SCG HEIM… เมื่อ SCG ลุยตลาดรับสร้างบ้าน

เมื่อช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน คุณสิทธิพร สุวรรณสุต ได้ออกมาบอกตัวเลข “บ้านเดี่ยวสร้างเอง” ของปี 2561 ว่า… มูลค่าตลาดรวมอยู่ราว 1.4 แสนล้านบาท

  • ตัวเลข 1.2 แสนล้านบาทเป็นบ้านขนาดเล็ก/บ้านสำเร็จรูป/บ้านน๊อคดาวน์ ค่าก่อสร้างอยู่ระหว่าง 800,000-1,200,000 บาท ส่วนใหญ่จะเป็นงานก่อสร้างโดยผู้รับเหมารายย่อย และบริษัทรับสร้างบ้านรายเล็ก
  • ตัวเลข 1.6 หมื่นล้านบาท เป็นบ้านราคาก่อสร้างระหว่าง 2-20 ล้านบาท และเป็นงานก่อสร้างจากธุรกิจรับเหมาสร้างบ้านมืออาชีพ
  • ตัวเลข 8 พันล้านบาท เป็นบ้านราคาสูงกว่า 20 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนใหญ่เป็นงานออกแบบก่อสร้างโดย กลุ่มผู้ผลิตวัสดุรายใหญ่ กลุ่มสถาปนิกและผู้รับเหมาขนาดกลาง-ใหญ่

ในนั่นคือตัวเลขรวมในระบบเศรษฐกิจรับสร้างบ้าน ที่มองมุมไหนก็น่าข้องแวะแตะชมทั้งนั้น!!!

ผมจึงไม่แปลกใจที่ต้นปีมานี้ SCG HEIM ธุรกิจรับสร้างบ้าน บริษัทลูกของ SCG อันเป็นกิจการในกำกับของรัฐ ที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้างที่อยู่คู่เมืองไทยมาช้านาน อย่างปูนตราเสือกระเบื้องตราช้างและอะไรอีกมากมาย จะหันหน้าลุยตลาดรับสร้างบ้านอย่างจริงจังจนคนในวงการรับรู้ได้ถึงความมุ่งมั่น

พูดถึง SCG บริษัทแม่… แง่มุมที่ผมอยากเขียนถึงมีมากมายจนไม่ทราบจะเริ่มตรงไหน ผมมีข้อมูลและประสบการณ์ร่วมตั้งแต่หุ้นปูนใหญ่ที่เป็นตำนานคู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมาจนถึงทุกวันนี้ หรือเรื่องสวัสดิการพนักงานเครือซิเมนต์ไทยที่น่าอิจฉาตาร้อนที่แม้แต่หมอพยาบาลที่โรงพยาบาลรามาธิบดียังอิจฉาเวลาสั่งยาให้คนไข้บัตร SCG… รวมถึงผู้หลักผู้ใหญ่ใน SCG ที่คนในแวดวงธุรกิจน้อยใหญ่ต่างยกย่องนับถือ

กลับมาที่ SCG HEIM ธุรกิจรับสร้างบ้านในเครือ SCG ที่นำเทคโนโลยีการสร้างบ้านระดับ HI-END จากญี่ปุ่นเข้ามาพัฒนาต่อยอด จนกลายเป็นธุรกิจรับสร้างบ้านระบบโมดูลาร์ ที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการรับสร้างบ้านมากมาย… ว่ากันว่า ราคาค่าก่อสร้างของ SCG HEIM เกรด Ultimate สูงถึงตารางเมตรละ 50,000 บาททีเดียว

…แต่ข้อเท็จจริงก็คือ มีลูกค้าจำนวนมากยอมจ่ายค่าสร้างบ้านตารางเมตรละ 50,000 บาท กับ SCG HEIM ทั้งที่กับบริษัทสร้างบ้านรายอื่น แค่ค่าก่อสร้างราคาตารางเมตรละ 20,000 บาท ก็ต่อราคากันจนเครียดทั้งสองฝ่ายยังเคยเจอ

ประเด็นก็คือ ตัวเลข “หนึ่งแสนสี่หมื่นล้านบาท” ที่น่าจะเติบโตขึ้นเท่าหรือมากกว่าอัตราเงินเฟ้อทุกปี คือน่านน้ำที่ยังเหลือที่ให้… นวัตกรรมการก่อสร้างบ้านอย่าง SCG HEIM เข้าไปช่วงชิง… 

ผมโตมากับโฆษณา “ปูนตราเสือ กระเบื้องตราช้าง” และกำลังจะสูงวัยไปกับโฆษณา SCG HEIM… 

ผมว่าผมรีบถอดบทเรียน SCG HEIM มาดูหน่อยดีกว่า!

Share this post

Add Properea's Friend

เพิ่ม Properea.com เป็นเพื่อนทาง Line
ท่านจะได้ Link บทความใหม่ส่งตรงให้อย่างสม่ำเสมอโดยรบกวนแต่น้อย

Related Post

Chang'e 4

Chang’e 4 และ เมล็ดฝ้ายบนดวงจันทร์

สิ่งที่น่าสนใจที่สุดในโครง Chang’e 4 หรือ ฉางเอ๋อ-4 ก็คือการทดลองนำพันธ์พืช 4 ชนิดไปทดสอบการงอกและเติบโตในชีวมณฑลประดิษฐ์ หรือ Artificial Biospheres ของยานฉางเอ๋อ-4 ด้วย ได้แก่ Cottonseed หรือ เมล็ดฝ้าย… Potato หรือ มันฝรั่ง… Rapeseed หรือ ผักกาดก้านขาว… และ Arabidopsis Thaliana หรือ อะราบิดอบซิส ธาเลียนา นอกจากนั้นยังมีการนำยีสต์ และ ไข่ของแมลงวันผลไม้ไปกับยานอีกจำนวนหนึ่งเพื่อทดลองฟักตัวเป็นหนอนในระบบนิเวศ… ซึ่งผลการทดลองออกมาแล้วว่าเมล็ดฝ้ายงอกได้ดีตามแผน

NanoElectronics… ความรู้เบื้องต้นด้านนาโนอิเล็กทรอนิกส์

คำว่า NanoElectronics หรือ นาโนอิเล็กทรอนิกส์… จะนิยามถึงการใช้เทคโนโลยีนาโนในชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งครอบคลุมชุดอุปกรณ์ และ วัสดุทางอิเล็กทรอนิกส์ที่หลากหลาย โดยหมายความถึงลักษณะทั่วไปที่มีขนาดเล็กมาก จนต้องมีการศึกษาปฏิสัมพันธ์ระหว่างอะตอม และ คุณสมบัติทางกลเชิงควอนตัม โดยมีวิทยาการสาขาต่างๆ แบ่งย่อยออกไปมากมาย เช่น… Molecular Electronics ทั้งแบบ Hybrid และ Mono… NanoWires and NanoTubes หรือ เส้นลวด และ ท่อนาโน… รวมทั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โมเลกุลขั้นสูง หรือ Advanced Molecular Electronics

ฝนร้อยปี และ สถานการณ์น้ำท่วมกับแนวโน้มความเสียหายทั่วไทย

ข้อมูลภูมิสารสนเทศของวันที่ 7 กันยายน 2022 จากดาวเทียม Radarsat-2 และดาวเทียม Sentinel-1 ในการดูแลของ GISTDA หรือ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) พบน้ำท่วมขังทั่วประเทศแล้วกว่า 1,655,983 ไร่ ในหลายลุ่มน้ำสำคัญทั่วไทย และ ในจำนวนนี้เป็นพื้นที่นาข้าว 711,235 ไร่ ซึ่งเสียหายเรียบร้อยแล้ว

Nominal Effective Exchange Rate and Real Effective Exchange Rate… ดัชนีค่าเงินและดัชนีค่าเงินที่แท้จริง

ในทางเทคนิค… การติดตามค่าเงินจะถูกพิจารณาผ่าน “ดัชนีค่าเงิน หรือ Nominal Effective Exchange Rate หรือ NEER” ซึ่งในกรณีของค่าเงินบาท… ธนาคารแห่งประเทศไทยจะทำดัชนีจากการคำนวณหาค่าเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนักของอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างค่าเงินบาท กับ ค่าเงินสกุลอื่นที่สำคัญอีก 21 สกุล โดยจะถ่วงน้ำหนักตามความสำคัญทางการค้ากับประเทศเหล่านั้น… ทั้งในฐานะประเทศคู่ค้า และ คู่แข่งของไทย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราส่งออกสินค้าไปขายที่ประเทศไหนมาก หรือ มีคู่แข่งที่ส่งออกสินค้าประเภทเดียวกันกับเราไปขายในตลาดโลก เราก็จะให้น้ำหนักกับสกุลเงินของประเทศนั้นๆ มากขึ้นตามไปด้วย