M&A In Construction… มองให้ขาด

Construction M&A

กลยุทธ์การเติบโตของธุรกิจภายใต้แนวคิด Growth Hacking หรือการสร้างการเติบโตแบบข้ามขั้นจากสัดส่วนระดับคุยกันเป็นเปอร์เซนต์ ไปเป็นคุยกันที่สิบเท่าร้อยเท่านั้น ข้อสรุปมากมายมักจะชี้แนวทางไปที่ การใช้ทุน กับ การใช้เทค เพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดระดับนั้นให้เป็นไปได้… ซึ่งอุตสาหกรรมก่อสร้างเองก็ไม่มียกเว้น

รายงานจากเวบไซต์ ConstructionDive.com ได้วิเคราะห์ความท้าทายของธุรกิจก่อสร้างในสหรัฐอเมริกา ท่ามกลางวิกฤตโควิด ที่ยังลุกลามและมียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นไม่หยุดว่า… อุตสาหกรรมก่อสร้างในสหรัฐอเมริกามูลค่า 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้มาถึงจุดท้าทายสำคัญ ถึงแม้ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมที่ดูเหมือนจะได้รับผลกระทบโดยตรงน้อย… แต่เมื่อสภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ไม่เอื้อต่อธุรกิจและอุตสาหกรรมฐานของกลไกทางเศรษฐกิจแขนงใดเลยในวิกฤตคราวนี้ ก็น่าจะถึงคราวที่อุตสาหกรรมก่อสร้างก็คงต้องปรับตัวเช่นกัน… ประเด็นการชะลอและยกเลิกโครงการก่อสร้างของรัฐบาล เพื่อทุ่มเททรัพยากรที่เหลืออยู่ เข้าช่วยปัญหาที่กระทบและจำเป็นเร่งด่วนจากโควิดเกือบทั้งหมด สร้างผลกระทบโดยรวมต่ออุตสาหกรรมก่อสร้างทั้งในระยะสั้นและระยะกลางอย่างแน่นอนแล้ว

Ken Simonson จาก Associated General Contractors of America หรือ AGC ให้ความเห็นว่า… วิกฤตโรคระบาดครั้งนี้กระทบการเงินของทั้งรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น ซึ่งนำไปสู่การเลื่อนและการยกเลิกโครงการก่อสร้างอย่างกว้างขวาง… ซึ่งการเลิกจ้างงานที่กำลังเกิดขึ้นระหว่างเดือนกันยายน ปี 2020 ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2021 น่าจะเกิดขึ้นไม่น้อยกว่า 58% ใน 20 รัฐ… รวมทั้งความเคลื่อนไหวในการควบรวมกิจการของธุรกิจก่อสร้างของกลุ่มผู้เล่นรายใหญ่ ทั้งในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ที่ต้องปรับองค์กรรับมือกับวิกฤตครั้งนี้ และสร้างโอกาสการเติบโตด้วยประสิทธิภาพที่สูงกว่า “โดยการเอาทุนและเทคโนโลยีมีรวมกันขับเคลื่อน” ตัวอย่างกรณีการควบรวมของ Abbott Construction กับ STO Building Group น่าจะเกิดขึ้นอีกเรื่อยๆ ตลอดปี 2021 นี้เป็นต้นไป… ซึ่งถ้าย้อนหลังกลับไปดูข้อตกลง M&A ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ก็พบการควบรวมและซื้อกิจการกลุ่มเทคโนโลยีก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2018 เช่นข้อตกลงระหว่าง PlanGrid and Autodesk หรือกรณี Amazon Smart Builder ซื้อ BIManywhere หรือข้อตกลงระหว่าง Autodesk Komatsu และ TrueLook และอีกมากมายนับไม่ไหว

ประเทศไทย… แม้อุตสากรรมก่อสร้างในบ้านเราจะยังคงเดินหน้าได้เป็นส่วนใหญ่ รวมทั้งการแก้ปัญหาเรื่องแรงงานภาคก่อสร้างก็มีการเยียวยากันมาอย่างดีตั้งแต่กลางปี 2020… แต่ก็ยังยากที่จะเดาและฟันธงได้ว่า อุตสาหกรรมก่อสร้างไทยจะไม่ได้รับผลกระทบอะไร… เพราะหลายความเห็นที่ผมได้ยินมองตรงกันทำนองว่า น่าจะกระทบมากพอสมควรทีเดียว โดยเฉพาะก่อสร้างเอกชนและกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

ปัญหาก็คือ… อุตสาหกรรมก่อสร้างไทยมีบิ๊กบราเธอร์ และบิ๊กบราเธอร์ของบิ๊กบราเธอร์ซับซ้อนมาแต่ไหนแต่ไร… การเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปของธุรกิจก่อสร้างตั้งแต่ระดับบิ๊กบราเธอร์ ลงมาจนถึงรายย่อยจึงยังมีระบบอุปถัมภ์ครอบอยู่ค่อนข้างชัด… แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่าก็คือ อุตสาหกรรมก่อสร้างได้เข้าสู่ยุคขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีเต็มระบบแล้วในหลายประเทศ การถือครองและขับเคลื่อนกิจการก่อสร้างด้วยเทคโนโลยี ย่อมเป็นจุดเปลี่ยนใหญ่ที่กระทบ “เจ้าเก่า” ตั้งแต่ระดับบิ๊กบราเธอร์ลงมาจนถึงรายย่อยค่อนข้างแน่นอน… เว้นแต่ว่า กลยุทธ์ช่วงเปลี่ยนผ่านนี้จะปรับตัวจนมีคุณสมบัติครบและพร้อมแข่งขันกับผู้เล่นระดับนานาชาติ ที่แม้แต่บิ๊กบราเธอร์ของบิ๊กบราเธอร์ก็ช่วย “กั๊กเอาความได้เปรียบ” แบบเดิมไว้ให้ ก็คงช่วยอะไรไม่ได้เท่าไหร่… ซึ่งก็คงไม่ต่างจากกรณีสงวนอาชีพถีบสามล้อไว้ให้คนไทย ตอนที่ยามาฮ่าตั้งโรงงานไปแล้วนั่นแหละ

ย้อนกลับไปตั้งแต่ยุคอีสเทิร์นซีบอร์ด… ถ้าไม่ใช่ธุรกิจก่อสร้างและรับเหมาที่ต่อตรงกับการเมืองและรัฐบาลในแต่ละยุคตลอดสามสิบสี่ปีที่ผ่านมา… ธุรกิจก่อสร้างและรับเหมาบ้านเราล้วนเป็นส่วนหนึ่งของยักษ์ใหญ่ก่อสร้างจากญี่ปุ่นไต้หวันแทบทั้งนั้น… และเมื่อมาถึงยุค EEC อย่างในปัจจุบัน เราจะสามารถยืนหยัดแข่งขันสมน้ำสมเนื้อกับรับเหมาจีนเพิ่มอีกรายไหวมั๊ย ซึ่งผมมองว่าเป็นโจทย์ใหญ่มากกว่าครั้งไหนจริงๆ

โดยส่วนตัวผมจึงมีความเห็นว่า… อุตสาหกรรมก่อสร้างไทยน่าจะถึงเวลาที่ต้องพิจารณาประเด็นควบรวม หรือทำ M&A เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน ให้มีทั้งเทคโนโลยีและประสิทธิภาพการสร้างงาน มากกว่าจะทุ่มเทหาแต้มต่อจากการวิ่งเต้นและวิ่งตัด โดยพึ่งพาเส้นสายและการเคลียร์ทางแบ่งกันจนเราแข่งขันกับโลกภายนอกไม่เป็น… ที่จริงบ้านเรามีผู้เล่นรายใหญ่ระดับบริษัทมหาชนในอุตสาหกรรมก่อสร้างไม่น้อย ที่มีศักยภาพในการควบรวมเพื่อใหญ่โตขึ้นอีกหลายเท่า รวมทั้งมีทุนรอนพอที่จะเข้าลงทุนหรือซื้อกิจการ ConTech Startup ที่น่าสนใจมากมายทั่วโลกได้ด้วย

ด้วยความเคารพครับ!

References…

Share this post

Add Properea's Friend

เพิ่ม Properea.com เป็นเพื่อนทาง Line
ท่านจะได้ Link บทความใหม่ส่งตรงให้อย่างสม่ำเสมอโดยรบกวนแต่น้อย

Related Post

Gwynne Shotwell

If You’re Not Looking Toward The Future, You’ll Be Left Behind ~ Gwynne Shotwell

Gwynne Shotwell คือบุคคลที่มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและมองไปข้างหน้าไกลมากๆ ไม่ต่างจากวิสัยทัศน์ของนายจ้างผู้เชื่อมั่นและหนุนหลังเธอมาตลอดอย่าง Elon Musk… แต่ทั้งหมดเกิดขึ้นเป็นจริงได้เพราะมี Gwynne Shotwell ยืนเป็นแม่งานนำวิสัยทัศน์ไปลงแผนและดำเนินการอย่างเต็มกำลัง…

PeerStreet

PeerStreet… ปล่อยกู้ร่วมในตลาดอสังหาริมทรัพย์

โมเดลธุรกิจของ PeerStreet จะเป็นแพลตฟอร์มกลางที่เชื่อมเจ้าของทรัพย์ นายทุน และ ลูกค้ากู้ซื้อบ้านมาเจอกันแบบ Peer-to-Peer โดยจะเอาทรัพย์หรือบ้านแต่ละรายการมาขึ้นลิสต์ให้นักลงทุนได้จองปล่อยกู้แบบ Crowdfunding ซึ่งถ้ามีผู้ซื้อบ้านในลิสต์นั้นขอใช้สินเชื่อ… PeerStreet ก็จะดำเนินการให้บ้านหลังนั้นถูกจำนองกับนักลงทุนที่จองปล่อยกู้ตามสัดส่วน และ PeerStreet จะเป็นคนกลาง หรือ Custodian ดูแลหลักประกันให้นักลงทุน และ คุมครองสิทธิ์ให้ลูกหนี้สินเชื่อด้วย

Approved Loan

สินเชื่อเสริมพลัง สร้างอนาคต SME ไทย

รัฐบาลโดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้มีมติอนุมัติโครงการสินเชื่อ “เสริมพลัง สร้างอนาคต SME ไทย” ภายใต้กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ วงเงินรวม 1,000 ล้านบาท สนับสนุนให้เอสเอ็มอีที่มีศักยภาพ เข้าถึงแหล่งเงินทุนต้นทุนต่ำ โดยมี SME D Bank เป็นหน่วยร่วมทำหน้าที่ดำเนินการวิเคราะห์และอนุมัติสินเชื่อตามหลักเกณฑ์ของกองทุน เพื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เสริมสภาพคล่อง สำรองเป็นค่าใช้จ่าย หรือลงทุน ขยาย ปรับปรุงกิจการ ต่อยอดธุรกิจด้วยเทคโนโลยี สนับสนุนการเติบโต

Piggy Bank

สินเชื่อส่งเสริมการจ้างงาน…

โครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน วงเงิน 30,000 ล้านบาท จะเป็นสินเชื่อเพื่อ Refinance ได้ไม่เกินร้อยละ 50 ของวงเงินปล่อยกู้ของแต่ละธนาคาร… หรือครึ่งหนึ่งของวงเงินเครดิตที่ธนาคารอนุมัติให้ผู้ประกอบการก่อนหน้านี้ในภาวะปกติ ที่ใช้หมุนเวียนทำธุรกิจ… โดยมีระยะเวลาการยื่นคำขอกู้ตั้งแต่ เริ่มโครงการจนถึง 31 ธันวาคม 2563… หรือจนกว่าวงเงินโครงการนี้จะหมด โดยวงเงินสินเชื่อที่ได้รับการอนุมัติเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน จำนวน 30,000 ล้านบาท