หลายปีที่ผ่านมา… อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยมีความเคลื่อนไหวของทุนต่างชาติ รุกเข้าลงทุนผ่านความร่วมมือกับ Developers มากมายในบ้านเรา เพื่อเสริมโมเดลธุรกิจ ที่โอกาสยังมีมาจากต่างประเทศทั้งทุนและตลาดอย่างน่าสนใจมาตลอด แม้จะเกิดวิกฤตโควิดขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2020 สร้างความชะงักงันไปทั่วทุกวงการ… แต่กระแสข่าวหลายสายเกี่ยวกับทุนต่างชาติ ในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยจนถึงนาทีนี้ ดูเหมือนจะยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง… แถมยังมีข่าวว่าทุนอสังหาบางสายยังคงหนุนเนืองเข้าประเทศมาอย่างน่าสนใจ
กรณีทุนอสังหาที่เข้าประเทศไทยในรูปแบบตัวแทนหรือนอมินี ก็ยังคงเป็นประเด็นร้อนที่น่าจับตาอยู่ โดยฝ่ายที่เฝ้าสังเกตและระมัดระวังดูแล ก็พยายามติดตามตรวจสอบโดยมี พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เป็นเครื่องมือจัดการดูแล… แม้ส่วนใหญ่จะทำงานเชิงป้องกันยาก แต่ก็ถือว่าเรามีเครื่องมือทางกฏหมายดูแลให้ความเป็นธรรมกับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศใช้ควบคุมกลุ่มที่ฉวยโอกาสได้อยู่
ประเด็นเป็นแบบนี้ครับ… กระแสเทคโนโลยีที่ใช้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่วางแผน ออกแบบ ก่อสร้างและบริหารจัดการแบบต่างๆ ล้วนเปลี่ยนแปลงและพัฒนาเร็วเกินกว่าจะปรับตัวด้วยการสร้างและพัฒนาทุกองค์ประกอบด้วยตัวเองได้ทัน… การหันหาความร่วมมือกับพันธมิตรต่างชาติระดับ Strategic Partners ในรูปแบบต่างๆ ถือว่าแหลมคมทางกลยุทธ์อย่างยิ่งในช่วงเวลานี้
ตัวอย่างความร่วมมือในอดีตเช่น กรณีของเอพี–มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป ที่เป็นความร่วมมือของ เอพี (ไทยแลนด์) กับ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป… หรือกรณีของแสนสิริกับโตคิวกรุ๊ป รวมทั้งกรณีของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคกับฮ่องกง แลนด์ ก็ถือว่ามีต้นแบบและแนวทางให้ศึกษาอยู่
ความจริงผมเชื่อว่าตัวเองมีข้อมูลน้อยมากที่จะทำนายได้ว่า… ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นับจากนี้จะเป็นอย่างไร แต่ที่แน่ๆ นอนๆ ชัดๆ ที่จะบอกได้ก็คือ FinTech กับ PropTech ดูเหมือนจะมีช่องว่างในทางเทคนิคน้อยลงจนอาจจะกลายเป็นโมเดลเดียวกันได้ดีกว่าในอดีตที่ผ่านมา… ในอดีตเราอาจจะต้องการเพียงเงินทุนและองค์ความรู้ด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และต่างช่วยกันขับเคลื่อนกลยุทธ์ต่างตอบแทน โดยเฉพาะการร่วมทุนหลายกรณีสามารถระดมเงินทุนภายนอกมาใช้ขับเคลื่อนกลยุทธ์ได้เกินร้อยเปอร์เซนต์ก็เคยมีเกิดขึ้นและทำได้มาแล้วในวงการอสังหา
ประเด็นเป็นแบบนี้ครับ… ประเทศไทยในสายตาทุนต่างชาติยังคงเป็น Emerging Market หรือตลาดเกิดใหม่ที่ยังโตได้อีกมาก โดยเฉพาะสัดส่วนประชากรในชนบทที่ยังมีสัดส่วนสูงและมีแนวโน้มชัดเจนที่จะเดินทางเข้าไปหาที่อยู่อาศัยในเขตเมือง โดยเฉพาะทายาทบุตรหลานของคนชนบทที่การศึกษาดีขึ้นมาก และเลือกประกอบอาชีพอยู่ในเขตเมืองมากขึ้น… ด้วยแนวโน้มชัดเจนระดับนี้นี่เอง ทำให้วิกฤตโควิดคราวนี้แม้จะมีเสียงสะท้อนจากภาคอสังหาริมทรัพย์มากมายไม่ธรรมดาเหมือนกัน แต่เราก็ได้เห็นการแก้เกมส์และพลิกกลยุทธ์เพื่อยืนยาวๆ ให้พ้นวิกฤตกันได้ค่อนข้างดี… ซึ่งแน่นอนว่าส่วนหนึ่งคงเป็นแรงหนุนจากพันธมิตรต่างชาติที่ยังไม่ทิ้งไทยไปไหนในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้… แถมผมยังเห็นท่าทีของ Developers รายใหญ่รายกลางเลาะช้อปปิ้ง Startup กันคึกคักไม่ต่างจากเดิม เพื่อหาเทคโนโลยีล้มยักษ์ไปเป็นอาวุธลับ
หลังโควิดอีกไม่กี่เดือนนับจากนี้… ผมทายว่าตลาดจะกลับมาเดือดให้เห็นแน่!
References…