ท่าเรือน้ำลึกสงขลา 2

ท่าเรือน้ำลึกสงขลาแห่งแรก เป็นท่าเรือหลักและเป็นท่าเรือระหว่างประเทศ ที่อยู่ทางด้ายชายฝั่งอ่าวไทยภาคใต้ตอนล่างก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2531 และเปิดดำเนินการตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

กระทั่งปี พ.ศ. 2540 กรมเจ้าท่าจึงได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาดำเนินการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสำรวจออกแบบเพื่อขยายท่าเรือน้ำลึกสงขลา โดยผลการศึกษาแสดงว่า ควรขยายท่าเรือน้ำลึกสงขลาเพิ่มอีก 1 ท่า สำหรับรองรับเรือสินค้าตู้คอนเทนเนอร์ และเสนอให้ปรับปรุงพื้นที่หลังท่าเรือเดิม ให้รองรับสินค้าตู้คอนเทนเนอร์และสินค้าทั่วไปได้มากขึ้น ตลอดจนได้เสนอให้จัดระบบการกองตู้สินค้าใหม่พร้อมทั้งติดตั้งปั้นจั่นยกตู้สินค้าเพิ่มเติม ทั้งในส่วนหน้าท่าและในส่วนลานกองเก็บตู้สินค้า  

เมื่อกรมเจ้าท่าได้นำเสนอรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการขยายท่าเรือสงขลา ให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณา กลับมีประเด็นปัญหาสำคัญที่ยังไม่ได้รับความเห็นชอบ เนื่องจากพื้นที่บริเวณท่าเรือน้ำลึกสงขลาแห่งแรก มีแนวคูเมืองเก่าและมีโบราณสถานใต้น้ำอยู่ใกล้เคียง ซึ่งถือเป็นเขตโบราณสถาน ที่ไม่สามารถก่อสร้างอาคารต่างๆ ได้สูงเกิน 6 เมตร และยังมีปัญหาเรื่องการอพยพโยกย้ายราษฎรในพื้นที่เวนคืนด้วย

ปี พ.ศ.2549 กรมเจ้าท่าได้ว่าจ้างที่ปรึกษา ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และสิ่งแวดล้อม เพื่อก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกชายฝั่งทะเลอ่าวไทยตอนล่าง  สำหรับรองรับการขยายตัวของท่าเรือน้ำลึกสงขลา และเพิ่มขีดความสามารถของท่าเรือน้ำลึกบริเวณชายฝั่งทะเลอ่าวไทยตอนล่างของประเทศ ให้สามารถรองรับความต้องการในการขนส่งสินค้า เรือขนส่งสินค้าสามารถเข้าจอดเทียบท่าเพื่อขนส่งสินค้าได้อย่างสะดวก ปลอดภัย ประหยัดเวลา และสามารถเชื่อมโยงการขนส่งทั้งในประเทศและระหว่างประเทศทั้งชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกจากท่าเรือแหลมฉบัง ชายฝั่งทะเลอ่าวไทย และชายฝั่งทะเลอันดามันที่มีท่าเรือปากบาราเป็นโครงข่าย 

ผลการศึกษา เมื่อ พ.ศ. 2552 สรุปว่า… พื้นที่บริเวณตำบลนาทับ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลามีความเหมาะสมที่จะพัฒนาเป็นท่าเรือน้ำลึกสงขลา แห่งที่ 2

โครงการท่าเรือนํ้าลึกสงขลาแห่งที่ 2 นับเป็นการพัฒนาระบบการคมนาคมขนส่งทางเรือเพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านการแข่งขันและการพัฒนาระบบเศรษฐกิจของประเทศเนื่องจากประเทศไทย มีความได้เปรียบในการที่จะพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญในระดับภูมิภาค

โดยท่าเรือนํ้าลึกสงขลาแห่งที่ 2 จัดให้เป็นท่าเรือหลักและเป็นท่าเรือระหว่างประเทศให้สามารถรองรับเรือขนาด 9,000-20,000 เดตเวตตัน สามารถรองรับตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ได้ 1.4 แสนตู้ต่อปี จัดเป็นการพัฒนาท่าเรือนํ้าลึกชายฝั่งทะเลอ่าวไทยตอนล่างและเพิ่มขีดความสามารถของท่าเรือนํ้าลึกชายฝั่งทะเลอ่าวไทยตอนล่างของประเทศ ให้สามารถรองรับความต้องการในการขนส่งสินค้า เรือขนส่งสามารถจอดเทียบท่าได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดเวลา สะดวก ปลอดภัยและยังเชื่อมโยงการขนส่งในประเทศและระหว่างประเทศ รวมถึงการเชื่อมโยงเส้นทางการขนส่งสินค้าไปยังกลุ่มประเทศคู่ค้าสำคัญ

ท่าเรือน้ำลึกสงขลาแห่งที่ 2 ก็เหมือนโครงการขนาดใหญ่ทั่วๆ ไปที่มักจะมี NGO และประชาชนจำนวนหนึ่งคัดค้านต่อต้าน… แต่โครงการก็เดินหน้าจนกลายเป็นจิ๊กซอว์ตัวใหญ่จากฝั่งอ่าวไทยของ SEC และ Landbridge ที่หลายฝ่ายเชื่อว่า 

ที่นี่จะกลายเป็นโครงข่ายลอจิสติกส์หลักบนคาบสมุทรมาลายูทีเดียวครับ!

Share this post

Add Properea's Friend

เพิ่ม Properea.com เป็นเพื่อนทาง Line
ท่านจะได้ Link บทความใหม่ส่งตรงให้อย่างสม่ำเสมอโดยรบกวนแต่น้อย

Related Post

ไม้ยูคาลิปตัส… หลักประกันทางธุรกิจใหม่

คุณพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยข้อมูลจากการหารือร่วมกับ ผู้แทนสมาคมธนาคารไทย ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง และหน่วยงานภาครัฐ เพื่อพิจารณาแนวทางการส่งเสริมการนำไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันทางธุรกิจ… ปัญหาอุปสรรคในการให้สินเชื่อของแต่ละสถาบันการเงิน รวมถึงความเป็นไปได้ในการนำไม้ยืนต้นมาใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจ ซึ่งที่ประชุมได้มีความเห็นให้ “ไม้ยูคาลิปตัส” สามารถใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจได้

ภาษีที่ดินใหม่ 2566

ความเคลื่อนไหวของกรมธนารักษ์ในการใช้ราคาประเมินที่ดินใหม่ในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2566 ซึ่งมีข้อมูลว่า… ที่ดินย่านใจกลางกรุงเทพมหานครอย่างสีลม เพลินจิต วิทยุ ราชดำริ พระราม 1 จะมีราคาประเมินขึ้นไปสูงสุดถึงตารางวาละหนึ่งล้านบาท… ถึงแม้จะยังห่างจากราคาตลาดจริงถึง 3 เท่าก็ตาม

mergers and acquisitions

Mergers And Acquisitions… แนวคิดการควบรวมและซื้อกิจการ

การทำ M&A ก็คือการโอนย้ายความเป็นเจ้าของ หรือ Ownership ของกิจการหรือทรัพย์สินของทั้งสองกิจการรวมเข้าไว้ด้วยกัน ผ่านธุรกรรมการซื้อขายแลกเปลี่ยนในหลายๆ รูปแบบ แต่ไม่ว่าจะรูปแบบไหน ก็จะต้องมีการรวมทรัพยากรของทั้งสองกิจการเข้าด้วยกัน…

bullish bearish

Wyckoff Price Cycle… วงจรราคาของวิคคอฟฟ์

Richard Wyckoff กำหนดให้ช่วงราคาตกต่ำ แล้วมีการเคลื่อนไหวของราคาในกรอบแคบๆ เป็น Accumulation Phase หรือ ระยะสะสม… และกำหนดให้ช่วงราคาที่ปรับตัวขึ้นมาสูง แล้วเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เป็น Distribution Phase หรือ ระยะแบ่งขาย… โดยมี “ช่วงราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” เรียกว่า Markup เชื่อมเป็นเส้นกราฟชันขึ้นจากระยะสะสม ไปชนจุดเริ่มต้นระยะแบ่งขาย เพื่อจบแนวโน้มขาขึ้น หรือ Bullish Trend… และ มี “ช่วงราคาลดลงอย่างต่อเนื่อง” เรียกว่า Markdown ดิ่งลงจากระยะแบ่งขาย ไปชนจุดเริ่มต้นระยะสะสม เพื่อจบแนวโน้มขาลง หรือ Bearish และ ครบวงจร “ขึ้น–ลง” ในหนึ่งรอบ