นับตั้งแต่ประเทศไทยคุยกันเรื่องขุดคอครอดกระ ตั้งแต่สมัยท่านปรีดี พนมยงค์ดำริขึ้น… เลยมาจนถึงการทำแลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล… ความเคลื่อนไหวอย่างมีนัยยะสำคัญของเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียในระดับนโยบาย ก็มีมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่บนโต๊ะเจรจางานเมืองระหว่างชาติ ไปจนถึงการเคลื่อนไหวนอกแบบที่ฝ่ายความมั่นคง ตั้งข้อสังเกตุกับกลุ่มเคลื่อนไหวต่างๆ ที่สร้างตัวแปรกดดันการพัฒนาพื้นที่สามสี่จังหวัดชายแดนใต้…
หนึ่งในความพยายามของมาเลเซียคือการพัฒนาท่าเทียบเรือปีนังให้สามารถแข่งขันได้กับเส้นทางลอจิสติกส์อื่นๆ ในภูมิภาค ท่าเรือปีนังเป็นท่าเรือที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของมาเลเซียและของโลก ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการค้าและการขนส่งทางทะเลตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน… รัฐบาลมาเลเซียหลายยุคหลายสมัยสนใจโครงการแลนด์บริดจ์เช่นเดียวกับไทย…
โครงการแลนด์บริดจ์โกตาบารู-ปีนังของมาเลเซีย เป็นธงหนึ่งที่มาเลเซียพยายามผลักดันมายาวนาน… ผมเคยไปนั่งฟังนักวิชาการด้านลอจิสติกส์ระดับปรมาจารย์ของเมืองไทยสองสามท่าน… ที่มานั่งเป็นกรรมการสอบดุษฎีนิพนธ์ในเวทีหนึ่ง ข้อถกเถียงประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจในวันนั้นคือความน่าสนใจของแลนด์บริดจ์โกตาบารู-ปีนัง เทียบกับ แลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล และแลนด์บริดจ์สงขลา-ปีนัง
กรณีเส้นทางโกตาบารู-ปีนัง เป็นเส้นทางที่ต้องก่อสร้างผ่านเทือกเขาสูงเกินครึ่ง และมีระยะทางยาวกว่าเส้นทางสงขลา-สตูลกว่าสามเท่า ต่อให้สามารถก่อสร้างได้ ค่าใช้จ่ายในการใช้ทางและค่าบำรุงรักษา ก็สูงกว่าเส้นทางสงขลา-สตูลอย่างแน่นอน

แต่มาเลเซียเองก็ไม่ยอมอยู่เฉย และนั่งดูไทยแลนด์สร้างเส้นทางลอจิสติกส์โลกสายใหม่โดยไม่ทำอะไร!!!
ข้อมูลที่ผมมีในมือตอนนี้บอกว่า… แลนด์บริดจ์เส้นทางสงขลา-ปีนัง ทางฝั่งมาเลเซียมีรถไฟทางคู่เชื่อมมาที่ชายแดนแล้ว ขยายด่านไว้หลายปีแล้ว ถนนพร้อมมานานแล้ว ท่อก๊าซก็มีแล้ว ขาดแต่ท่อส่งน้ำมัน… ที่ทางมาเลเซียบอกว่า ตอนนี้ทั้งไทยและมาเลเซียแทบจะไม่ต้องลงทุนอะไรเลย ใช้โครงข่ายการคมนาคม และโครงสร้างพื้นฐานเดิมทั้งหมด เพียงแค่ใส่ระบบการจัดการเข้าไปเท่านั้น
เกาะปีนังหรือเกาะหมากหรือเกาะปรินซ์ ที่อังกฤษมาพัฒนาไว้ตั้งแต่ยุคล่าอาณานิคม ปัจจุบันยังคงมีความสำคัญในฐานะแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของมาเลเซีย และข่าวว่ารัฐบาลมาเลเซียก็เคลื่อนไหวเปิดพื้นที่ในลักษณะนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่รัฐปูเลาปีนังเช่นกัน
ในมุมมองของผม… แลนด์บริดจ์สงขลา-ปีนัง เกิดขึ้นนานมาแล้วเพียงแต่ขาดการจัดการและความร่วมมือระดับนโยบายที่ยังไปไม่ถึงศักยภาพขั้นสูงสุด และมีเพดานให้ไต่ระดับขึ้นได้อีกมาก และผมคิดว่า… ในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้านับจากนี้ เราคงได้เห็นการเติบโตของเส้นทางยุทธศาสตร์สายนี้อย่างแน่นอนเช่นกัน
สำหรับผม… ปีนังเป็นที่ๆ ผมอยากไปใช้ชีวิตแบบสโลไลฟ์ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี… ผมอธิบายไม่ถูกว่าทำไม… แต่เมื่อถึงวันที่ต้องเกษียณจากปัจจุบัน
ผมจะไปปีนังที่หนึ่งหล่ะ!!!