พลันที่การแถลงข่าวจากผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด… ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของ และ ผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก ได้แก่ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และ เป็นหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และ สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ… ได้เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2565 เป็นหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน หรือ Perpetual Bond แบบไถ่ถอนเมื่อเลิกบริษัท… ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนด และ มีสิทธิเลื่อนชำระดอกเบี้ยโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ โดยไม่กำหนดอายุ แต่ผู้ออกหุ้นกู้สามารถไถ่ถอนหุ้นกู้เมื่อครบกำหนด 5 ปีเป็นต้นไป… การพูดคุยของนักลงทุนต่อรูปแบบ Perpetual Bond หรือ หุ้นกู้ชั่วนิรันดร์… ซึ้งผู้ให้กู้ หรือ นักลงทุนต้องยอมรับเงื่อนไขที่มองยังไงก็เสียเปรียบอย่างที่สุด แม้ดอกเบี้ยจะน่าสนใจมากก็ตาม
คุณชฎาทิพ จูตระกูล ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ คุยกับสื่อว่า… การระดมทุนครั้งนี้ของสยามพิวรรธน์ มีแผนที่จะใช้ในการชำระค่าสิทธิการเช่าที่ดิน และ ใช้ปรับปรุงศูนย์การค้าทั้งหมด เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจหลักตอบสนองต่อการใช้ชีวิตวิถีใหม่สู่อนาคต รวมทั้งขยายธุรกิจสู่ New Economy ในหลายประเภท ตลอดจนการสร้างดิจิทัลแพลตฟอร์มเชื่อมธุรกิจหลักกับการทำธุรกิจใหม่ ๆ ร่วมกับพันธมิตรใน Ecosystem… นอกจากนี้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของสยามพิวรรธน์ในการบริหารธุรกิจศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน และอาคารที่อยู่อาศัย ทำให้บริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจด้านการบริหารอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติมในอีก 1-3 ปีข้างหน้า
หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน หรือ Perpetual Bond ของ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กำหนดอัตราดอกเบี้ยช่วง 5 ปีแรกที่ 5.25%-5.50% ต่อปี… จากนั้นจะปรับอัตราดอกเบี้ยทุกๆ 5 ปี อ้างอิงจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน เสนอขายแก่ผู้ลงทุนสถาบัน และหรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ด้วยการจองซื้อขั้นต่ำ 1 ล้านบาท และ ทวีคูณของ 1 ล้านบาท
บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ได้แต่งตั้งธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)… บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน)… บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)… บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด และ บริษัท หลักทรัพย์ ไอ วี โกลบอล จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ โดยคาดว่าจะเสนอขายในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคมนี้
อันดับเครดิตของบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด อยู่ที่ “A-” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่ หรือ Stable” ส่วนหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนชุดนี้ ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ “BBB” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่ หรือ Stable จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565… ซึ่งเป็นเครดิตเรทติ้งระดับ Investment Grade สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือและศักยภาพความแข็งแกร่งของกลุ่มสยามพิวรรธน์ ที่เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกชั้นนำระดับโลก
หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน หรือ Perpetual Bond จะเป็นการขอกู้เงินโดยมี “หุ้นกู้” เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันตามกฏหมาย… โดยลักษณะพิเศษของหุ้นกู้ประเภทนี้คือ สิทธิในการไถ่ถอน “หุ้นกู้” ของผู้ลงทุนจะทำได้ก็ต่อเมื่อ “บริษัทยกเลิกกิจการ” ซึ่งถ้าไม่เลิกกิจการก็ต้องถือต่อไปโดยไม่มีกำหนดวันเวลาในการไถ่ถอนคืนค่าหุ้น… มีแต่การจ่าย “ดอกเบี้ยรายงวด” ตามเงื่อนไขเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่ก็สงวนสิทธิ์การเลื่อนจ่ายดอกเบี้ยโดยผู้ออกหุ้นกู้ได้ด้วย
ข้อมูลจากเวบไซต์สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้บรรยายลักษณะของ “หุ้นกู้ด้อยสิทธิ” เอาไว้ว่า
1. ความหมายของคำว่า “หุ้นกู้ด้อยสิทธิ”
“หุ้นกู้ด้อยสิทธิ” คือ หุ้นกู้ที่ผู้ลงทุนจะมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ของผู้ขาย เหมือนกับหุ้นกู้ธรรมดา แต่ผู้ลงทุนจะมีสิทธิได้รับชำระหนี้ ‘หลัง’ จากเจ้าหนี้รายอื่น ๆ ที่เป็นผู้ถือหุ้นกู้มีประกันและไม่ด้อยสิทธิ แต่ยังมีสิทธิจะได้รับเงิน ‘ก่อน’ ผู้ถือหุ้นสามัญ ซึ่งผู้ลงทุนมีสิทธิ์ที่จะได้รับชำระหนี้คืนทั้งหมด หรือได้รับคืนบางส่วน หรือไม่ได้เงินคืนเลยก็เกิดขึ้นได้ พูดง่ายๆ ก็เป็นหุ้นกู้ด้อยสิทธิจะมีสิทธิน้อยกว่าหุ้นกู้มีประกันและไม่ด้อยสิทธิ และมีความเสี่ยงมากกว่า
2. ความหมายของคำว่า “ที่มีลักษณะคล้ายทุน”
ส่วนคำว่า “ที่มีลักษณะคล้ายทุน” คือที่มาของคำว่า “หุ้นกู้ชั่วนิรันดร์” หรือ “หุ้นกู้ตลอดชีพ” เนื่องจากลักษณะคล้ายทุน หมายถึง สิทธิของผู้ลงทุนในการไถ่ถอนของหุ้นกู้ตัวนี้จะทำได้ก็ต่อเมื่อบริษัทยกเลิกกิจการไป หรือเป็นการถือแบบไม่มีกำหนด… นั่นคือ ผู้ลงทุนต้องถือหุ้นกู้ตัวนี้ไปเรื่อยๆ แบบไม่มีกำหนด และอาจไม่ได้รับคืนเงินต้นตลอดช่วงเวลาที่ถือหุ้นกู้อยู่นั้น เรียกได้ว่าชะตาชีวิตถูกกำหนดโดยผู้ออกหุ้นกู้ โดยที่ผู้ถือหุ้นกู้หรือผู้ลงทุนไม่มีสิทธิบังคับให้ผู้ออกต้องไถ่ถอนหุ้นกู้ในช่วงใดๆ ก็ตาม… ดังนั้น หากไม่ต้องการถือหุ้นกู้นี้อีกต่อไป ผู้ถือหุ้นกู้นี้จะทำได้เพียงขายออกไปเท่านั้น ซึ่งอาจขายได้ในราคาที่ต่ำกว่าราคาที่ได้มา หรือไม่ได้ตามเวลาที่ต้องการ หรืออาจขายไม่ได้เลย ขึ้นอยู่กับว่าช่วงเวลานั้นๆ ว่ามีคนสนใจหุ้นกู้นี้อยู่หรือไม่ ยิ่งไปกว่านั้น หุ้นกู้บางตัว ยังถูกกำหนดเงื่อนไขว่าต้องเป็นผู้ลงทุนบางกลุ่ม เช่น ผู้ลงทุนสถาบัน หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ที่จะซื้อได้ นั่นแปลว่า เราต้องขายให้เฉพาะกับคนกลุ่มนี้เท่านั้น ซึ่งทำให้การขายยากไปขึ้นไปอีก ซึ่งเป็นความเสี่ยงด้านสภาพคล่องที่ต้องยอมรับให้ได้หากตัดสินลงทุนหุ้นกู้ประเภทนี้
3. ผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิเลื่อนการชำระดอกเบี้ย
อีกหนึ่งเงื่อนไข ที่ไม่รู้ไม่ได้คือ ผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิเลื่อนการชำระดอกเบี้ยพร้อมกับสะสมดอกเบี้ยจ่ายไปชำระในวันใดก็ได้ ไม่จำกัดระยะเวลา และไม่จำกัดจำนวนครั้ง และผู้ออกอาจไม่จ่ายดอกเบี้ยสำหรับส่วนที่ค้างชำระก็ได้ ผู้ถือหุ้นกู้หรือผู้ลงทุนจะได้รับดอกเบี้ยเมื่อใดก็ขึ้นอยู่กับผู้ออกเช่นกัน… จึงกล่าวได้ว่า ผู้ถือหุ้นกู้ตัวนี้มีความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับดอกเบี้ยหรือได้รับดอกเบี้ยล่าช้า นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยเป็นแบบลอยตัว ซึ่งจะระบุดอกเบี้ยชัดเจนในช่วง 5 ปีแรก ส่วนในปีต่อๆ ไปจะเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งอาจทำให้ยากต่อการวางแผนการลงทุนและเป็นความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องแบกรับ
4. ไม่มีเงื่อนไขการผิดนัดไขว้ หรือ Cross-Default
“หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน” ไม่มีเงื่อนไขการผิดนัดไขว้ หรือ Cross-Default ซึ่งเป็นชื่อเรียกข้อสัญญาประเภทหนึ่ง หมายถึงการผิดสัญญาข้ามกัน หรือ ไขว้กัน ดังนั้นถ้าบอกว่าสัญญาไหนมีข้อสัญญาการผิดนัดไขว้ แสดงว่าสัญญานั้นมีข้อสัญญาที่กำหนดว่าถ้าลูกหนี้ไปทำผิดสัญญาอื่นก็จะถือว่าลูกหนี้ผิดสัญญานั้นด้วย… เมื่อ “หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน” ไม่มีเงื่อนไขการผิดนัดไขว้ หรือ Cross-Default จึงหมายความว่า… หากผู้ออกหุ้นกู้มีการผิดนัดชำระหนี้ในหุ้นกู้อื่น หรือ สัญญาทางการเงินอื่น หรือ เจ้าหนี้อื่น จะไม่ทำให้ผู้ออกหุ้นกู้เป็นผู้ผิดนัดชำระภายใต้หุ้นกู้นี้ด้วย… ซึ่งเมื่อไม่มีการผิดนัดชำระ ผู้ถือหุ้นกู้หรือผู้ลงทุนจึงไม่มีสิทธิเรียกร้องให้ผู้ออกหุ้นกู้ต้องชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ย นอกจากนี้หากผู้ออกหุ้นกู้ชำระหนี้คืนให้เจ้าหนี้อื่นจนทำให้ขาดสภาพคล่อง ผู้ถือหุ้นกู้นี้จะมีความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับดอกเบี้ยตามกำหนดตามไปด้วย… จะเห็นได้ว่า หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน มีลักษณะที่ซับซ้อนและความเสี่ยงที่มากกว่าหุ้นกู้ทั่วไป ฝ่ายส่งเสริมความรู้ตลาดทุนและศูนย์ประสานงานต่างจังหวัด สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. จึงได้ให้ข้อแนะนำก่อนลงทุน ประกอบด้วยเช็คลิสต์ 5 ข้อ สำหรับผู้ลงทุนสำรวจตัวเอง ดังนี้
- ทำแบบประเมินความเสี่ยงก่อนลงทุน โดยเจ้าหน้าที่การตลาดที่ขายหุ้นกู้จะให้ผู้ซื้อลงนามรับทราบความเสี่ยงการซื้อหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนก่อนซื้อ
- เงินที่นำมาลงทุนเป็นเงินสำหรับลงทุนได้ในระยะยาวมาก
- ศึกษา Factsheet และ ลักษณะของหุ้นกู้ หรือ Features และ เงื่อนไขต่างๆ ให้ครบถ้วน เช่น การไถ่ถอนคืนก่อนกำหนด การจ่ายดอกเบี้ย
- รู้เครดิตเรทติ้ง
- รู้วิธีขายคืน
สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดาวน์โหลด แอพพลิเคชั่น SEC Bond Check เครื่องมือใหม่ที่อำนวยความสะดวกสำหรับผู้ลงทุนตราสารหนี้ มีข้อมูลพื้นฐานของหุ้นกู้ พร้อมแสดงอันดับเครดิตเรทติ้ง อย่างชัดเจน ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ ทั้งในระบบ iOS และ Android
References…