วารสาร Trend 2020 ของสำนักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ TCDC ได้เผยแพร่แนวโน้มของปีหน้าจากข้อมูลมากมายที่ TCDC ทำขึ้นทุกปี และเมื่อวานผมก็ได้เผยแพร่ eMagazine ฉบับดังกล่าวผ่านเวบไซด์ https://reder.red ไปแล้ว ซึ่งท่านสามารถหา download ได้ทั้งจากเวบไซต์ https://web.tcdc.or.th/ รวมทั้งที่ reder.red เช่นกัน
ข้อมูลในวารสารเล่มดังกล่าวอัดแน่นหลายมิติครับ โดยเฉพาะข้อมูลเทรนด์หรือแนวโน้มผู้บริโภค ที่คนทำธุรกิจต้องรู้ไว้ใช้เป็นและตามให้ทันแนวโน้มที่กำลังจะมา…
ผมจะยังยึดถือข้อมูลผู้บริโภคโดยยึดถือตามการแบ่งโดยช่วงวัยเหมือนเดิมน๊ะครับ… วันนี้มาเริ่มกันที่ Baby Boomer ช่วงวัย 55-73 ปี กันก่อนครับ
ทัศนคติของเบบี้บูมเมอร์ มองว่า อายุเป็นเพียงค่ากลาง (Age-Agnostic)… ส่วนเรื่องแฟชั่นและความงาม ปี 2018 บริษัท JWT Intelligence ศึกษาพบว่า 91% ของผู้หญิงอายุระหว่าง 53-72 ปี ต้องการให้โฆษณาต่างๆ ใส่ใจพวกเธอเหมือนประชาชนทั่วไป โดยไม่ถูกจัดหมวดหมู่ว่าอยู่ในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
กระแสเรื่องการเคารพตนเองที่โหมกระหน่ำในกลุ่มมิลเลนเนียลและเจนซี นำไปสู่การ รีแบรนด์ใหม่ให้กับคำว่า “Anti-Aging” เช่นจากที่ Royal Society for Public Health ของอังกฤษ ผลักดันให้โฆษณาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวยกเลิกการใช้คำว่า “การต่อต้านริ้วรอย” โดยเสียงกว่าครึ่งจากเหล่าเบบี้บูมเมอร์กล่าวว่า
รู้สึกรำคาญใจเมื่อเห็นโฆษณาที่มีการรีทัชภาพที่ดูอ่อนวัยเกินจริง ซึ่งแท้จริงแล้วควรคงภาพลักษณ์ที่แท้จริงและให้ความสำคัญกับความรู้สึกของผู้คนมากกว่า
ช่องว่างระหว่างวัยเป็นเรื่องท้าทายสำหรับคนเจนนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเชื่อมโยงกลุ่มเบบี้บูมเมอร์กับเหล่าอินฟลูเอนเซอร์เจนมิลเลนเนียลและเจนซี ด้วยเหตุนี้คนรุ่นเดียวกันจึงเป็นแรงบันดาลใจให้แก่กันมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นทริเชีย คัสเดน (Tricia Cusden) บล็อกเกอร์ด้านความงามจากอังกฤษ ที่คลิปแต่งหน้าทางช่องยูทูบของเธอมีผู้ชมกว่า 5 ล้านครั้ง
เช่นเดียวกับ Chinatown Pretty เพจที่มีช่างภาพ 2 คนเป็นผู้ดูแล เน้นบอกเล่าชีวิตและการทำงานของเหล่าเบบี้บูมเมอร์ในย่านไชน่าทาวน์ ทั้งนี้ในอีกแง่หนึ่ง อินฟลูเอนเซอร์ เหล่านี้ช่วยลดช่องว่างระหว่างวัย เพราะสามารถดึงดูดเจนที่มีอายุน้อยกว่าให้สามารถเข้าถึง
ได้มากขึ้น
… ธุรกิจไหนที่กำลังมอง Baby Boomer เป็น Target Audience อ่านทวนหลายๆ รอบเลยครับ ถ้าถามผม ผมเห็นโอกาสที่จะเจาะเข้าผู้หาผู้ใหญ่ที่มีเหตุผลซ้อนเหตุผล และมองโลกตรงไปตรงมา ไม่เสแสร้งแต่ก็ไม่นิยมถ้อยความหรือท่าทีแสลงอารมณ์เท่าไหร่ อย่างเช่น… ท่านใดจะขายเครื่องสำอางให้คน Baby Boomer ก็โปรดหลีกเลี่ยงคำโฆษณาแสลงๆ อย่าง “ต้านริ้วรอย” ให้ดีด้วยครับ ไม่ใช่ไม่ต้องการใช้คุณสมบัติการต้านริ้วรอยน๊ะครับ แต่การตัดสินใจซื้อสินค้าที่ชูคุณสมบัติต้านริ้วรอยโต้งๆ ชัดๆ จะหมายถึงยอมรับโต้งๆ ชัดๆ ว่าตัวเองมีปัญหาริ้วรอย
ถ้าย้ายมาฝั่ง Target Audience มาเป็นชายวัย 55-73 ปี… คนกลุ่มนี้จะทัศนคติใกล้เคียงกับทัศนคติเรื่องริ้วรอยของฝ่ายหญิงเช่นกัน… การพูดถึงโรคภัยไข้เจ็บที่หมายถึงปัญหาสุขภาพ หรือปัญหาสมรรถภาพด้านต่างๆ การใช้ถ้อนคำโฆษณาดูเกินจริงอย่าง สินค้าสูตรสุขภาพดีครอบจักรวาล จะ Hook คนกลุ่มนี้ได้ยาก
ข้อมูลเผยแพร่จาก ThinkwithGoogle.com ได้รายงานเทรนด์การใช้ YouTube ของคน Baby Boomer เอาไว้ว่า… ผู้ใหญ่วัยนี้ชอบดูคลิปบน YouTube ตอนที่ว่างเสมอ โดยหนึ่งในสามของคนกลุ่มที่เข้า YouYube จะดูคลิปเพื่อเรียนรู้หรือคลิปแนว How to…
ชาวบูมเมอร์ที่เข้า YouTube จะใช้ YouTube เพื่อความบันเทิงสูงถึง 68%…
ประเด็นที่น่าสนใจคือ… คนบูมเมอร์มีกำลังซื้อมหาศาล หลายสำนักให้ตัวเลข “มูลค่าของกำลังซื้อ” จากคนกลุ่มนี้สูงเกิน 50% ของยอดขาย ซึ่งคนกลุ่มนี้ไม่เพียงแต่ใช้จ่ายเพื่อตัวเองเท่านั้น… แต่ยังเป็นวัยที่ใช้จ่ายเพื่อสมาชิกในครอบครัวด้วย
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คนกลุ่มนี้มักจะมีอสังหาริมทรัพย์ในมือกันเป็นส่วนใหญ่… และกำลังมองหาชีวิตบั้นปลายที่ “อาวุโสแล้วโอเคจริงๆ” กันทั้งสิ้น… ผมรู้จักหลายท่านที่มีที่ทางมากมายสะสมมา และไม่รู้จะทำยังไงก็สมบัติเหล่านี้… ผมมีตัวเลขไม่เป็นทางการจำนวนหนึ่งที่ชี้ว่า ประกาศขายที่ดินส่วนใหญ่เป็นของคนบูมเมอร์สูงเกือบ 30% ทีเดียว… ผมอยากทำวิจัยหา Trend เรื่องนี้เหมือนกันครับ ถ้าท่านไหนสนใจตรงกันก็ยินดีร่วมมืออย่างยิ่ง… ผมก็อยากประเมิน Properea Bot เหมือนกันว่าแม่นข้อมูลใกล้เคียงของพี่ใหญ่อย่าง Google, Facebook แค่ไหนอย่างไร
…พรุ่งนี้มาต่อกันที่ GenX ครับ!
อ้างอิง