นักปราชญ์มากมายทั่วโลกพูดถึงความเงียบในมุมมองต่างๆ อย่างหลากหลายในนิยามและความหมาย… ตัวอย่างความเงียบในแง่มุมของสมาธิซึ่งถูกอธิบายไว้ล้ำเลิศเพริศแพร้ว โดยอธิบายได้ทั้งในความหมายตามหลักวิชาทางประสาทวิทยาและสมอง… อธิบายได้ทั้งในความหมายตามหลักจิตวิทยา และ ยังอธิบายได้ด้วยมุมมองความหมายเชิงปรัชญา ความเชื่อ จิตวิญญาณและศาสนา
สมณ ติช นัท ฮันห์ หรือ Thich Nhat Hanh ผู้ประพันธ์หนังสือแห่งจิตวิญญาณอย่าง Silence: The Power of Quiet in a World Full of Noise ชี้ทางไว้ว่า… ความเงียบเป็นประตูบานเเรกสู่ความสงบ สันติ ความเงียบไม่ใช่เพียงเฉพาะแต่เป็นภาวะไร้เสียงจากภายนอก แต่ความหมายที่แท้จริงของความเงียบ คือการหยุดเสียงที่คอยรบกวนจิตใจของเรา การทำเช่นนี้ได้จะทำให้เราได้ยินเสียงอันอัศจรรย์แห่งชีวิต
ความเงียบในทางจิตวิญญาณจึงเป็นความเงียบเพื่อเปิดทางให้ “เสียงจากฌาณปัญญา” ไม่ถูกรบกวนจนก่อตัวเป็นความความคิดและรูปแบบการคิดที่เห็นทาง หรือ เห็นเป้าหมายชัดแจ้งด้วยคำตอบที่อาจจะต่างออกไป แต่ความเงียบในแบบจิตวิญญาณจากทุกๆ ความเชื่อและเป้าหมาย มักเป็นเรื่องพิเศษเฉพาะของบางคน สำหรับบางกรณี ซึ่งอาจจะไม่จำเป็นสำหรับหลายๆ คนที่ต้องใช้ชีวิตบนลำแข้ง และ ต้องพูดต้องฟังหลายอย่างอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน… ขนาดร่างกายหลับสนิทไปแล้วก็ยังมีเสียงในฝันมาให้เหนื่อยกระทั่งตื่นก็เห็นมีคนพูดถึงอยู่มาก
ความเงียบในทางสังคมและของปุถุชนผู้ที่ต้องทำมาหากินกับแรงกายและปัญญาตัวเอง จึงเป็นได้เพียงการหยุดพูด… หยุดถาม… หยุดเล่า… หยุดขอ และ หยุดเพราะไม่เหลืออะไรจะพูดอีก… ซึ่งความเงียบจากสาเหตุทั้งหมดถือเป็นส่วนหนึ่งของการสื่อสารและปฏิสัมพันธ์อันบ่งชี้ได้ชัดเจนว่า… ความเงียบมีความหมายของสารที่ส่งออกไปไม่ต่างจากการพูดหรือการสื่อสารวิธีอื่น
Sarah Dessen เจ้าของนวนิยายขายดีหลายเล่ม รวมทั้ง Just Listen ซึ่งได้แทรกนิยามของความเงียบของช่วงวัยว้าวุ่นของตัวละครใน Just Listen เอาไว้ว่า… Silence Is So Freaking Loud หรือ ความเงียบนั้นเสียงดังได้น่าตื่นตะลึง
Annabel Greene… เป็นตัวละครใน Just Listen ผู้พาชีวิตช่วงวัยรุ่นไปเจอความขัดแย้งแบบปัญหาวัยรุ่น ซึ่งก็รับมือกับความสัมพันธ์แบบต่างๆ ด้วยความด้อยประสบการณ์ในชีวิต โดยมีท่าทีของคนในช่วงวัยเดียวกัน กับ ความด้อยประสบการณ์ในชีวิตไม่ต่างกัน มาสร้างปัญหาเป็นเงื่อนไขรบกวนความคิดและการตัดสินใจ… Annabel Greene ได้บทเรียนหลายอย่างจากความสัมพันธ์หลายแบบ กับเพื่อนและเพื่อนของเพื่อนหลายคน กระทั่งเธอถูกขืนใจโดยแฟนของเพื่อนแต่กลับถูกเพื่อนโกรธเกรี้ยว จน Annabel Greene กลายเป็นคนเก็บตัว อยู่กับความเงียบ และ ได้ฟังความคิดตัวเองจริงๆ ซึ่งต่างจากครั้งที่ไล่ล่าการยอมรับจากเพื่อนและฟังแต่เสียงคนอื่น
Sarah Dessen ฝังสารเรื่องการฟัง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความเงียบและประโยชน์ที่ได้จากการเงียบลงในตัวละครวัยรุ่นอย่าง Annabel Greene โดยมีการฟังเพลงเพียงลำพัง และ ฟังกับคนที่ชอบฟัง ซึ่งเป็นหนทางที่สามารถเยียวยาเสียงที่คอยรบกวนความคิดและจิตใจของเธอ จนชีวิตกลับสู่โอกาสครั้งใหม่ได้ดีกว่าเดิม
ส่วนที่น่าสนใจก็คือ… ความเงียบให้โอกาสในการฟัง และ ยังให้ปฏิกิริยา “ตอบกลับ” คำพูดที่ถาม ที่เล่า ที่ขอและที่ยัดเยียดความปราถนา ได้ดีไม่ต่างจากการใช้ภาษาพูดหรือภาษาท่าทางโต้ตอบเสียอีก… ความเงียบในมุมของการสื่อสารจึงดังหนักแน่นยิ่งกว่าการเอ่ยความใดๆ
เพียงแต่ความหมายของการตอบด้วยความเงียบในทางการสื่อสาร… มักจะสื่อความถึงคู่สนทนาให้หยุดเสียงหรือหยุดรบกวนที่ต้องตอบกลับด้วยความเงียบนั้น… หลายกรณีไม่ใช่มารยาทที่สุภาพงดงามนัก แต่ถ้าเสียงอันไม่พึงปราถนารบกวนจนไม่ต้องสุภาพเพื่อให้มันจบๆ แบบไหนก็ไม่ต่างกัน… ก็ขอเพียงอย่าลืมฟัง “ให้ได้ยินเสียงความต้องการของตัวเอง” ว่าเป็น หรือ ใช่แบบที่จะเป็นจริงๆ ก็พอ
References…