กรมที่ดินมีโครงการพัฒนามาตรฐานรูปแปลงที่ดินโดยจัดให้มีโครงการเดินสำรวจสอบเขตที่ดินด้วยระบบโครงข่ายดาวเทียม RTK GNSS Network เพื่อยกมาตรฐานการรังวัดที่สูงขึ้น และได้นำเทคโนโลยีการรังวัดสมัยใหม่มาใช้ในการรังวัดทำแผนที่ เพื่อให้รูปแปลงที่ดินมีค่าพิกัดภูมิศาสตร์ที่ถูกต้องแม่นยำสูง สามารถตรวจสอบตำแหน่งของหลักเขตหรือแนวเขตที่ดินในกรณีสูญหายถูกทำลายหรือถูกเคลื่อนย้ายได้อย่างรวดเร็วมีความละเอียดถูกต้องตามมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับในระดับสากล เพื่อแก้ปัญหาความทับซ้อนของที่ดิน และที่ดินที่ได้มีการรังวัดไว้นานแล้ว

ล่าสุด… เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน จำนวน 517 คนได้ออกปฏิบัติงานตาม โครงการเดินสำรวจสอบเขตที่ดินด้วยระบบโครงข่ายดาวเทียม RTK GNSS Network ประจำปีงบประมาณ 2563… เพื่อดำเนินการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินและสอบเขตที่ดิน ตามมาตรา 58 58 ทวิ และมาตรา 69 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ในพื้นที่ 28 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย ลำปาง แพร่ น่าน พิษณุโลก กำแพงเพชร สุโขทัย ตาก อุดรธานี หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ ชัยภูมิ ขอนแก่น อุบลราชธานี นครราชสีมา นครพนม มุกดาหาร กระบี่ พังงา ตรัง สงขลา นครศรีธรรมราช ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส มีเป้าหมาย จำนวน 85,000 แปลง เพื่อยกมาตรฐานการรังวัดให้สูงขึ้น
ซึ่งกรมที่ดินยุค 4.0 สามารถดำเนินการรังวัดที่ดินในปีงบประมาณ 2562 ได้มากถึง 80,325 แปลง ในพื้นที่ 21 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย ลำปาง แพร่ น่าน พิษณุโลก กำแพงเพชร อุดรธานี หนองคาย ชัยภูมิ ขอนแก่น อุบลราชธานี นครราชสีมา กระบี่ พังงา สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และฉะเชิงเทรา แล้วเช่นกัน
สำหรับในปีงบประมาณ ปี 2563 มีการกำหนดพื้นที่ดำเนินการเพิ่มเติมในท้องที่จังหวัด สุโขทัย ตาก หนองบัวลำภู บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร ตรัง และนครศรีธรรมราช
โดยการรังวัดสอบเขตที่ดินด้วยระบบโครงข่ายดาวเทียม ด้วยระบบ RTK GNSS NETWORK ถือเป็นนวัตกรรมด้านการสำรวจและทำแผนที่ ที่ให้ค่าพิกัดของรูปแปลงที่ดินอย่างถูกต้องแม่นยำด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย ลดขั้นตอนการทำงานสามารถรังวัดและค้นหาตำแหน่งหลักเขตที่ดินได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยมีหลักการทำงานคือ… ช่างรังวัดหรือผู้ใช้งานของระบบโครงข่าย จะทำการรับสัญญาณดาวเทียม ณ ตำแหน่งที่ต้องการหาค่าพิกัด จากนั้นทำการเชื่อมต่อกับศูนย์ควบคุม เพื่อทำการประมวลผลข้อมูลดาวเทียมให้กับผู้ใช้งานจึงได้ค่าพิกัดของตำแหน่งที่รังวัดอย่างถูกต้องแม่นยำและสะดวกรวดเร็ว ทำให้ข้อมูลรูปแปลงที่ดินมีความละเอียดถูกต้องทั้งรูปร่างเนื้อที่และค่าพิกัดทางภูมิศาสตร์จึงสามารถแก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนของหน่วยงานต่าง ๆ สร้างความเชื่อมั่นในการถือครองเอกสารสิทธิ์ลดข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดินและลดภาระของประชาชนในการระวังชี้แนวเขตที่ดิน ก่อให้เกิดการบูรณาการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศด้วยโครงสร้างพื้นฐานด้านการสำรวจรังวัดที่มีประสิทธิภาพ และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศทั้งภาครัฐและภาคเอกชน
ถือว่าเป็นข่าวดีทั้งกับคนที่รอเอกสารสิทธิ์มานาน และท้องถิ่นที่น่าจะมีฐานรายได้จากภาษีที่ดินเป็นกอบเป็นกำกว่าที่เป็นมา…