สถานการณ์การท่องเที่ยวภายในประเทศ หลังวิกฤต COVID19 ที่แม้ว่าหลายฝ่ายจะช่วยกันหาทางออกให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่เม็ดเงินจากนักท่องเที่ยว เคยหมุนเวียนหลายชั้นในระบบเศรษฐกิจ และเคยเป็นเสาหลักทางเศรษฐกิจอีกเสาหนึ่งให้ประเทศไทยมานาน
และทุกท่านทราบดีว่า… ธุรกิจท่องเที่ยวขับเคลื่อนผ่านโมเดลอสังหาริมทรัพย์หลายชั้นเช่นกัน โดยเฉพาะที่พักอาหาร ที่พัฒนาผ่านโมเดลอสังหาริมทรัพย์ และการล้มหายของกิจการหรือทุนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในจังหวะเวลาที่ยังไม่มีใครมั่นใจได้ว่า… การท่องเที่ยวจะฟื้นกลับมาแบบไหนอย่างไรและที่ไหนบ้าง
บ่ายวันนี้ผมมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนสนทนากับผู้ใหญ่บางท่าน ที่อยู่ในธุรกิจท่องเที่ยวและเป็นเจ้าของโรงแรมหลายแห่งในประเทศไทย ซึ่งท่านแลกเปลี่ยนอ้างอิงการวิเคราะห์จาก C9 Hotelworks และ Delivering Asia Communications ที่เคยเผยแพร่ผลสำรวจพบ จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวชาวไทย หรือ จะเรียกว่าชาวกรุงเทพก็ได้… ที่หันมาเดินทางท่องเที่ยวด้วยการขับรถไป หัวหิน พัทยา เขาใหญ่… ที่หมายถึงการคิดพึ่งเงินท่องเที่ยวภายในประเทศจะต้องคำนึงถึงกรณีนี้อย่างสำคัญ
การสำรวจความคิดเห็นชาวกรุงเทพมหานคร เกี่ยวกับการเดินทางท่องเที่ยวระยะใกล้ด้วยการขับรถ หรือ Road Trip ระยะทางไม่เกิน 6 ชั่วโมงจากกรุงเทพมหานคร ในเดือนพฤษภาคม ปี 2020 พบว่า… ผู้ตอบแบบสอบถามชาวกรุงเทพ มีความต้องการที่จะไปเที่ยวผ่อนคลายระยะสั้นและใกล้เพื่อผ่อนคลายความเครียด โดยรูปแบบการท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นแบบไปเช้าเย็นกลับ หรือพักในโรงแรมหรือรีสอร์ท 3 วัน 2 คืนในจังหวัดใกล้ๆ รวมถึงโรงแรมในกรุงเทพด้วย
การสำรวจครั้งนั้นพบจุดหมายปลายทาง 8 อันดับแรกที่ชาวกรุงเทพ อยากขับรถไปท่องเที่ยว ได้แก่ นครราชสีมา กาญจนบุรี ชลบุรี เพชรบุรี ระยอง พระนครศรีอยุธยา ประจวบคีรีขันธ์ และสระบุรี สำหรับตัวเลือกสถานที่ท่องเที่ยว 3 อันดับแรกคือ หัวหิน พัทยา และเขาใหญ่… นอกจากนั้นยังมีเกาะช้างเป็นตัวเลือกที่มาแรงและได้รับความสนใจอย่างมาก… ในขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถามหลายคนอยากขับรถต่อไปเที่ยวเชียงใหม่ น่านและภูเก็ต ในช่วงที่มีการจำกัดการเดินทางโดยเครื่องบิน
ประเด็นเป็นแบบนี้ครับ… ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมีตัวเลขสถิติ จำนวนนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวในประเทศไทยกว่า 59 ล้านคน… มากกว่านักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศที่มีจำนวน 39 ล้านคน… ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ไปต่างประเทศส่วนใหญ่ก็ท่องเที่ยวในประเทศด้วยอยู่แล้ว
แต่ความกังวลเรื่องโรคระบาด… การตัดสินใจท่องเที่ยวโดยใช้รถยนต์ออกท่องเที่ยวในระยะ… ขับรถไปกินข้าว ซื้อของและชมวิวจึงเป็นเงื่อนไขในการบริหารกลยุทธ์ธุรกิจท่องเที่ยวในระยะสั้นนี้… และศักยภาพของ “ทำเลอสังหาริมทรัพย์” ในรายงานสำรวจจาก C9 Hotelworks จึงน่าสนใจที่สุดในช่วงเวลานี้
ล่าสุด… ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2563 ก็อนุมัติหลักการแนวทาง การเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ หรือ Special Tourist Visa หรือ STV ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ โดยจะเปิดให้เข้าประเทศได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2563 นี้… ซึ่งเงื่อนไขการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษนี้ ประกอบไปด้วย
1. ต้องเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ประสงค์จะเดินทางมาพักในประเทศไทยแบบระยะยาว(Long Stay)
2. ต้องยอมรับมาตรการด้านสาธารณสุขในประเทศไทยเรื่องการกักตัว 14 วัน
3. มีเอกสารหลักฐานของการเข้ามาพำนักระยะยาวในไทย เช่น เอกสารการชำระเงินของโรงแรม เอกสารการเช่าที่พักคอนโดมิเนียม เป็นต้น
ซึ่งบุคคลต่างด้าว จะต้องผ่านการดำเนินการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ตามที่กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนด มีสิทธิขอรับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษ Special Tourist Visa หรือ STV โดยเสียค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา ครั้งละ 2,000 บาท ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลา 90 วัน และภายหลังจากที่ครบกำหนดเวลาอนุญาต 90 วันแล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองมีอำนาจอนุญาตให้อยู่ต่อไปได้อีก 2 ครั้งๆ ละ 90 วัน โดยคนต่างด้าวต้องยื่นคำขอตามแบบ และเสียค่าธรรมเนียมตามที่กำหนด โดยให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศ จนถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2564
เตรียมตัวให้พร้อมกันได้แล้วครับ!
อ้างอิง