หลายปีมาแล้วที่กรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้งบประมาณรุกเข้าหาชุมชนที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว ด้วยโครงการชุมชนท่องเที่ยวนวัตวิถี ที่ข้อมูลล่าสุดในมือผม ประสบความสำเร็จแล้วมากกว่า 160 ชุมชนทั่วประเทศ… และล่าสุดกับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่กำลังลือลั่นอย่างแคมเปญร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย… แหล่งท่องเที่ยวเมืองรองย่อมน่าสนใจขึ้นอีกไม่น้อย
ย้อนกลับไปเมื่อครั้งกรมพัฒนาชุมชนและเหล่าพัฒนากรทุกระดับ… ลุยเข้าหาชุมชนร่วมพัฒนาสินค้าโอทอปจนกลายเป็นตำนานที่วันนี้ ทั่วโลกขอมาศึกษาดูงาน เพื่อนำไปปรับใช้กับประเทศของตน ในขณะที่อีกฝั่งฟากของสินค้าโอทอปนับพันรายการ ก็ไปไกลถึงการส่งออกและขึ้นชั้นสินค้าพรีเมี่ยม ที่แม้แต่การบินไทยสายการบินแห่งชาติไทย ก็ยังคัดสินค้าโอทอปเกรดพรีเมี่ยม ไปให้บริการบนเที่ยวบินที่ไม่ว่าจะอย่างไร ก็ถือเป็นเที่ยวบินระดับพรีเมี่ยมที่นักเดินทางประทับใจเสมอมา
ผมยกเอาข้อมูลชุมชนโอทอปและชุมชนนวัตวิถีขึ้นมาก็เพื่อจะชี้ว่า… แนวโน้มการท่องเที่ยวเมืองรองในปัจจุบัน กำลังได้รับความนิยมและมีโอกาสยั่งยืนสูงมากๆ

กรณีศึกษาอย่างชุมชนโอทอปนวัติวิถีบ้านแม่กำปอง เชียงใหม่ ที่กลายเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว ที่เติบโตยั่งยืน สร้างเศรฐกิจให้ชุมชนในมิติที่ลึกซึ้งจนแข็งแกร่งท่ามกลางกระแสดิจิตอลที่ก้าวล้ำไปไกลกว่าเดิมทุกวัน…

พูดถึงกระแสดิจิตอล พฤติกรรมการท่องเที่ยวของคนยุคดิจิตอลที่นักการตลาดนิยามไว้อย่าง FOMO และ JOMO… ที่กลุ่มออกไปเที่ยวเพราะเป็นพวก FOMO หรือ Fear Of Missing Out แบบกลัวตกกระแส หรือกลัวไม่ได้อวดประสบการณ์ กับกลุ่ม JOMO หรือ Joy Of Missing Out ที่ไล่ล่าประสบการณ์แปลกใหม่… มักจะเดินทางท่องเที่ยวตามหาจุดหมายปลายทางที่แปลกใหม่ ไม่ซ้ำใครยิ่งชอบ รวมทั้งสะสมประสบการณ์ในมิติการใช้ชิวิตหรือ Life Style ระหว่างเดินทางท่องเที่ยวเช่น เที่ยวไปทำงานไปเดินทางไปเรื่อยๆ หรือพาตัวเองแสวงหากิจกรรมใหม่ๆ ในที่แปลกใหม่ อย่างกรณีการนัดกันเดินทางท่องเที่ยวของกลุ่มนักบิดที่ใช้มอร์เตอร์ไซด์ยี่ห้อเดียวกัน หรือการเดินทางเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมวิ่งเทรลที่ท้าทายและสนุกสนานยิ่งกว่าวิ่งมาราธอนทางราบเป็นต้น

แน่นอนว่า… ทุกๆ การเดินทางจะต้องมีที่ให้นอน มีอาหารให้กิน… สองอย่างนี้จะเติบโตตามจำนวนคนที่เดินทางเข้าพื้นที่ ที่นับวันชุมชนเล็กๆ ในเมืองรองที่คนยังรู้จักน้อย… จะเติบโตทางเศรษฐกิจขึ้นทุกวันจนผ่านไปอีกหลายปีข้างหน้า… ชุมชนเล็กๆ ในเมืองรอง ก็จะวิวัฒน์ตัวเองผสมผสานการเป็นแหล่งท่องเที่ยวและจุดหมายปลายทางของคนเดินทางได้เช่นกัน ตัวอย่างชัดๆ เรื่องค่าเช่าห้องพักแบบโฮมสเตย์ในบ้านแม่กำปอง ที่ทำราคาได้สูงถึงคืนละ 1000-3000 บาท มีเยอะมากชนิดที่ห้องพักในตัวเมืองเชียงใหม่กว่าครึ่งไม่กล้าตั้งราคาที่พักเกิน 500 บาทต่อคืนด้วยซ้ำ

ผมกำลังพูดถึงอสังหาริมทรัพย์ในเมืองรองและชุมชนที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว ที่ปัจจุบันคำว่า “ทำเลดี” กว้างและลึกกว่าที่เคยเป็นมา… กรณีของฮิโนกิแลนด์ที่สร้างขึ้นในเขตตำบลศรีดงเย็น อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นกรณีศึกษาเรื่องแหล่งท่องเที่ยวสร้างได้ที่ผมคิดว่า มีมิติและข้อมูลน่าสนใจเต็มไปหมดให้เรียนรู้…
กระแสท่องเที่ยวเมืองรองกำลังแรงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากพฤติกรรมคนทุกเพศวัย และแรงหนุนจากนโยบายรัฐที่เอาจริงเอาจังกับการท่องเที่ยวเมืองรองยิ่งกว่ายุคไหนๆ…
อสังหาริมทรัพย์ทำเลดีตามแหล่งท่องเที่ยวเกิดใหม่เหล่านี้… ก็กำลังรอการพัฒนาให้เติบโตยั่งยืนอย่างแม่กำปอง ผาตากเสื้อหรือฮิโนกิแลนด์อีกมาก
หนาวแล้ว… เก็บกระเป๋าเตรียมเดินทางไปดูกับตากันดีกว่า!… ผมเองก็มีสถานที่ในใจที่อยากหาทุนไปปลุกปั้นเช่นกัน… ข้อมูล แนวคิด เทคโนโลยีและแผนธุรกิจ จึงมีสะสมไว้พอแลกเปลี่ยนแบ่งปันท่านที่สนใจอยู่ประมาณหนึ่ง… ทักมาครับถ้าสนใจ
…ไม่หวง ไม่กั๊กเหมือนเดิม!!!
อ้างอิง
- http://www.cdd.go.th/160-%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B8%B4
- https://www.facebook.com/bannhinoki/
- ขอบคุณภาพ Featured ภูทับเบิกจากเวบไซต์ https://www.nairobroo.com