Marketing Without Data Is Like Driving With Your Eyes Closed ~ Dan Zarrella

Dan Zarrella

การทำธุรกิจในโลกที่ “ข้อมูล” ซึ่งถูกค้นเจอบนอินเตอร์เน็ตจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจของกลุ่มเป้าหมายทางธุรกิจ โดยเฉพาะการตัดสินใจซื้อและซื้อซ้ำ รวมทั้งการตัดสินใจร่วมสร้างปรากฏการณ์ และหรือ ร่วมสถานการณ์ใดๆ ซึ่งดึงดูดให้กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่ ได้เดินตาม Customer Journey ที่ถูกออกแบบไว้ ทั้ง Journey แบบที่มีจุดสิ้นสุด และ Journey แบบที่วนไปเป็นวัฏจักร… ให้ได้เก็บเกี่ยวความสำเร็จตามที่ต้องการได้อย่างราบรื่น ซึ่งทั้งหมดถือว่าเป็นศาสตร์และศิลป์ทางการตลาดที่นับวันแต่จะถูก “จักรวาลข้อมูล” กลืนกินไปเป็นส่วนหนึ่ง และ กลายเป็นศาสตร์ซับซ้อนที่สุดในอนาคตอันใกล้ค่อนข้างชัด

ศาสตร์ว่าด้วยการตลาดในโลกที่ “ข้อมูล” ซึ่งถูกค้นเจอบนอินเตอร์เน็ตจึงจำเป็นใหญ่หลวง แม้กับธุรกิจรายย่อยระดับ “ของกินริมทาง หรือ Street Food” ซึ่งแต่ไหนที่ไรมาทั้งคนกินคนขายต่างก็ไม่เคยจะต้องถ่ายรูป เชคอิน หรือ แสดงความชมชอบชิงชังเผยแพร่ให้คนอื่นรู้… คนขายอาหารริมทางในปัจจุบัน จึงมีน้อยที่จะกล้าคิดทำแค่ของกินไปขายอย่างเดียวเหมือนแต่ก่อน เพราะคนกินส่วนใหญ่ค้นข้อมูลหาเมนูจากร้านอร่อย หรือ ของกินร้านแนะนำบนทำเลที่ตั้งซึ่งใช้ปักหลักรอลูกค้าเสมอ ซึ่งถ้าไม่มีข้อมูลออนไลน์อะไรเลย… โอกาสที่ “ลูกค้าเป้าหมาย” จะตัดสินใจใช้บริการจากร้านที่มีคนชอบและมีคนแชร์ข้อมูลมากกว่า ย่อมเป็นไปได้สูงจนเสียโอกาสได้ง่ายๆ

วิทยาการข้อมูล หรือ Data Science สำหรับธุรกิจทุกขนาดในโลกที่ “ข้อมูล” ซึ่งถูกค้นเจอบนอินเตอร์เน็ตสามารถชี้เป็นชี้ตายอนาคตของธุรกิจน้อยใหญ่ จึงไม่มีคนทำการค้าและธุรกิจสมัยใหม่คนไหนจะยอมพลาด “การบอกกล่าวเล่าเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจของตน” ให้ปรากฏเห็นได้ชัดเจนบนอินเตอร์เน็ต

ประเด็นก็คือ… ข้อมูลมีทั้งความหมาย และ ที่มา กับ ที่ไปให้คนใช้ข้อมูลทำความเข้าใจแง่มุมผ่านมิติต่างๆ ได้มากมาย ซึ่งตัวข้อมูลเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่ให้ความหมายเป็นบวก หรือ ให้ความหมายเป็นลบต่อมุมมองและผลประโยชน์ของผู้ใช้ หรือ คนเห็นข้อมูล… ทั้งหมดสามารถประยุกต์ให้ “เป็นบวก” ต่อผู้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้หมด โดยเฉพาะการประยุกต์เพื่อใช้ในทางธุรกิจและการตลาด

Dan Zarrella ผู้เขียนหนังสือ The Science of Marketing: When to Tweet, What to Post, How to Blog, and Other Proven Strategies เคยพูดไว้ว่า… Marketing Without Data Is Like Driving With Your Eyes Closed หรือ การตลาดที่ไร้ข้อมูลก็ไม่ต่างจากการปิดตาขับรถ… ซึ่งการตลาดก็คือแก่นแกนของทุกธุรกิจ ที่ทุกกิจกรรมล้วนสร้างขึ้นเพื่อรองรับกิจกรรมซื้อขายที่ห่อหุ้มด้วยการตลาดทั้งสิ้น

นอกจาก The Science of Marketing แล้ว… Dan Zarrella ยังเป็นผู้เขียนหนังสือขายดีอีก 3 เล่มคือ Zarrella’s Hierarchy of Contagiousness: The Science, Design, and Engineering of Contagious Ideas… The Social Media Marketing Book และ The Facebook Marketing Book โดยหนังสือทั้ง 4 เล่มถือว่าเป็นคำภีร์การตลาดดิจิทัลที่นักการตลาดทั่วโลกต้องศึกษา แม้ว่าจะเก่งและประสบความสำเร็จอยู่ก่อนแค่ไหนอย่างไรก็ตาม

ผลงานหนังสือของ Dan Zarrella ทั้งหมดทำให้แพลตฟอร์ม HubSpot มอบรางวัล Social Media Scientist at HubSpot ให้ในฐานะที่เนื้อหาในหนังสือส่วนใหญ่ อ้างอิงฟังก์ชั่นการใช้งานที่ HubSpot มีไว้บริการสมาชิก รวมทั้งร่วมกันสร้างปรากฏการณ์การจัดสัมนาการตลาดออนไลน์ที่มีผู้เข้าร่วมมากที่สุดในโลก ถึงขั้นสามารถบันทึกเป็น Guinness World Records

HubSpot เป็นแพลตฟอร์มสนับสนุนการทำ Inbound Marketing ชั้นนำ ซึ่งเป็นเครื่องมือสนับสนุนธุรกิจ และ โปรแกรมทางการตลาดของธุรกิจ… ให้ดึงดูดผู้คนมารู้จักธุรกิจ หรือ มาเป็น Visitor… ก่อนจะเปลี่ยน Visitor บางส่วนให้กลายเป็น Lead หรือ เป้าหมายมุ่งหวัง และ พา Lead เข้าสู่ Customer Journey จนกลายเป็นลูกค้าในที่สุด ตามหลัก Inbound Marketing Framework หรือ การตลาดแบบแรงดึงดูด โดยมีเครื่องมือ Digital Marketing ครอบคลุม CRM หรือ Customer Relationship Management ซึ่งเป็นฐานสำหรับกิจกรรมทางการตลาด หรือ Marketing รวมทั้งกิจกรรมส่งเสริมการบริการและการขาย หรือ Sales & Services… ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่เอเจนซี่โฆษณายุคดิจิทัล และ นักการตลาดออนไลน์ทั่วโลก นำไปสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจให้ลูกค้าของพวกเขาอีกที

สิ่งสำคัญก็คือ… แพลตฟอร์มอย่าง HubSpot หรือ แพลตฟอร์มเทียบเคียงและคู่แข่ง… ทั้งหมดจะให้บริการข้อมูลที่เกี่ยวกับลูกค้า และ พฤติกรรมของลูกค้า ผ่านเครื่องทาง Digital Marketing มากมายที่สามารถปรับใช้ได้กับทุกธุรกิจโดยแทบจะไร้ข้อจำกัด… เพียงแต่การปรับใช้จำเป็นต้องมี Data Driven Mindset ในการออกแบบและดำเนินการ… ไม่ยากหรอกครับถ้าคิดและทำแบบนักวิทยาศาสตร์ หรือ นักวิทยาการข้อมูลเขาทำกัน… ง่ายๆ ก็เพียงเริ่มต้นที่ทดลองกับทุกสมมุติฐาน ให้พบความล้มเหลวมากพอจนเจอความสำเร็จ และ เจอแนวทางการเปลี่ยนแปลง หรือ เจอรูปแบบการปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลงของโลกกว้างที่เป็นปัจจุบัน… ซึ่งข้อมูลจะบอกบางอย่างให้รู้เสมอเป็นอย่างน้อย

References… 

Share this post

Add Properea's Friend

เพิ่ม Properea.com เป็นเพื่อนทาง Line
ท่านจะได้ Link บทความใหม่ส่งตรงให้อย่างสม่ำเสมอโดยรบกวนแต่น้อย

Related Post

Robotics

TARA… สมาคมผู้ประกอบการระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ไทย

BOI ได้กำหนดสิทธิประโยชน์ “ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี” ในสัดส่วน 50% ของเงินลงทุน โดยไม่รวมค่าที่ดินและเงินทุนหมุนเวียน… รวมถึงการ “ยกเว้นอากรนำเข้าเครื่องจักร” และ หากโรงงานอุตสาหกรรมเลือกใช้ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ที่มีการเชื่อมโยงหรือสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตระบบอัตโนมัติในประเทศ หรือ Local Content ไม่น้อยกว่า 30% ของมูลค่าระบบอัตโนมัติที่มีการปรับเปลี่ยน… ก็จะได้รับ “ยกเว้น ภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี” ในสัดส่วน 100% ของเงินลงทุน โดยไม่รวมค่าที่ดินและเงินทุนหมุนเวียนด้วย

Bull Market Trend

Wyckoff Distribution And Buying Climax… ระยะจำหน่ายของวิคคอฟฟ์

หลังจากราคาหลักทรัพย์สามารถยืนเหนือแนวต้านของระยะสะสม หรือ Accumulation ใน Phase E สำเร็จ… พร้อมปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนจนกลายเป็นแนวโน้มขาขึ้น หรือ Bullish Trend ซึ่งจะมีแรงซื้อของรายย่อยที่ยังสู้ต่อเข้ามาเติม พร้อมนักลงทุนหน้าใหม่เข้า BUY ด้วยอารมณ์การลงทุนระดับกระปรี้กระเปร่าและโลกสวย หรือ Optimism จนดันราคาและภาวะตลาดเป็นระยะ MarkUp… กระทั่งราคาถูกดันขึ้นไปถึงจุดที่เรียกว่า Buying Climax หรือ BC ที่จะเห็นแรงขายอย่างน่าตกใจจนราคากลับตัวรุนแรงจากการทำกำไรของรายใหญ่ที่ถือสินทรัพย์ด้วยต้นทุนต่ำมาจากระยะสะสม หรือ Accumulation Phase…

Token Based Economy

Token Based Economy… โอกาสและความท้าทาย

ถ้าซื้อบ้านและที่ดินง่ายดายเหมือนการซื้อตั๋วเครื่องบินบนแพลตฟอร์ม ซึ่งสามารถเอาข้อมูลการเป็นเจ้าของตั๋วไปใช้ขึ้นเครื่องบินและเดินทางจริงๆ ได้… และทำแบบเดียวกันกับอสังหาริมทรัพย์ อะไรๆ จะเปลี่ยนไปแค่ไหน?… และถ้าแม้แต่บ้านและที่ดินก็สามารถ Digitized กันได้ง่ายๆ เหมือนซื้อตั๋วเครื่องบิน… สินทรัพย์และการลงทุนอื่นๆ ก็คงไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้…

สินเชื่อออนไลน์… การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่อาจมีคนถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

คุณกระทิง เรืองโรจน์ พูนผล CEO ของ KBTG ในเครือธนาคารกสิกรไทยและเจ้าของฉายา Godfather วงการเทคสตาร์ทอัพไทย และผู้ก่อตั้งกองทุน 500 TukTuks รวมทั้งการเป็น Mentor และ Commentator ที่วงการสตาร์ทอัพเมืองไทยต้องหยุดฟังเขาพูดเสมอ… ได้ให้ความเห็นไว้หลายเวที รวมทั้งเวที Thailand 2020 #ก้าวข้ามพายุเศรษฐกิจ ที่เครือมติชนประชาขาติธุรกิจเป็นเจ้าภาพด้วย