เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 ณ โรงแรม ดิแอทธินีโฮเทล… สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ได้เปิดเวทีแถลงแผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. ปี 2564–2566 ภายใต้แนวคิด “Strengthening Resilient Future” โดยท่านอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้เกียรติเป็นประธานเปิดการสัมมนาและปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “บทบาทตลาดทุนกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศปี 2564” ด้วย… และมอบรางวัลภายใต้โครงการ ASEAN Corporate Governance Scorecard ให้แก่บริษัทจดทะเบียนไทย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ก.ล.ต. ถือเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการทำหน้าที่กำกับดูแลและพัฒนาตลาดทุนของไทยให้มีความน่าเชื่อถือ มีประสิทธิภาพ และทุกภาคส่วนเข้าถึงได้ เพื่อให้ตลาดทุนเป็นกลไกที่เชื่อมโยงระหว่างกิจการที่ต้องการเงินทุนและผู้ลงทุน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการขยายกิจการ การจ้างงาน การส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของกิจการในประเทศ และผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศต่อไป และที่ผ่านมา ก.ล.ต.ทำงานใกล้ชิดกับภาครัฐมาโดยตลอด
ในส่วนของตลาดทุนมี 5 เรื่องสำคัญ ดังนี้
- การอำนวยความสะดวกให้กิจการที่ประสบปัญหา โควิด-19 สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้
- การสร้างความเข้าถึงตลาดทุนทั้งการลงทุนและการระดมทุน เพื่อช่วยลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ (inequality) ของประเทศ
- การยกระดับความเชื่อมั่นและเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันของตลาดทุน
- การพัฒนาการเงินที่ยั่งยืน หรือ Sustainable Finance โดยตลาดทุนสามารถขับเคลื่อนการจัดสรรเงินทุนไปสู่กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่คำนึงถึงสังคม สิ่งแวดล้อม และมีธรรมาภิบาล หรือ ESG และ
- การมีเทคโนโลยีและนวัตกรรม ทั้งในมิติของการพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและกำกับดูแลคุ้มครองผู้ลงทุนอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ ในส่วนของสินทรัพย์ดิจิทัล ก.ล.ต. ต้องดูแลและให้ความรู้แก่ผู้ลงทุน เพื่อให้รู้เท่าทันและมีการบริหารความเสี่ยงด้วย
ส่วนปาฐกถาโดยประธานกรรมการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ คุณพิชิต อัคราทิตย์ กล่าวว่า… “ตลาดทุนมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ก.ล.ต. ได้วางยุทธศาสตร์ของ ก.ล.ต. ในปี 2564–2566 ให้สอดรับกับบทบาทดังกล่าว พร้อมทั้งประเมินสถานการณ์ปัจจุบัน วิเคราะห์แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ หรือ Megatrends รวมถึงรับฟังความเห็นของผู้มีส่วนได้เสียอย่างรอบด้าน เพื่อมุ่งหวังที่จะตอบโจทย์ของประเทศและความต้องการของกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง รวมทั้งให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กร ก.ล.ต. ให้เข้มแข็ง มีศักยภาพพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลง และสามารถขับเคลื่อนภารกิจได้”
และแน่นอนว่า… ไฮไลท์ของงานย่อมเป็นการแถลงถึง “แผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. ปี 2564–2566” โดยท่านเลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ คุณรื่นวดี สุวรรณมงคล…
แผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. ปี 2564–2566 ที่จัดทำขึ้นได้คำนึงถึงความเชื่อมโยงแผนยุทธศาสตร์ชาติและแผนพัฒนาตลาดทุนไทย รวมถึงบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป และโลกการเงินในยุคใหม่ อันนำมาซึ่งโอกาสและความท้าทายต่อทั้งภาคธุรกิจในตลาดทุนไทยและหน่วยงานกำกับดูแล
โดยกำหนด 5 เป้าหมายและจัดลำดับความสำคัญ เพื่อให้สามารถทุ่มเททรัพยากรได้อย่างเหมาะสมตอบโจทย์ที่เป็นปัจจุบันและมีความสำคัญทั้ง 2 ประเด็น ได้แก่ ประเด็นที่ต้องดำเนินการเร่งด่วนในการเสริมสร้างสภาพคล่องและสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นฟู เข้มแข็ง และมีความสามารถในการแข่งขันต่อไปได้ หรือ Recovery & Strengthening… และประเด็นที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตลาดทุนไทยน่าเชื่อถือและมีรากฐานที่แข็งแกร่งเพื่อตลาดทุนไทยเติบโตอย่างยั่งยืน Resilience
แผนยุทธศาสตร์ของ ก.ล.ต. ในปี 2564–2566 ยังคง 4 เป้าหมายและ 7 ยุทธศาสตร์สำคัญ จากแผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. ปี 2563–2565 โดยได้เพิ่มเป้าหมาย “ฟื้นฟูและเข้มแข็ง” และเพิ่มยุทธศาสตร์เฉพาะกิจ เพื่อให้ตลาดทุนมีกฎเกณฑ์ที่ไม่เป็นอุปสรรคและมีเครื่องมือช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับกิจการที่ประสบปัญหาจากโควิด-19 รวมเป็น 5 เป้าหมาย 8 ยุทธ์ศาสตร์ ดังนี้
- การสร้างสภาพแวดล้อมตลาดทุนที่เอื้อต่อการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน หรือ Sustainable Capital Market
- ส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพทางการเงินในระยะยาว มีการออมและการลงทุนระยะยาวที่เพียงพอรองรับการเกษียณอายุ หรือ Financial Well-being
- สนับสนุนการเข้าถึงแหล่งทุนสำหรับธุรกิจเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ หรือ SMEs & Startups Growth and Financing
- เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และสร้างโอกาสจากความเชื่อมโยงกับต่างประเทศ หรือ Enabling Regulatory Framework & Connectivity
- ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มศักยภาพตลาดทุนและยกระดับการกำกับดูแล หรือ Digital for Capital Market
- เพิ่มศักยภาพในการกำกับดูแลและบังคับใช้กฎหมายในตลาดทุนไทย หรือ Effective Supervision & Enforcement
- ติดตามประเมินความเสี่ยงเชิงระบบได้อย่างเท่าทัน หรือ Systemic Risk
- สร้างกฎเกณฑ์ที่ไม่เป็นอุปสรรคและส่งเสริมการมีเครื่องมือช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับกิจการที่ประสบปัญหาจากสถานการณ์ โควิด-19 หรือ Supporting Liquidity ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์เฉพาะกิจ
ผมถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับตลาดทุนที่ถึงคราว… “คนตัวเล็ก” เอื้อมถึงได้ง่ายขึ้นแล้วครับ และคงถึงเวลาที่แบบแผนคำแนะนำเรื่องการทำธุรกิจในประเด็น “ทุน การระดมทุนและตลาดทุน” ควรถูกใส่ไว้ในทุกชุดความรู้ในการทำธุรกิจแบบต่างๆ เพื่อข้าม “ระบอบเงินกู้” ที่กลไกธุรกิจพึ่งพากันมานานเกินไปแล้ว
References…