การมาถึงของวัคซีนโควิดที่หลายฝ่ายรอคอย ดูเหมือนจะยังไม่ใช่คำตอบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างที่หวัง ถึงแม้ว่าความเชื่อมั่นจะมีมากกว่าเดิม แต่ข้อมูลจากแหล่งเชื่อถือได้มากมายก็ยืนยันว่า… ยังไม่ใช่ความเชื่อมั่นถึงขั้นเปลี่ยนวิกฤตและความหวังไปเป็นสมหวังจนเห็นปรากฏการณ์ชี้นำการฟื้นความเชื่อมั่น ที่มีผลเชิงบวกต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างชัดเจน
บทความโดยคุณปุลวัชร ปิติไกรศร จาก SCBEIC และกรุงเทพธุรกิจ… อ้างอิงงานวิจัยทางธุรกิจหลายแหล่งว่า มูลค่าตลาดการเดินทางเชิงธุรกิจจะหายไป 20-25% อย่างถาวรหลังพ้นจากวิกฤตโควิด เพราะองค์กรธุรกิจต่างปรับลดงบประมาณที่เคยจัดสรรไว้สำหรับการเดินทาง ที่สามารถทดแทนได้ด้วยการทำงานร่วมกันแบบออนไลน์
กิจกรรมการเดินทางเพื่อประชุมภายในองค์กร การตรวจสอบภายใน หรือการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า จะหายไปอย่างชัดเจน… คงเหลือแต่การเข้าพบคู่ค้ารายใหม่หรือการเจรจาทางธุรกิจที่สำคัญเท่านั้น ที่ยังจะเหลือการเดินทางพบปะต่อไป
ในขณะเดียวกัน… ธุรกิจ Event/Organizer ที่รับบริหารจัดการงานประชุมสัมมนาขนาดใหญ่ ก็มีการนำเทคโนโลยีการจัดงานแบบผสมผสาน ทั้งการเข้าร่วมงานแบบออฟไลน์และออนไลน์มาใช้เป็นวงกว้าง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเดินทางและนักเดินทางเชิงธุรกิจ จนเห็นแนวโน้มลดลงอย่างชัดเจนอีกทางหนึ่ง
ปี 2019 ก่อนเกิดวิกฤต… ไทยมีนักท่องเที่ยวเชิงธุรกิจราว 1.8 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 4.5% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด โดยนักท่องเที่ยวเชิงธุรกิจส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี และระยอง เนื่องจากเป็นที่ตั้งของศูนย์กลางธุรกิจและนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่หลายแห่ง… ทำให้ภาครัฐกำหนดและส่งเสริมให้เมืองพัทยาเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรม MICE เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ EEC เนื่องจากพัทยามีความพร้อมทั้งในด้านจำนวนห้องพัก ศูนย์ประชุมและโครงข่ายการคมนาคมที่สะดวก
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มของตลาดการเดินทางเชิงธุรกิจที่ไม่สดใสนักหลังวิกฤตโควิด อาจส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ เช่น โรงแรมที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักธุรกิจ ซึ่งมักมีห้องประชุมและห้องพักจำนวนมากอาจต้องให้ความสำคัญกับตลาดจัดเลี้ยง งานแต่งงานและการให้บริการ Catering แก่บุคคลภายนอกมากขึ้น… ในขณะที่ศูนย์ประชุมอาจต้องพึ่งพารายได้จากงานจัดแสดงสินค้าขนาดใหญ่มากขึ้น เพื่อชดเชยรายได้ที่หายไปจากงานประชุมสัมมนาเชิงวิชาชีพ ที่จะมีผู้เข้าร่วมงานแบบออฟไลน์ลดลงในอนาคต
ประเด็นก็คือ… การดึงดูดและสร้างเงื่อนไขการเดินทางผ่านอุตสาหกรรม MICE ซึ่งเอกชนหรือหน่วยงานเล็กๆ สามารถจัดกิจกรรมด้วย Event/Organizer ที่สามารถทดแทนด้วยการเข้าร่วมได้ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ จะไม่สามารถดึงดูดการเดินทางได้อีก… มีก็แต่หน่วยงานใหญ่ๆ หรือ องค์กรใหญ่ๆ ที่มีศักยภาพในการจัดกิจกรรมเชิงธุรกิจ ซึ่งการเข้าร่วมแบบออนไลน์อาจจะทำลายโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญ และ ภาครัฐควรเข้าร่วมหรือส่งเสริมกิจกรรม MICE โดยตรง เพื่อให้เห็นการเดินทางเชิงธุรกิจ ชี้นำการเดินทางท่องเที่ยวที่จะตามมาในอนาคตถัดไป
กรณีงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ หรือ Thailand International Airshow 2023 ที่สนามบินอู่ตะเภา ถือว่าเป็นต้นแบบกิจกรรม MICE ที่เห็นภาพการเดินทางเชิงธุรกิจที่ค่อนข้างชัด แม้อุตสาหกรรมการบินจะตกต่ำที่สุดในวิกฤตโควิดคราวนี้… แต่เครื่องบินและอุตสาหกรรมการบินในมิติโลจิสติกส์ยังคงสำคัญ และยังมีเที่ยวบินขึ้นบินอยู่หนาแน่นยิ่งกว่าเดิม… และ Event ขนาดใหญ่ระดับนี้ การออกงานและการชมงานจะกระตุ้นการเดิมทางเชิงธุรกิจได้ชัดเจนกว่างานสัมนาเล็กๆ น้อยๆ ที่เคยสร้างสีสันดึงดูดการเดินทางเข้าประเทศเหมือนเดิม

References…