึ่งเป็นคน GenX ถึง 75%… บ้านสำหรับ GenY ยุคนี้จึงจำเป็นต้องเอื้อแก่การทำงานด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อม อุปกรณ์ หรือเฟอร์นิเจอร์ สิ่งเหล่านี้ต้องตอบโจทย์การทำงานทีสมดุลกับการใช้ชีวิต มีเครื่องมือดิจิทัลใช้ ต้องการอินเตอร์เน็ตและ Wi-Fi ความเร็วสูง ทุกสิ่งอย่างต้องใช้งานง่ายแต่เปี่ยมประสิทธิภาพ เป็นมืออาชีพและทันสมัย

สิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันและการบริการที่สามารถลดภาวะโลกร้อนได้ เป็นที่จับตาของลูกค้า GenY… รายงานจาก Deloitte ระบุว่า GenY ชาวอเมริกัน 60% ตระหนักเรื่องปัญหาโลกร้อนและอุณหภูมิโลกที่ผันผวน หลายคนเลือกลงทุนกับนวัตกรรมที่สามารถแบ่งเบาค่าไฟ หรือเลือกติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อการลงทุนที่ยั่งยืนสำหรับอนาคต

นอกจากนี้ชาวมิลเลนเนียลยังนับเป็นกลุ่มลูกค้าที่เลือกใช้แอพพลิเคชั่นที่สามารถเชื่อมต่อทุกกิจกรรม เช่น กิจกรรมภายในบ้าน นอกบ้าน การใช้ยานพาหนะ หรือแม้แต่แอพพลิเคชั่น เชื่อมต่อกับเพื่อนบ้านในเขตเมือง เพื่อร่วมกันดูแลความปลอดภัยในชุมชน แชร์สิ่งต่างๆ ร่วมกัน หรือสร้างกิจกรรมที่มีประโยชน์แก่ชุมชน… รวมทั้งนิยมใช้อุปกรณ์ IoT Waerables อย่างมากด้วย

การซื้อของต้องเน้นที่ความคุ้มค่าและใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพราะฉะนั้นการบริการเดลิเวอรี่ ที่สามารถตอบโจทย์ได้ ตั้งแต่แพ็คเกจลดค่าขนส่งในกรณีระยะทางส่งสั้น ลดราคาค่าขนส่งแบบแพ็คเกจรายเดือน หรือการส่งฟรี หากเป็นกล่องบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล นับเป็นบริการที่สามารถเอาใจ GenY ได้ดี

สินค้าแบรนด์เฟอร์นิเจอร์หรือตกแต่งภายในเป็นสิ่งที่ GenY ให้ความสนใจ… แต่ต้องสามารถตอบโจทย์ได้ทั้งการทำงานและการสร้างคอมฟอร์ตโซนที่ดีสำหรับการพักผ่อน ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่จำกัดหรือต้องอาศัยร่วมกับคนเจเนอเรชั่นอื่น

ร้านค้าที่สามารถตอบโจทย์การสร้างบรรยากาศ Feel Like Home กลายเป็นแลนด์มาร์กได้ดี ถึงแม้ว่า GenY จะชื่นชอบการใช้บริการร้านค้าออนไลน์เป็นอันดับต้นๆ แต่การออกไปใช้บริการที่ร้านค้าก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะคนกลุ่มนี้จะตัดสินใจไปถึงหน้าร้านก็ต่อเมื่อออกไปแล้วจะได้รับสิทธิพิเศษดั่งลูกค้าคนสำคัญ ประสบการณ์การบริการที่มากกว่าร้านทั่วไป หรือได้รับส่วนลดในราคาที่ดีกว่าการใช้บริการทางออนไลน์

GenY ขึ้นชื่อเรื่องการปรับตัวเข้ากับเจเนอเรชั่นอื่นได้ดี และยินดีจะเข้าร่วมหรืออยู่ร่วมกับคนเจนอื่นๆ ในบริบทต่างๆ ดังนั้น ธุรกิจที่จะเข้ามารับพฤติกรรมเหล่านี้คือธุรกิจ “แชร์” ไม่ว่าจะเป็น Co-Living, Co-Working หรือแม้แต่ธุรกิจแชร์รถอย่าง Ride-Sharing ซึ่งเหล่านี้คือกระแสสังคมเพื่อนบ้านที่นอกจากจะลดค่าใช้จ่ายได้ ยังสามารถสร้างประสบการณ์ใหม่ในทุกพื้นที่ที่เข้าร่วม

ส่วนตัวสินค้า… เรื่องราวของผลิตภัณฑ์ตั้งแต่เป็นวัตถุดิบจนถึงขั้นตอนการผลิตเป็นสินค้า เรื่องราวเหล่านี้สะท้อนคุณค่าและสร้างความเชื่อมั่นในสินค้าได้ดี สินค้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม รวมถึง สินค้ามือสองคุณภาพดี เป็นสินค้าที่ได้รับการเปิดใจสำหรับ GenY ที่รักษ์โลก นิยมสรรหาของดี และชื่นชอบการรีวิวหรือบอกต่อบนโซเชียลมีเดีย