หลังการประกาศอัตราดอกเบี้ยใหม่จากที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ หรือ Federal Reserve System หรือ FED ในช่วงปลายสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม ราววันที่ 4–5 พฤษภาคม ซึ่ง FED ตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยทันที 0.5% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นที่แรงที่สุดในรอบ 22 ปีเพื่อประคองอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจากผลกรรมที่ได้ก่อสงครามและสุมไฟความขัดแย้งไปทั่วโลก นับตั้งแต่หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง… โดยภาพรวมของตลาดเงินและตลาดทุนหลักๆ ในสหรัฐอเมริกา และ ตลาดใหญ่ๆ ในอีกหลายประเทศทั่วโลกได้กลับมาคึกคักในบรรยากาศตอบรับที่เป็นบวก… ส่วนการตอบรับของตลาดคริปโตหลังการปรับดอกเบี้ยของ FED ก็ได้เห็นการอ่อนตัวของราคาคริปโตทุกตัวมาตั้งแต่ตั้งแต่เหรียญราชาอย่าง Bitcoin ลงไปจนถึงโทเคนสร้างเอามันส์ดันเอาฮาราคาไม่เกี่ยงทุกตัว
พอเข้าสัปดาห์ที่สองของเดือนพฤษภาคมปี 2022… ก็เกิดการโจมตี StableCoin อันดับ 3 ของโลกอย่าง $UST หรือ TerraUSD ไม่ต่างจากเหตุการณ์การโจมตีค่าเงินบาทก่อนเกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง ซึ่ง TerraUSD ได้ตรึงค่าเงินของตนเอาไว้ที่ 1 USD ต่อ 1 UST เหมือนที่เงินบาทก่อนวิกฤติต้มยำกุ้งถูกตรึงเอาไว้ที่ 25 THB ต่อ 1 USD ซึ่งกรณีการโจมตี TerraUSD ในครั้งนี้ก็ได้เห็นการเทขายบิตคอยน์อย่างผิดปกติ…
ก่อนหน้านั้น… Luna Foundation Guard หรือ LFG ได้เริ่มซื้อ Bitcoin เพื่อใช้เป็นเงินทุนสำรองให้กับ TerraUSD เพื่อใช้ Bitcoin เป็นสินทรัพย์ช่วยชดเชยระบบตะกร้าเงินของ TerraUSD ซึ่งมีกลไกการถ่วงดุลด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ซับซ้อน โดย LFG เริ่มสะสม Bitcoin เพื่อทำโครงการนี้ในวันที่ 22 และ 26 มีนาคม 2022 จนถือบิตคอยน์ครบมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์
ช่องโหว่จากการนำ Bitcoin เข้ามาใช้ในกลไกการบริหารตะกร้าเงินของ TerraUSD นี่เองที่ทำให้แผนการโจมตีค่าเงิน TerraUSD ถูกออกแบบเตรียมไว้เพื่อรอจังหวะที่ราคาบิตคอยน์เข้าสู่ขาลงซึ่งจะเกิดขึ้นแน่เมื่อ FED ต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสู้กับเงินเฟ้อ… การยืมบิตคอยน์มาเทขาย หรือ Short Bitcoin จึงเริ่มขึ้นอย่างชัดเจนก่อนจะเทขาย $UST หรือ TerraUSD จนราคาที่ตรึงไว้ 1 USD/UST เหลือเพียง 0.60 USD/UST… ซึ่งราคา $UST ในขณะที่ผมเตรียมต้นฉบับช่วงค่ำของวันที่ 12 พฤษภาคม 2022 มาอยู่ที่ 0.5594 ซึ่งปรับตัวขึ้นมาจากราคาต่ำสุดที่ 0.26XX USD/UST ซึ่งเป็นราคาที่สร้างความตื่นตระหนกให้ตลาดคริปโตไปทั่วโลก… โดยเฉพาะราคาของ Stablecoin ทุกตัวในตลาดทั้งรายเล็กรายใหญ่
กราฟราคา $UST วันที่ 6–12 พฤษภาคม 2022
ประเด็นก็คือ… ความเชื่อของนักลงทุนคริปโตหลายคนที่มอง Bitcoin เป็นทองคำดิจิทัลที่ปลอดภัยพอ และ สามารถใช้ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้ก่อนหน้านี้… ถูกท้าทายเพื่อพิสูจน์ความเชื่อนั้นอย่างชัดเจนเมื่อได้เห็นการเทขายแบบ Panic Selling จนได้เห็นราคาบิตคอยน์ไหลรูดจากระดับ 40,000 USD/BTC ก่อนที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ย ไหลลงมาแตะ 26,350.49 เมื่อช่วงบ่ายของเขตเวลา GMT +7 ของวันที่ 12 พฤษภาคม… ซึ่งลดลงกว่า 30% ในเวลาไม่ถึงเจ็ดวัน
กรณีของ TerraUSD ซึ่งถูกโจมตีมูลค่าผ่านบิตคอยน์จนกระทบระบบนิเวศของ Terra LUNA ซึ่งเป็นบล็อกเชนหลักของเครือข่าย LUNA รวมทั้ง TerraUSD… ในทางเทคนิคถือว่าเป็นกรณีเฉพาะ ถึงแม้ในทางจิตวิทยาการลงทุนจะผลักให้ตลาดคริปโตทั้งระบบติดลบอย่างแรงโดยถ้วนทั่วจนกระดานเทรดทุกแห่งแดงฉานเป็นพฤษภาทมิฬไปหมด… แต่นักลงทุนคริปโตที่อยู่กับ Bitcoin หรือ Ethereum และ คริปโตสกุลอื่นๆ มานานก็จะทราบและเข้าใจความผันผวนของตลาดคริปโต ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่นักลงทุนตัวจริงที่เข้าตลาดมาด้วยความเข้าใจ และ รับความเสี่ยงเองโดยไม่หวังว่าจะมีใครมารับประกันอะไรให้… ทุกคนรู้ดีว่า Bitcoin เคยปรับลดได้มากถึง 70–80% มาแล้วในประวัติศาสตร์ ซึ่งถ้าถามว่าตลาดคริปโตจะพังมั๊ย?… โดยความเห็นส่วนตัวของผมตอบเลยว่า “ไม่พัง” ครับ โดยเฉพาะบิตคอยน์
แต่ถ้าถามว่าราคาวันนี้สมควรจะ Buy The Dip มั๊ย?… ผมคิดว่าอยู่ที่ทักษะ และ การตัดสินใจของท่านครับ แต่ข้อคิดในมุมมองที่ต้องคิดตามการเปรียบเปรยที่ว่า… ราคาสินทรัพย์ลงทุนช่วงผันผวนก็เหมือนมีดที่กำลังหล่นลงพื้น ถ้าทักษะการคว้ามีดกลางอากาศของท่านไม่ดีพอ ก็รอให้มันหล่นถึงพื้นค่อยเก็บก็ได้… อย่าลืมว่า “ฉวยได้ กับ ซวยได้” ต่างกันแค่อักษรตัวเดียว!!!
References…