Reverse Mortgage หรือ สินเชื่อเพื่อผู้สูงอายุโดยมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน ที่บอกเล่าพูดคุยกันมานาน… แม้ธนาคารในประเทศไทยบางแห่งจะนำร่องเล็กๆ น้อยไปก่อนแล้วในทางปฏิบัติ แต่สุดท้ายก็มีประกาศจากราชกิจจานุเบกษา เรื่อง การให้สินเชื่อเพื่อผู้สูงอายุโดยมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน (Reverse Mortgage) ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2546
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 138 ตอนพิเศษ 80 ง ลงวันที่ 9 เมษายน 2564 ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สนส. 2/2564 เรื่อง การให้สินเชื่อเพื่อผู้สูงอายุโดยมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน (Reverse Mortgage) ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ
เหตุผลในการออกประกาศการให้สินเชื่อเพื่อผู้สูงอายุโดยมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน (Reverse Mortgage) เป็นมาตรการรองรับสังคมผู้สูงอายุมาตรการหนึ่ง ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจ เป็นธนาคารนำร่องในการให้สินเชื่อดังกล่าว เพื่อรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศในระยะต่อไป การให้สินเชื่อเพื่อผู้สูงอายุโดยมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน เป็นธุรกรรมสินเชื่อรูปแบบใหม่ ที่มีลักษณะแตกต่างจากสินเชื่อทั่วไป กล่าวคือ เป็นธุรกรรมสินเชื่อที่ให้กับผู้กู้ที่เป็นผู้สูงอายุ เช่น ผู้ที่เกษียณอายุจากการทำงาน โดยนำที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของตน และ ปลอดภาระหนี้มาเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เพื่อเพิ่มเงินได้ในการดำรงชีพ ซึ่งจำนวนเงินที่ผู้กู้จะได้รับขึ้นอยู่กับอายุของผู้กู้ มูลค่าของที่อยู่อาศัย และ อัตราดอกเบี้ย
โดยผู้กู้จะได้รับเงินให้สินเชื่อในลักษณะทยอยรับเป็นงวดจนกว่าผู้กู้จะเสียชีวิต หรือ ครบกำหนดอายุสัญญาสินเชื่อ ตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงไว้ และ ในระหว่างที่ผู้กู้ยังไม่เสียชีวิตหรือสัญญายังไม่ครบกำหนดนั้น ผู้กู้ยังคงมีกรรมสิทธิ์และสามารถอาศัยอยู่ในที่อยู่อาศัยที่นำมาเป็นหลักประกันดังกล่าวได้ โดยไม่ต้องชำระคืนสินเชื่อ จนกว่าผู้กู้จะเสียชีวิตหรือครบกำหนดอายุสัญญาสินเชื่อแล้วแต่กรณี
ด้วยลักษณะดังกล่าวข้างต้น การให้สินเชื่อเพื่อผู้สูงอายุโดยมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน จึงก่อให้เกิดความเสี่ยงทั้งต่อสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่เป็นผู้ให้กู้ และ ผู้สูงอายุที่เป็นผู้กู้แตกต่างจากสินเชื่อทั่วไป
ดังนั้น เพื่อให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจมีการบริหารความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อเพื่อผู้สูงอายุ โดยมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันอย่างเหมาะสม ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการให้สินเชื่อเพื่อผู้สูงอายุ โดยมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันเพื่อให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจ ถือปฏิบัติให้สอดคล้องกันตามหลักเกณฑ์ของประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย และ แนวนโยบายที่เกี่ยวข้อง เช่น การจัดทำนโยบายการให้สินเชื่อ การวิเคราะห์สินเชื่อ การจัดชั้น และ กันเงินสำรองการดำรงเงินกองทุนการเรียกเก็บดอกเบี้ย และค่าบริการต่างๆ และ การรับรู้รายได้
นอกจากนี้ สถาบันการเงินเฉพาะกิจควรให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้บริโภค โดยผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเสนอสินเชื่อเพื่อผู้สูงอายุโดยมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน ควรมีความรู้ความเข้าใจในสินเชื่อดังกล่าว และนำเสนอหรือสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้กู้เกี่ยวกับลักษณะของสินเชื่อ ความเสี่ยง และ สิทธิในกรณีต่างๆ อย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้กู้สามารถตัดสินใจได้ตรงตามความต้องการ และ ความเสี่ยงที่ตนสามารถยอมรับได้
รายละเอียดเพิ่มเติมจากประกาศฉบับเต็ม คลิกที่นี่ครับ
References…