ผมพยายามหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึง “พื้นฐานทางเทคนิค” ในการวิเคราะห์หลักทรัพย์ และ สินทรัพย์เพื่อการลงทุน โดยเฉพาะหุ้น และ Cryptocurrencies ซึ่งกำลังกลายเป็นตลาดที่เติบโตโดยไม่อาจประเมินขนาดที่ชัดเจนได้ว่าอนาคตจะโตแค่ไหน… แต่ก็รับรู้ได้เหมือนๆ กับทุกท่านว่าทั้งหมดเติบโตขึ้นมาก และ เติบโตขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับแนวคิดเรื่องการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ และ ตลาดสินทรัพย์เพื่อ “ทำเงิน” เป็นช่องทางรายได้อีกทาง… ซึ่งหลายท่านที่มองเห็นโอกาสอันท้าทายจึงไม่พลาดที่จะขวนขวาย เพื่อเอาชนะความเสี่ยงในการลงทุน… โดยเฉพาะระบบนิเวศน์การลงทุนข้ามเขตแดน หรือ Cross Border ที่อินเตอร์เน็ตจัดสรรให้พวกเรา
การปรับ Contents บน Properea เพื่อรองรับการลงทุนในจักรวาลคริปโตมาตั้งแต่ต้นปี 2021 ทำให้ผมได้พบ และ พูดคุยกับเพื่อนใหม่เพื่อนเก่าหลายๆ ท่านที่สนใจ และ สนุกสนานกับคริปโตในแง่มุมต่างๆ มากมาย… โดยส่วนตัวผมเป็น Developer ในโลกคริปโต ซึ่งสนใจเทคโนโลยีมากกว่าราคา หรือ มูลค่า… ในขณะที่เพื่อนใหม่เพื่อนเก่าหลายท่าน ทักถามเปิดประเด็นเรื่องราคาและมูลค่า รวมทั้งรายละเอียดเชิงเทคนิคราคาและเทคนิคการลงทุนเข้ามาเรื่อยๆ เพื่อแบ่งปันแลกเปลี่ยน ต่อยอดข้อมูลความเชื่อที่ต่างคนต่างก็มีของตัวเอง เพื่อ “ช่วยกันทำเงิน” บนความเสี่ยงที่สามารถช่วยกันเอาชนะ และ แบ่งปันความสำเร็จกันได้โดยไม่ต้องแข่งขัน… ซึ่งดีงามและเลอค่าต่อใจมาก
เพื่อตอบสนอง และ ขอบคุณความไว้วางใจเรื่องข้อมูล… Properea จะเพิ่มข้อมูลและความรู้เชิงวิเคราะห์สินทรัพย์ และ หลักทรัพย์เพิ่มจากแนวทาง Contents ที่เคยมีมาก่อน ซึ่งเราจะเริ่มปูพื้นกันตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป…
และผมจะเริ่มต้นด้วยการพาท่านไปทำความรู้จักกับ วิคคอฟฟ์ หรือ Richard Demille Wyckoff เจ้าของสูตรการวิเคราะห์หลักทรัพย์ หรือ การวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิค ซึ่งรวบรวมเป็นหนังสือชื่อ Stock Market Technique Number One และ เล่มอื่นๆ อีกกว่าสิบปก ซึ่งเป็น “มหาคำภีร์” สำหรับนักวิเคราะห์ที่ไม่รู้ ไม่เข้าใจ ก็ไม่ใช่นักวิเคราะห์
สำหรับท่านที่ยังไม่เคยรู้จัก และ ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน… Richard Wyckoff เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิก และ พัฒนาการวิเคราะห์หุ้นในตลาด Wall Street และ ก่อตั้งวารสาร The Magazine of Wall Street แบบบอกรับเป็นสมาชิก และ มีสมาชิกกว่า 200,000 คนมาตั้งแต่ก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
ก่อนนั้น Wyckoff เคยทำงานกับบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งใน New York และ เห็นนักลงทุนรายย่อย ติดกับดักของลงทุนรายใหญ่ เพราะเป็น “มือใหม่ และ รายเล็ก” ที่ต้องเสียทรัพย์สิน และ โอกาสเหมือนแมลงเม่าบินเข้าหากองไฟเพราะแสงสว่าง โดยไม่รู้จังหวะเปลวไฟที่ทำลายแมลงเม่าได้ชั่วพริบตา… Wyckoff จึงเริ่มด้วยตีพิมพ์ข้อมูลเผยแพร่ชื่อ The Real Rules of the Game… ก่อนจะตีพิมพ์ข้อมูลต่อเนื่องอีกมากมาย กระทั่งกลายเป็น The Magazine of Wall Street ซึ่งปัจจุบันมีสำเนาเก็บรักษาไว้โดย Pennsylvania State University
กล่าวเฉพาะ The Real Rules of the Game ซึ่ง Wyckoff ทุ่มเทศึกษา Footprint หรือ รอยเท้าของนักลงทุนรายใหญ่ และ Super Traders ซึ่งการบันทึกรายการซื้อขายในยุคนั้นไม่ได้มีเส้นกราฟแบบ Real Time มีแท่งเทียนเขียวแดง และ จอ หรือ กระดานดิจิทัลใช้อย่างในปัจจุบัน… ข้อมูลในเอกสารอ้างอิงที่ผมมีเรียกสื่อบันทึกข้อมูลที่ Wyckoff ใช้ศึกษาว่า Tape ซึ่งก็คือม้วนกระดาษบันทึกข้อมูลจากเครื่อง Stock Ticker ซึ่งมีใช้มาตั้งแต่ปี 1867 และพัฒนาบนเทคโนโลยีเดียวกันกับเครื่องพิมพ์โทรเลข
หัวใจสำคัญที่ The Real Rules of the Game ของ Wyckoff ซึ่งได้จากการแกะรอย “Price หรือ ราคา และ Volume หรือ ปริมาณซื้อขาย” ซึ่งเป็นร่อยรอย หรือ ประวัติการส่งออเดอร์ของนักลงทุนรายใหญ่ และ Super Traders… ทำให้ Richard Demille Wyckoff สามารถพล๊อตกราฟขึ้นมาอธิบาย “วงจรราคา และ ความสัมพันธ์ระหว่างราคา กับ ปริมาณซื้อขาย” ซึ่งกลายเป็น “กฏทอง” ที่ใช้ได้กับการิวเคราะห์หุ้น… อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา… ตลาดล่วงหน้าทั้งโภคภัณฑ์ และ พลังงาน รวมทั้งตลาดคริปโตที่กำลังเปลี่ยนโลกการลงทุนอยู่ในปัจจุบัน… โดยมี “ข้อเท็จจริง” จนกลายเป็นกฏ 3 ข้อ หรือ The Three Laws of Wyckoff ที่นักลงทุน และ นักวิเคราะห์ต้องจำได้ใช้เป็นก่อนอื่น ได้แก่
1. The Law of Supply and Demand หรือ กฏแห่งอุปสงค์ และ อุปทาน
เมื่ออุปสงค์ มากกว่า อุปทาน หรือ Demand > Supply ราคาจะปรับตัวสูงขึ้น… และ ถ้าอุปสงค์ น้อยกว่า อุปทาน หรือ Demand < Supply ราคาก็ปรับตัวลงมา… แต่ถ้าอุปสงค์ เท่ากับ อุปทาน หรือ Demand = Supply ราคาก็จะเคลื่อนไหวเล็กน้อยไร้ทิศทาง หรือ Sideways นั่นเอง
2. The Law of Cause and Effect หรือ กฏของเหตุและผล
เมื่อตลาดมีความเคลื่อนไหวอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็จะส่งผลต่อ “ราคา และ ทิศทาง” หลักทรัพย์ตามเหตุปัจจัยนั้น… ภายใต้ Cause and Effect Law นี่เองที่นำมาซึ่งหลักการวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวของราคา ที่สามารถใช้ Point and Figure Chart หรือ จุดและรูปร่างบนกราฟ ประเมินแนวโน้ม “ทิศทาง และ ราคาในอนาคต” ผ่านกรอบการเคลื่อนไหว หรือ Trading Range เพื่อทำความเข้าใจระยะสะสม หรือ Accumulation Phase และ ระยะปล่อยขาย หรือ Distribution Phase… ซึ่งนักวิเคราะห์เก่งๆ แม่นๆ สามารถกำหนดช่วงราคาเข้าออกได้อย่างแม่นยำได้เลย… การวิเคราะห์ราคาของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จะมองหา Accumulation Phase/Distribution Phase ระยะต่างๆ เสมอ ซึ่งจะมีข้อมูลและแนวทางมาเพิ่มให้ทุกท่านอีกเรื่อยๆ
3. The Law of Effort หรือ กฎของความพยายาม
จะเป็นข้อมูล “แจ้งเตือน” ที่ปรากฏบนสถิติราคา และ ปริมาณซื้อขายซึ่งจะ ขัดแย้ง หรือ Divergence จนดูยังไงก็ไปด้วยกันไม่ได้ อันเป็นสัญญาณ “การกลับตัว” ของแนวโน้ม
The Three Laws of Wyckoff ยังมีรายละเอียด และ ความซับซ้อนในการนำสู่การวิเคราะห์ ที่ต้องอธิบาย และ ทำความเข้าใจอีกมาก… โดยเฉพาะการวิเคราะห์ “วงจรราคา หรือ Price Cycles” และรายละเอียดในระยะสะสม หรือ Accumulation Phase และ ระยะปล่อยขาย หรือ Distribution Phase ซึ่งตัดสินความสำเร็จล้มเหลวในตลาดของนักลงทุน
โดยส่วนตัวผมเรียน Wyckoff Method นานมาแล้ว แต่ก็เก่าเก็บไม่ได้ใช้จริง และ ยอมรับว่าไม่เก่ง แต่ก็พร้อมจะเรียนรู้ใหม่… คราวนี้นอกจากจะนำมาปัดฝุ่นเพื่อเป็นข้อมูลแบ่งปันทุกท่านที่ติดตามแล้ว ก็เลยท้าทายตัวเองไปอีกขั้นว่า… จะสามารถเขียนบอท Wyckoff เกาะกราฟราคา Bitcoin ได้หรือไม่?… แต่สิ่งที่ได้ก่อนอื่นแล้วแน่นอนคือ ความเบาปัญญาของตัวเองถูกขัดเกลาให้เข้าใจมากขึ้นอีหน่อย เพราะต้องลองผิดลองถูกกับเหตุการณ์ หรือ Event บนกราฟเพื่อนำมาใช้เขียนบอทอีกที… และจะพยายามนำมาเขียนเป็นเนื้อหาแบ่งปันทุกท่านเป็นระยะ เท่าที่เวลาและความพยายามขั้นสุดของตัวเองจะทำได้
ขอบคุณที่ติดตาม และกดชอบกดแชร์จากทุกท่านครับ!
บทความในชุด Wyckoff Method… พื้นฐานการวิเคราะห์หลักทรัพย์ และ Cryptocurrency
- The Laws of Wyckoff… พื้นฐานนักเทรด
- Wyckoff Price Cycle… วงจรราคาของวิคคอฟฟ์
- Wyckoff Accumulation and Selling Climax… ระยะสะสมของวิคคอฟฟ์
- Wyckoff Distribution And Buying Climax… ระยะจำหน่ายจ่ายแจกของวิคคอฟฟ์
References…
- https://www.lucid-trader.com/the-wyckoff-logic
- https://en.wikipedia.org/wiki/Richard_Wyckoff
- Featured Image: Photo by Anna Nekrashevich from Pexels
