สถานการณ์ราคายางเดือนธันวาคม ปี พ.ศ. 2563 ปริมาณยาง ณ สำนักงานตลาดกลางยางพาราปรับตัวลดลง โดยปริมาณยางรวม 5,046.33 ตัน… แบ่งเป็นยางแผ่นดิบ 1,019.10 ตัน… ยางแผ่นรมควัน 4,027.22 ตัน… ลดลงจากเดือนที่ผ่านมา 7,121.34 ตัน คิดเป็น 58.53% ราคาประมูลยางแผ่นดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 62.94 บาทต่อกิโลกรัม ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.07 บาทต่อกิโลกรัม คิดเป็น 0.11%… ราคายางแผ่นรมควันอยู่ที่ 65.86 บาทต่อกิโลกรัม ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.10 บาทต่อกิโลกรัม คิดเป็น 1.70%… ราคายางท้องถิ่นเฉลี่ยอยู่ที่ 59.84 บาทต่อกิโลกรัม ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.76 บาทต่อกิโลกรัม คิดเป็น 1.28%… ราคาน้ำยางสดอยู่ที่ 53.00 บาทต่อกิโลกรัม ปรับตัวลดลง 0.12 บาทต่อกิโลกรัม คิดเป็น 0.22%… และราคายางก้อนถ้วย 100 เปอร์เซ็น อยู่ที่ 39.95 บาทต่อกิโลกรัม ปรับตัวลดลง 0.98 บาทต่อกิโลกรัม คิดเป็น 2.50%
ราคายางโดยภาพรวมปรับตัวเพิ่มขึ้นตามความต้องการของผู้ซื้อภายในประเทศ และอยู่ในทิศทางเดียวกับตลาดล่วงหน้าต่างประเทศ จากสัญญาณตลาดล่วงหน้าต่างประเทศที่มีแรงเทขายในช่วงต้นเดือนธันวาคม ปี 2020 อีกทั้งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาจากหน่วยงานภาครัฐ ที่เฝ้าระวังสถานการณ์ราคายางพาราเพื่อลดความผันผวน และสถานการณ์มีฝนตกชุกในพื้นที่ปลูกยาง ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งนักลงทุนยังคงมีความกังวลต่อความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการอนุมัติฉีดวัคซีนต้านโควิด และสภาคองเกรสสหรัฐฯ จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ประกอบกับบริษัทวิจัยตลาดระดับโลก คาดการณ์ยอดขายรถยนต์ EV ในจีนจะปรับตัวสูงขึ้นจากระดับ 1.16 ล้านคันในปี 2020 จะขยายตัวไปถึง 5.42 ล้านคันในปี 2568 เป็นผลมาจากนโยบายสนับสนุนของภาครัฐจีน รวมทั้งการปรับธุรกิจและการลงทุนของผู้ผลิตยานยนต์ รวมถึงความก้าวหน้ำของเทคโนโลยีการผลิตแบตเตอรี่และยานยนต์ไร้คนขับ อย่างไรก็ตาม จากเหตุค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น
เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และการขาดแคลนตู้สินค้าในการส่งออก อีกทั้งค่า Freight ปรับตัวสูงขึ้น เป็นปัจจัยกดดันราคายางในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2563
ข้อมูลจากหลายแหล่งอย่างไม่เป็นทางการ โดยเฉพาะความเห็นผู้เชี่ยวชาญที่คลุกคลีอยู่กับห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมยางพาราไทยยังมองว่า ราคายางพาราคงจะลอยตัวอยู่ในระดับที่น่าพอใจไปอีกหลายเดือน ซึ่งทั้งหมด แม้จะมีปัจจัยท้าทายมากมาย โดยเฉพาะประเด็นค่าเงินบาทแข็งค่าและการขาดแคลนตู้สินค้า ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องหาทางออกที่ดีที่สุดของผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
สรุปว่ายางพาราปี 2564 แนวโน้มดีครับพี่น้อง!!!
References…