Nanosatellites… อุปกรณ์ IoT ลอยฟ้า

Nanosatellite

ปี 2020 เป็นปีที่เอกชนมากมายทั่วโลกคุยกันเรื่องการทำธุรกิจในอวกาศ อันหมายถึง การพูดคุยถึงโมเดลธุรกิจที่จะใช้พื้นที่สูงขึ้นไป 160–2000 กิโลเมตรเหนือพื้นผิวโลกจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งถือกันว่าเป็นพื้นที่ในวงโคจรระดับต่ำของโลก หรือ Low Earth Orbit หรือ LEO Zone อันเป็นพื้นที่วงโคจรค้างฟ้า ที่วัตถุทุกประเภทสามารถลอยค้างอยู่ในวงโคจรได้โดยไม่ล่วงลงสู่พื้นโลกเพราะแรงโน้มถ่วง

วงโคจรต่ำของโลก จึงถูกใช้วาง หรือ ติดตั้งดาวเทียมมากมาย รวมทั้งสถานีอวกาศนานาชาติ หรือ ISS และ สถานีอวกาศ MIR ของรัสเซีย รวมทั้งกล้องฮับเบิล หรือ Hubble Space Telescope… และกำลังจะมีโรงแรมในวงโคจรเพิ่มขึ้นอีกหลายโครงการในอีกไม่นาน

ซึ่งการที่กิจกรรมของมนุษย์ในอวกาศ “มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในอนาคต” นี่เอง ที่นำมาซึ่งโมเดลธุรกิจในอวกาศของกลุ่มธุรกิจที่มองหาความท้าทายใหม่ๆ ผ่านวิสัยทัศน์สุดจินตนาการทั้งหมดที่คิดออก… โดยเฉพาะการใช้บริการวัตถุในวงโคจรสนับสนุนธุรกิจบนภาคพื้น ซึ่งคนค่อนโลกได้ใช้บริการสัญญาณโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม และ ข้อมูลจากดาวเทียมในระบบ Global Positioning System หรือ GPS ที่อยู่ในอุปกรณ์เคลื่อนที่มากมาย โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือของทุกคน… และอื่นๆ อีกมาก

เมื่อมนุษย์ต้องขยับขยายขึ้นไปทำอะไรกันอีกมากในอวกาศ ก็คงเหมือนคนเมืองอพยพเข้าไปบุกรุกป่าสงวน สุดท้ายก็มีเสาไฟฟ้าตามไป จนทำให้ป่ากลายเป็นชุมชนและกลายเป็นเมืองเติบโตขึ้น… ดินแดนในวงโคจร LEO ก็เช่นกัน… ธุรกิจหลากวิสัยทัศน์ที่เห็นโอกาสก่อนจึงเคลื่อนไหวกันคึกคัก ตั้งแต่รายใหญ่ไปก่อนอย่าง SpaceX และ Blue Origin รวมทั้ง Virgin Galactic ที่บินรับงานขนส่งขึ้นลงระหว่างพื้นโลกและชั้นบรรยากาศ LEO Zone… ซึ่งในปัจจุบันมีเอกชนมากมายที่มีขีดความสามารถในการส่งของขึ้นอวกาศ ซึ่งคนในวงการรู้ดีว่าคึกคักและอู้ฟู้กันขนาดไหน

วันที่ 3 กันยายน ปี 2020… กองทัพอากาศไทยก็ใช้บริการส่งของชิ้นหนึ่งขึ้นวงโคจรไปกับเที่ยวบินของ Arianespace… ซึ่งวัตถุค้างฟ้าที่กองทัพอากาศไทยฝากส่งก็คือ ดาวเทียมจิ๋ว หรือ Nanosatellite ในโครงการ “นภา–1” ซึ่งเป็นดาวเทียมเพื่อความมั่นคงดวงแรกของกองทัพอากาศ ในภาระกิจลาดตระเวนทางยุทธวิธี ไปจนถึงสนับสนุนงานด้านบรรเทาสาธารณภัยของประเทศ เช่น การสนับสนุนข้อมูลพื้นที่จุดความร้อน หรือ Hotspot เพื่อสนับสนุนการดับไฟป่า รวมทั้งการสนับสนุนข้อมูลเพื่อการบริหารจัดการน้ำ แก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งในระดับประเทศ ซึ่งเป็นก้าวแรกที่สำคัญของการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจทางอวกาศ

พูดถึง Nanosate หรือ Nanosatellite ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่า… การพัฒนาอุปกรณ์ IoT ขนาดเดียวกับ Nanosatellite กำลังเป็นที่สนใจในหมู่ Startup สาย Hardware ที่คิดถึงการเอาอุปกรณ์ชิ้นนั้นออกไปลอยค้างฟ้าในวงโคจร LEO เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานยิ่งกว่าใช้บนพื้นโลกนั่นเอง ซึ่งมาตรฐานด้านขนาดและน้ำหนักของ Nanosatellite ขนาด 1U หรือ 1 Unit จะอยู่ที่ 10x10x10 เซนติเมตรทรงลูกบาศก์ มีมวลระหว่าง 1-1.33 กิโลกรัม… และสามารถประกอบให้มีขนาดหลายยูนิตเพิ่มได้ตามการออกแบบการใช้งานได้ด้วย แต่มวลรวมต้องไม่หนักเกิน 10 กิโลกรัม

การประกอบโมดูล และ การกำหนดชื่อเรียกขนาดของ Nanosatellite

ตัวอย่างโครงสร้างภายในของ Nanosatellite

ในเบื้องต้นที่อยากจะบอกก็คือว่า… ธุรกิจ Hardware Electronic โดยเฉพาะ IoT Hardware ที่มีความเคลื่อนไหวทั้งออกแบบ และ กำหนดฟังก์ชั่นการใช้งาน… มีข้อมูลมากมายยืนยันว่า สิทธิบัตรอุปกรณ์ IoT รุ่นใหม่ถูกขอเพื่อตอบโจทย์การใช้งานกับ Nanosatellite สูงขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา… สิทธิบัตรหลายใบได้จากการ  Re-design อุปกรณ์เดิม… เหมือนกล้องมือถือกับรอยบากบ้าง หยดน้ำบ้าง เจาะรูบ้าง ซึ่งก็ขอรับและมีสิทธิบัตรได้กันหมด

ความจริงผมรู้จักคนไทยที่ทำดาวเทียมเป็นหลายท่าน… ซึ่งส่วนใหญ่ก็สมองไหลอยู่ต่างประเทศกันหมด ส่วนที่มีเรียนมีสอนกันอยู่ในประเทศไทยก็อย่างที่ทราบๆ กันว่า… ธุรกิจในบ้านเราที่รู้ว่าดาวเทียมหาเงินยังไงนอกเหนือจากสัญญาณทีวีผ่านดาวเทียมเพื่อเอาไว้ดูฟุตบอลยุโรป… มีน้อย หรือ อาจจะยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ จนสถาบันที่สอนวิศวกรรมด้านนี้ ไม่กล้าผลิตทรัพยากรมนุษย์ด้านอวกาศออกมาจนทุกวันนี้

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร… โดยส่วนตัวผมเชื่อว่า ธุรกิจ Hardware IoT ยังเหลือที่ว่างมากมายในชั้นบรรยากาศสูงขึ้นไป 160 กิโลเมตร และ ประเทศไทยโดยหน่วยงานด้านอวกาศที่มีอยู่ ควรจะหยุดแหงนมองเวิ้งฟ้าเปล่าๆ แล้วหันหน้ามาคุยและให้ความรู้กับนักธุรกิจ และ ช่วยกันทำอะไรเจ๋งกันเถอะ… และถ้ามีไอเดียก็อย่าแค่แหงนขึ้นไปมองเลยครับถ้าท่านคิดอะไรออกแล้ว

References…

Share this post

Add Properea's Friend

เพิ่ม Properea.com เป็นเพื่อนทาง Line
ท่านจะได้ Link บทความใหม่ส่งตรงให้อย่างสม่ำเสมอโดยรบกวนแต่น้อย

Related Post

Sale & Leaseback

กลยุทธ์การขายแล้วเช่าคืนอสังหาริมทรัพย์…

MINT ขายโรงแรมทั้งสามแห่งมูลค่า 313 ล้านยูโร หรือประมาณ 10.9 พันล้านบาท โดยหลังจากจำหน่ายไปแล้ว NH Hotel Group ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ MINT จะเข้าบริหารโรงแรมทั้ง 3 ภายใต้สัญญาเช่า 20 ปี และยังสามารถขยายสัญญาเช่าไปได้เรื่อยๆ สูงสุดถึง 60 ปี

Coin / Token

ความรู้เบื่องต้นเกี่ยวกับ Blockchain และ Coin กับ Token

Coin เป็นคริปโตที่ออกใช้โดยมี Blockchain ของตัวเอง ซึ่งการโอน Coin จะถูกหักค่าธรรมเนียม หรือ Fee เป็น Coin ชนิดเดียวกัน… ส่วน Token จะเป็นคริปโตที่ออกใช้โดยอาศัย Blockchain ของ Coin เมื่อมีการโอน Token จึงต้องมี Coin เอาไว้จ่ายค่าธรรมเนียม หรือ Fee ด้วย

ระบบค้นหารูปแปลงที่ดิน

ตามธรรมเนียมการจะซื้อจะขายที่ดิน จะมีการสำเนาเอกสารสิทธิ์หรือโฉนดที่ดิน มาดูกันก่อนว่าทรัพย์ที่จะซื้อจะขายกันนั้น ทีคุณสมบัติที่จะพูดคุยเจรจาขั้นต่อไปได้หรือไม่ ถ้าข้อมูลต้นน่าสนใจสำหรับคนซื้อมากพอ ยังไงๆ ในฐานะผู้จะซื้อ ควรจะไปดู “แปลงที่ดิน” ให้เห็นกับตา

ท่องเที่ยวไทย… สถานการณ์และแนวโน้มเมษายน 2022

ตัวเลขผู้เดินเข้าประเทศไทยผ่านสนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่ 1-10 เมษายนที่ผ่านมา… มีตัวเลขค่าเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 11,623 คน โดยเพิ่มขึ้นจากช่วงเดือนก่อนหน้าที่มีจำนวนผู้เดินทางเข้าประเทศไทยผ่านสนามบินสุวรรณภูมิโดยเฉลี่ยเพียงวันละ 7,003 คน หรือ เพิ่มขึ้นถึง 65.97% ในขณะที่จำนวนเที่ยวบินขาเข้าระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นจาก 137 เที่ยวบิน เป็น 141 เที่ยวบิน หรือ เพิ่มขึ้น 2.92%