นโยบายฟื้นภาคท่องเที่ยวกับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ด้วยการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการเดินทางเข้ามาพักอาศัยระยะยาวในประเทศไทย มีทั้งเสียงขานรับและวิตกกังวลว่า หากรัฐบาลเปิดกว้างมากเกินไปในขณะที่สถานการณ์การระบาดทั่วโลก ยังน่ากังวลอยู่มากมาย… ไทยเราอาจจะกลับเข้าสู่วังวนการ Lock Down ซ้ำอีกครั้ง… แต่ตัวเลขและลมหายใจฝั่งเศรษฐกิจ ที่ยังไม่มีช่องลอดและทางไปชัดเจน หากไม่ยอมรับเอาความเสี่ยงไว้บ้าง อนาคตก็คาดเดาได้ไม่ยากรอทุกคนอยู่
คอนเซ็ปต์นำร่องอย่าง “ภูเก็ตโมเดล” กับแนวคิดเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ภายใต้เงื่อนไขต้องกักตัวอยู่ในโรงแรมที่พัก 14 วัน ในรูปแบบ Alternative State Quarantine โดยออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด และหากจะเดินทางข้ามจังหวัดต้องกักตัวเพิ่มอีก 7 วัน… ในพื้นที่เขตป่าตอง จังหวัดภูเก็ต จึงเป็นทั้งความหวัง และ ประเด็นร้อนแรงในกระแสเศรษฐกิจและสังคม
การเปิดกว้างรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากคนในพื้นที่ ในฐานะผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ก่อนจะนำร่อง “ภูเก็ตโมเดล” จึงสำคัญ… และหากผลเป็นไปตามที่รัฐคาดหวัง นักท่องเที่ยวต่างชาติตอบรับ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจับจ่ายใช้สอยตรงตามวัตถุประสงค์ แล้วค่อยขยายผลไปในแหล่งท่องเที่ยวหลักแห่งอื่นๆ ต่อไปได้จริง… บ้านเราก็มีความหวังเพิ่มขึ้นอีกมาก
ส่วนประเด็นความโปร่งใสเป็นธรรม กับเสียงสะท้อนเรื่องเอื้อประโยชน์ให้ผู้ประกอบการบางส่วน ก็ควรชี้แจงแถลงอ้างให้เป็นที่ยอมรับ และครหาน้อยที่สุด… ส่วน ความโปร่งใสชัดเจนต่อมาตรการตรวจสอบดูแลกลุ่มนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาพำนัก จะโปร่งใส และป้องกันความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน เพราะภูเก็ตโมเดลเป็นการกักตัวแบบท่องเที่ยวพักผ่อน นักท่องเที่ยวที่กักตัวสามารถใช้ชีวิตอยู่ในเขตท่องเที่ยวพื้นที่กักตัวได้ตั้งแต่ห้องพักถึงชายหาด… ที่สำคัญกว่านั้นคือ การจัดการเจ้าหน้าที่และคนทำงานในโซน Alternative State Quarantine ของภูเก็ตโมเดล ซึ่งสัมผัสกับนักท่องเที่ยวระยะกักตัว… ต้องชัดเจนโปร่งใสและชี้แจง
ข่าวล่าสุดเมื่อ 18.00 นาฬิกาของวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2563 ขณะที่ผมกำลังเรียบเรียงต้นฉบับอยู่นี้… ไทยพบผู้ติดเชื้อในประเทศ เป็นผู้ต้องขังคดียาเสพติดแรกรับ… และข่าวสารยังสับสนอยู่
การพูดคุยกับหลายๆ ท่านช่วงหัวค่ำวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2563… ส่วนใหญ่กังวลคล้ายกันว่า… อาจจะเป็นสัญญาณการระบาดรอบ 2 ของไทย ที่ต้องเผื่อเหลือ เผื่อขาดให้มากกว่าเดิมในทุกไอเดีย
การระบาดในประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนม่า… ก็น่ากังวลไม่ธรรมดา โดยเฉพาะการลักลอบข้ามชายแดนในช่องทางธรรมชาติต่างๆ… การดำเนินการทุกอย่างด้วยความรอบคอบรัดกุม ให้ความสำคัญทั้งด้านเศรษฐกิจ และสุขภาพ รวมทั้งการทำความเข้าใจกับคนในพื้นที่ทดสอบโมเดลและคนในชาติ… ให้ข้อมูลตรงไปตรงมา ถกเถียงเปิดใจและรับฟังกันและกันทุกฝ่าย… น่าจะสำคัญยิ่งยวดในเวลานี้
โดยส่วนตัวคิดว่า… การเดินหน้าหาทางฟื้นธุรกิจท่องเที่ยวในยามนี้เป็นเรื่องท้าทาย และไม่ว่าอย่างไรก็ต้องทดลองทำอะไรบางอย่าง เพิ่มตัวเลือกและทางออกให้วิกฤต ซึ่งต้องมีทั้งคนได้และคนเสียอย่างแน่นอน… การขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงโดยรักษาสมดุลย์ตัวแปรต่างๆ ในยามนี้… แหลมคมอย่างยิ่ง
ภูเก็ตโมเดล… ผมเห็นด้วยครับ!!!
ขอบคุณภาพจาก bangkokpost.com
อ้างอิง