ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กับ AI และ Data Driven Real Estate

ช่วงต้นปี 2020 ที่ COVID19 กำลังระบาดออกจากจีน คุกคามถึงยุโรปและสหรัฐ เวบไซต์ FastCompany.com ได้เผยแพร่บทความชื่อ Will silicon valley put real estate brokers out of business เพื่อนำข้อมูล PropTech Startup จาก Silicon Valley ที่รุกเข้าสู่การใช้แพลตฟอร์มช่วยแก้ปัญหามากมายในวงการ Real Estate ทั้งในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก

ประเด็นก็คือ คนกลางอย่างนายหน้าและบรรดาเซียนอสังหาที่กำข้อมูลมากกว่าคนอื่นก็เก่งแล้ว… น่าจะค่อยๆ หายไปจากระบบนิเวศน์ พร้อมๆ กับมูลค่าธุรกรรมของฝั่ง PropTech Real Estate ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนมากกว่าธุรกรรมในระบบนิเวศน์เดิม… เหมือนเมื่อครั้งวงการทีวีและสื่อสิ่งพิมพ์ถูกสื่อดิจิทัล Disrupted จนเข้าสู่ภาวะถดถอยยิ่งยวดและทำมาหากินแบบเดิมๆ อย่างยากลำบาก

แต่ช้าก่อน… ข้อเท็จจริงก็คือ การจะขับเคลื่อนแพลตฟอร์มให้ได้ถึงขั้นไปทดแทนกลไกธุรกรรมเดิมได้อย่างสิ้นเชิงนั้น แพลตฟอร์มต้องการทั้งระบบนิเวศน์ที่เป็นมิตรต่อแพลตฟอร์ม และยังต้องการข้อมูลมหาศาลในการขับเคลื่อนแพลตฟอร์มให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งปัญหาไซโลข้อมูล หรือข้อมูลอยู่คนละที่ละทาง ของธุรกรรมฝั่งอสังหาริมทรัพย์ ยังเป็นปัญหาท้าทายให้ PropTech Real Estate ที่ฝันใหญ่ ต้องฝ่าฟันกันอีกพักใหญ่…

คำถามตัวโตๆ ในวงการ PropTech ที่ได้อ่านและได้ยินมาตลอดจึงมาหยุดที่… จะเอา Data มาจากไหน?

พอมาถึงคำถามนี้ก็เป็นอันว่า การพัฒนาแพลตฟอร์มใดๆ ที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ จำเป็นจะต้องชัดเจนว่าอยากได้ข้อมูลอะไรเพื่อไปทำอะไร?…

โดยประสบการณ์ผมได้เห็นการใช้ AI กวาดเก็บข้อมูลทุกอย่างที่มี “คำสำคัญ หรือ Keyword” หลายหมื่นคีย์ที่แพลตฟอร์มต้องการนำมาใช้วิเคราะห์ประเมิน เพื่อเทียบเคียงและสกัดเอาการคาดคะเนที่แม่นยำกว่าการใช้กึ๋น หรือแม้แต่การหาข้อมูลวงในจากเส้นสายและกูรูท่านใดๆ แต่ก็มาเจอปัญหาเดิมคือ AI ยังต้องการข้อมูลมากกว่านี้เพื่อให้พลาดน้อยกว่านี้

กรณีการขับเคลื่อนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วย Big Data แม้จะเห็นแนวโน้มชัดเจนว่า…  ข้อมูลจะทำให้คนถือข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนได้เปรียบคู่แข่งอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ข้อมูลที่ยังกระจัดกระจายอยู่ในปัจจุบัน ยังเป็นอุปสรรคสำคัญของแพลตฟอร์มอสังหาริมทรัพย์ ที่วาดหวังจะทดแทนหรือ Disrupted กลไกธุรกรรมเดิมๆ ให้ได้สิ้นเชิงนั้น… ยังเหลือเวลาอีกพอสมควร

และเมื่อหันกลับมามองภาพรวมของการตอบรับยุค Data Driven Real Estate ของบ้านเรา จนถึงขณะนี้ยังคงเห็นการคลำทางเพื่อเรียนรู้กันอยู่เป็นส่วนใหญ่… ซึ่งผมมองว่า อีกไม่นานเราคงได้เห็นอะไรๆ ในอสังหาริมทรัพย์ ที่มีสีสันขึ้นในปี 2021 ที่จะถึงนี้… โดยส่วนตัวผมไม่ห่วงคนที่คลำทางยังไม่เจอทิศเท่าไหร่ ตราบเท่าที่ความพยายามเหล่านี้รู้ดีว่าเป็นการเรียนรู้และล้มเหลวอย่างมีชั้นเชิง ที่น่าห่วงคือคนที่รอดูคนอื่นคลำทางจนเห็นชัดเจนให้เห็นก่อนต่างหาก ที่จะถูกทิ้งห่างไว้ข้างหลัง

คำแนะนำคือ… เริ่มเก็บข้อมูลจริงจังกันได้แล้วครับ มากน้อยก็ให้เก็บและสะสมต่อไป…  ขอให้มองการสะสมข้อมูลเป็นเหมือนการเก็บออมเงินเพื่อสะสมจนกลายเป็นทุนก้อนใหญ่… ซึ่งจะมีพลังเมื่อจำนวนหรือปริมาณมีมากพอไม่ต่างกัน

ตามนั้นครับ!!!

References…

Share this post

Add Properea's Friend

เพิ่ม Properea.com เป็นเพื่อนทาง Line
ท่านจะได้ Link บทความใหม่ส่งตรงให้อย่างสม่ำเสมอโดยรบกวนแต่น้อย

Related Post

ผังเมืองเขตเศรษฐกิจแม่สอดและโครงสร้างพื้นฐานที่ล่าช้า… ลดความร้อนแรงอสังหาริมทรัพย์ริมฝั่งเมยไปอีกพักใหญ่?

ไหนๆ ผมก็คลี่ East-West Economic Corridor ออกมาอวดเกือบหมดแล้ว ถ้าไม่พูดถึงเขตเศรษฐกิจแม่สอดไปเลย ข้อมูลก็จะไม่ครบซิครับ… เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา มีสื่อบางสำนักเข้าไปสัมภาษณ์คุณชวพันธ์ ชวเจริญพันธ์ ประธานหอการค้าจังหวัดตาก เพื่อพูดคุยถึงภาพรวมการค้าการลงทุนในพื้นที่ โดยเฉพาะเขตเศรษฐกิจแม่สอด ที่สองสามปีก่อนหน้านี้มีความเคลื่อนไหวในฐานะเขตเศรษฐกิจพิเศษ

FTX TOKEN และ FTX.COM

FTX.COM เป็นแพลตฟอร์มเทรดคริปโตแบบ Centralized Trading ที่มีผลิตภัณฑ์ตลาดทุนรองรับการลงทุนครบครันไม่น้อยหน้าแพลตฟอร์มอันดับหนึ่งอย่าง Binance… ซึ่งหลายความเห็นยังยกให้ FTX.COM เป็นคู่แข่งขันของ Binance จากปัจจัยเชิงระบบนิเวศของแพลตฟอร์มที่ไม่ได้มีแต่คริปโตให้ลงทุน แบบที่เกิดได้ดาษดื่น… เพราะทั้ง Binance และ FTX ได้ชื่อว่าเป็นตลาดอนุพันธ์ หรือ Derivative Market ในยุคบล็อกเชนที่มีเทคโนโลยีรองรับการลงทุนอย่างหลากหลาย

Functional Food… โอกาสและมูลค่าเพิ่มของธุรกิจอาหาร

ตัวเลขของยูโรมอนิเตอร์ หรือ Euromonitor ซึ่งเป็นสำนักวิจัยชื่อดังที่นักลงทุนทั่วโลกซื้อข้อมูลราคาแพงจากที่นี่สม่ำเสมอ รวมทั้งสถาบันการเงินใหญ่ๆ… ซึ่งประเมินมูลค่าตลาด Functional Food ในประเทศไทยอยู่ที่ราว 68,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ยประมาณปีละ 4% ต่อปีตลอดช่วงปี 2018-2022