Robotics for Construction…

Cobot for Construction

ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐอเมริกาในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญนับตั้งแต่ปี 2015 เรื่อยมา… รายงานจากบริษัทวิจัยชื่อดังอย่าง McKinsey อ้างอิงสถิติจากสำนักงานแรงงานสหรัฐ พบว่า… ตำแหน่งงานในอุตสาหกรรมก่อสร้างกว่า 200,000 ตำแหน่งที่เคยมีการจ้างงานตั้งแต่ปี 2005-2015 ไม่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นและไม่สอดคล้องกับการเติบโตของอสังหาริมทรัพย์และวัสดุก่อสร้าง

แน่นอนว่าภาวะที่เกิดขึ้น แสดงให้เห็นว่าหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติต่างๆ ถูกนำมาใช้ในวงการก่อสร้างมากขึ้นจนความต้องการแรงงานเหมือนในอดีต… ถูกเปลี่ยนไปเป็นหุ่นยนต์และเทคโนโลยีก่อสร้างที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า

หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติทำงานได้ 24 ชั่วโมงตลอด 7 วันต่อสัปดาห์… เครื่องจักรในอุตสาหกรรมก่อสร้างเดิมจึงถูก Upgrade ให้กลายเป็นจักรกลอัตโนมัติด้วยการใส่เทคโนโลยีจากฝั่ง Robotics Engineering และ AI/ML เข้าไปจนได้งานก่อสร้างที่ไม่ต้องพึ่งแรงงานฝีมือดีจำนวนมากอย่างในอดีต

เวบไซต์ Robotics Business Review ได้สรุปข้อได้เปรียบ 5 ประการที่หุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมก่อสร้างจะเข้ามา Disrupted วงการก่อสร้างไปตลอดกาลว่า…

1. ลดต้นทุนการดำเนินงานจากค่าจ้างแรงงานในระหว่างดำเนินการก่อสร้าง… ที่ต้องการกระแสเงินสดในปริมาณที่สูงมาเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่เป็นหุ่นยนต์และจักรกลอัตโนมัติทั้งหลาย… ซึ่งนอกจากจะใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพแล้ว หลายกรณีสามารถเช่าใช้ หรือเช่าซื้อด้วยวงเงินลงทุนที่ต่ำกว่า

2. เพิ่มประสิทธิภาพในขั้นตอนการก่อสร้าง… ที่การใช้งานหุ่นยนต์จะคงมาตรฐานการทำงานตามการออกแบบของวิศวกรและสถาปนิก… ซึ่งขั้นตอนการทำงานและการตรวจสอบจะเชื่อถือได้ด้วยกลไกการวัดและประเมินที่มีประสิทธิภาพ

3. ทำลายข้อจำกัดในการก่อสร้างและประกอบติดตั้ง… ที่แขนกลและหุ่นยนต์ สามารถทำงานที่ยากและเสี่ยงแทนมนุษย์ได้อย่างดี รวมทั้งความสามารถในการ ผลิตชิ้นงานสำหรับอาคารแบบ On-Demand ทำให้งานด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม ง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก

4. การควบคุมจัดการหุ่นยนต์และเครื่องจักรกลในงานก่อสร้างสามารถควบคุมในระยะไกล… ด้วยอุปกรณ์อย่างมือถือหรืออุปกรณ์สวมใส่ตระกูล Wearable ทั้งหลาย ที่ออกแบบมาเพื่องานก่อสร้างและวิศวกรรม ที่รองรับตั้งแต่สัญญาณควบคุมไร้สายระยะใกล้ จนถึงกลไกการควบคุมผ่านดาวเทียมก็ทำได้หากจำเป็น

5. Supply Chain และ Logistics ในงานก่อสร้างจะมีประสิทธิภาพสูงสุด… เพราะหุ่นยนต์สามารถคำนวณเวลางานแต่ละคำสั่งได้อย่างแม่นยำ ทำให้การวางแผนงานแต่ละลำดับเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพตามตารางงาน หรือ Job Scheduling ที่วางไว้อย่างแม่นยำ

อย่างไรก็ตาม… ในช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญนี้ การพึ่งพาแรงงานฝีมือของมนุษย์อาจจะยังจำเป็นอยู่บ้าง… แต่มนุษย์ก็ต้องทำงานกับหุ่นยนต์มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะ หุ่นยนต์แบบ Cobots ที่จะเข้ามาเป็นผู้ช่วยทำงานเคียงข้างมนุษย์ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาในรูปของแขนกลสำหรับงานหยิบจับวางยกและโยกย้าย เพื่อผ่อนแรงมนุษย์

ปี 2020 เป็นปีที่วงการ Automation มีแขนกลสำเร็จรูปให้สั่งซื้อออนไลน์ได้มากมายจากหลายประเทศในราคาที่คนเคยทำแขนกลให้โรงงานในอดีตยังอึ้งว่า… เดี๋ยวนี้มันถูกเหมือนซื้อตู้เย็นเลยเหรอ?

Noah Ready-Campbell, ผู้ก่อตั้ง หรือ Founder และ CEO ของ Built Robotics พูดไว้เลยว่า… “In the future, I do think we’ll see a lot of autonomous equipment out on job sites,” ในอนาคต เราจะเห็นเครื่องกลอัตโนมัติทำงานในไซส์ก่อสร้างของเรา

แนวโน้มนี้เปลี่ยนแปลงเร็วมากในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นและจีน… บ้านเราก็คงอีกไม่นาน

อ้างอิง

roboticsbusinessreview.com

Share this post

Add Properea's Friend

เพิ่ม Properea.com เป็นเพื่อนทาง Line
ท่านจะได้ Link บทความใหม่ส่งตรงให้อย่างสม่ำเสมอโดยรบกวนแต่น้อย

Related Post

Contour Crafting Corporation

Contour Crafting and Behrokh Khoshnevis… เส้นร่างสร้างบ้าน

ปัจจุบัน CC Corp อ้างว่า… มีเทคโนโลยีการก่อสร้างระดับ Fully Autonomous Operation ที่สามารถก่อสร้างอาคารได้หลายชั้น รวมถึงการก่อสร้างคอนโดมิเนียมได้หลายยูนิตในอาคารขนาดใหญ่หลายชั้น ที่โครงสร้างซับซ้อนมากๆ ได้แล้ว…

3 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนทำ Self Disruption

ถ้าท่านติดตามความก้าวหน้าและพัฒนาการของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ผมเชื่อว่าท่านจะมองออก… ตั้งแต่มี Smartphone ติดมือผู้คนทุกเพศทุกวัยไปทุกย่อมหญ้าอย่างในปัจจุบัน หลายอย่างในแวดวงธุรกิจได้เปลี่ยนไปเร็วเหลือเกิน

ธนาคารแห่งประเทศไทย

ผ่อนคลายเกณฑ์นำเงินออกนอกประเทศ… โอกาสการลงทุนต่างแดน

ในที่สุดประเทศไทยก็เดินมาถึงจุดเปลี่ยนทางการเงินการลงทุนสำคัญ ที่การรับมือปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่า ได้นำโอกาสมาสู่ทุนไทยที่ต้องการแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ในต่างแดนได้มากขึ้น

COVID Cert

Thai Stop Covid Plus…

ความเชื่อมั่นของสินค้าและบริการในประเทศไทย และสินค้าส่งออกไปขายต่างประเทศ ซึ่งชัดเจนว่าทุกตลาดจะเข้มงวดเรื่องเชื้อโรค และ การปนเปื้อนอย่างชัดเจน… ซึ่งความเคลื่อนไหวของกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะผู้ดูแลขับเคลื่อนมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรน่าในสถานประกอบกิจการโรงงานอุตสาหกรรม ก็เห็นการทำงานเชิงรุก โดยขอให้โรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ประเมินตนเองผ่านแบบประเมินตนเอง Thai Stop Covid Plus และ Thai Save Thai ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนมิถุนายน 2564… คาดโทษฝ่าฝืนกรณีไม่ปฎิบัติตามก็จะมาตรการลงโทษด้วย…