สภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์กรุงเทพปริมณฑล… ศูนย์วิจัยศุภาลัย

เวบไซต์ supalai.com ได้เผยแพร่ ข้อมูลจากรายงานการวิจัย โดย ดร. ประศาสน์ ตั้งมติธรรม  กรรมการที่ปรึกษา บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดรายงานผลการวิจัยสภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์กรุงเทพและปริมณฑลปี 2562 ซึ่งศูนย์วิจัยศุภาลัยประมาณการว่า… ยอดขายที่อยู่อาศัยตลอดปีโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 100,000 หน่วย โดยประมาณการยอดขายสูงสุดที่เป็นไปได้หรือ Best Case อยู่ที่ 120,000 หน่วย และต่ำสุดที่อาจเป็นไปได้หรือ Worst Case อยู่ที่ 80,000 หน่วย

ดร. ประศาสน์ ตั้งมติธรรม

ตัวเลขยอดขายประมาณการโดยเฉลี่ย 100,000 หน่วยนี้ ดร. ประศาสน์ ตั้งมติธรรมชี้ว่า… หากมองย้อนกลับไปในรอบ 8 ปี (2554-2561) ถือเป็นยอดขายทรงตัว ไม่ต่ำกว่าปกติเท่าใดนัก เพราะแต่ละปีตลาดอสังหาริมทรัพย์ มียอดขายอยู่ระหว่าง 90,000-120,000 หน่วยอยู่แล้ว แต่เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2561 ซึ่งมียอดขาย 113,508 หน่วย ถือว่ายอดขายลดลงกว่าปีก่อน โดยปีก่อนนี้มีตัวเลขยอดขายที่ดีเพราะมีกำลังซื้อชาวจีนเข้ามาเพิ่มดีมานด์ตลาด

อย่างไรก็ตาม หากคิดคำนวณสัดส่วนยอดขาย 100,000 หน่วยต่อหน่วยขายทั้งตลาดของปี 2562… จะคิดเป็นสัดส่วนการขายหรือ Take Up Rate เพียง 32.5% ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 8 ปีที่ผ่านมา ที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ มักจะมี Take Up Rate อยู่ระหว่าง 34.66% – 45.45%… ดังนั้น ปีนี้นับได้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ประสบภาวะขาลง

“แย่กว่าเดิมไหม?… ใช่! แต่ยังไม่วิกฤต ผมคาดว่าการลดลงเช่นนี้จะยังคงอยู่ไม่เกินปีหน้า”

สาเหตุที่มุมมองของ ดร. ประศาสน์ ตั้งมติธรรมมองว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังไม่ถึงขั้นวิกฤต เพราะแม้ว่าจะเกิดยอดขายแบบ Worst Case ได้เพียง 80,000 หน่วย ก็ยังคิดเป็น Take Up Rate ที่ 26% อยู่… นั่นหมายความว่า หากประเมินตลาดอสังหาริมทรัพย์เปรียบเสมือนโครงการที่อยู่อาศัยโครงการหนึ่ง จะสามารถขายหมดได้ภายใน 4 ปี

ปกติโครงการอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่งๆ หากขายหมดได้ภายใน 4-5 ปีจะยังมีกำไร และ Gross Margin อยู่ราวๆ 20-25%… ซึ่งเป็นกำไรขั้นต้นปกติในธุรกิจนี้

ดังนั้น… ถ้าโครงการสามารถขายได้ปีละ 20% ขึ้นไป ก็ยังถือว่ามีสถานการณ์ที่ดีอยู่ แต่ถ้าหากเมื่อไหร่ที่ขายได้ต่ำกว่าปีละ 20% จะเกิดค่าใช้จ่ายพนักงานขายและการดูแลรักษาที่เพิ่มต้นทุนมากกว่าปกติ และทำให้กำไรลดลง

สถานการณ์ที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์มี Take Up Rate ต่ำกว่า 20% ซึ่งถือว่าเข้าขั้นวิกฤตนั้น… เกิดขึ้นครั้งสุดท้ายในช่วงหลังปี 2540 วิกฤตต้มยำกุ้งและไม่เคยเกิดขึ้นอีกเลย… แม้กระทั่งปี 2554 ที่เกิดภัยพิบัติน้ำท่วมใหญ่ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ขายได้ลดลงจนเหลือยอดขายเพียง 81,816 หน่วยในปีนั้น แต่ยังคิดเป็น Take Up Rate ถึง 37.86%

ส่วนปัจจัยสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ… ดร. ประศาสน์ ตั้งมติธรรมให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า… สภาพเศรษฐกิจปัจจุบันเป็นผลบวกหรือลบกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ไม่มาก เพราะที่อยู่อาศัยเป็นปัจจัย 4 ซึ่งประชาชนจำเป็นต้องซื้อ โดยอัตราการขึ้นลงของ GDP ประเทศ 1 Basis Point จะส่งผลต่อยอดขายที่อยู่อาศัย 5,000 หน่วยโดยประมาณ

อ้างอิง

https://supalai.com/en/NewsActivities/Detail/ภาคเศรษฐกิจใดสำคัญต่อเศรษฐกิจโดยรวม%20ดร.%20ประศาสน์%20ตั้งมติธรรม%20ศูนย์วิจัย%20บมจ.ศุภาลัย

Share this post

Add Properea's Friend

เพิ่ม Properea.com เป็นเพื่อนทาง Line
ท่านจะได้ Link บทความใหม่ส่งตรงให้อย่างสม่ำเสมอโดยรบกวนแต่น้อย

Related Post

Herbert A. Simon

The Proper Study Of Mankind Is The Science Of Design ~ Herbert A. Simon

ในขณะที่ Herbert A. Simon เชื่อว่า การตัดสินใจที่ดีของปัจเจกบุคคลด้วยธรรมชาติที่มักจะมีข้อมูลจำกัดในตนภายใต้การรักษาสมดุลผลประโยชน์ระหว่างตนกับผู้อื่นต้องการเพียง “ความพอใจ หรือ Satisfied” เป็นทางเลือก โดยมี “ความเพียงพอ หรือ Sufficiency” ช่วยสร้างสมดุลปนกันอยู่

Lootex… GameFi และ NFT Marketplace

Lootex เป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายแลกเปลี่ยน NFTแบบ Multichain โดยตั้งเป้าที่จะเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ NFTs ในเกมที่ให้ความสำคัญกับเกมเมอร์ด้วยแนวคิด Player Centric ซึ่งนักเล่นเกมสามารถเปิดชม และ ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ NFTs ของเกมผ่านบล็อคเชนหลายๆ แพลตฟอร์มได้อย่างง่ายดาย โดยปัจจุบันรองรับการซื้อ–ขายสินทรัพย์ NFTs ได้ทั้ง Ethereum Blockchain… Binance Smart Chain… Polygon… Arbitrum… Moonbeam และ AVAX

Voder

Vonder… Microlearning EdTech Startup สายเลือดไทย

Microlearning เป็นคำใหม่ในวงการศึกษา ที่ผมเองก็สนใจและเฝ้าติดตามพัฒนาการของเทคนิคการ Relearn และ Upskill ด้วยหน่วยความเรียนรู้ย่อยๆ ที่ไม่เข้าไปใช้เวลาและทรัพยากรของผู้เรียนมากเกินไป… Microlearning ถือเป็นพัฒนาการของ eLearning อีกขั้น ที่องค์ความรู้ชุดเล็กที่สุด ถูกผลิตและแจกจ่ายเป็น Digital Content ในรูปแบบที่เหมาะสม เพื่อใช้รูปแบบเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยไม่รบกวน “เวลา” ของเป้าหมายถึงขั้นต้องวางแผนก่อนค่อยมีโอกาสได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ เพื่อพัฒนาตัวเอง

Jackson Hole Symposium และ สถานการณ์ค่าเงินยูโรดอลลาร์

พลันที่ Jerome Powell ยืนยันการขึ้นดอกเบี้ยอย่าชัดเจน… ราคาหุ้นในดัชนี S&P 500 ก็ไหลลงพร้อมกันกว่า 3.4% ซึ่งนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ยืนยันว่า… ร่วงลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ส่วนดัชนี Nasdaq ก็ดิ่งลงมากกว่า 4% เช่นกัน ในขณะที่ราคาคริปโตหลักๆ อย่าง BTC และ ETH ก็ติดลบทันทีกว่า 10% ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง… แต่ที่น่าติดตามท่ามกลางความผันผวนที่สุดก็คือค่าเงินยูโร หรือ ยูโรดอลลาร์ ซึ่งก่อนหน้านั้นก็อ่อนค่าลดลงต่อเนื่องจนต่ำกว่า 1.1 USD/EURO มาตั้งแต่สงครามรัสเซีย–ยูเครนระเบิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 กระทั่งหลุด 1 USD/EURO ลงไปถึง 0.98XXX USD/EURO ซึ่งถือว่าไม่ปกติ และ คุ้นชินนักที่ดอลลาร์สหรัฐแพงกว่า หรือ แข็งค่ากว่ายูโรดอลลาร์