Mike Batchelor ในฐานะ CEO Asia Pacific กลุ่มธุรกิจ Hotels & Hospitality ของ JLL ในสิงคโปร์ ซึ่งเชี่ยวชาญ และ ถือข้อมูลการลงทุนซื้อขายโรงแรมภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ได้ให้ข้อมูลความเคลื่อนไหวการทำดีลซื้อขายโรงแรมที่เกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤตโควิด ที่ทำให้ธุรกิจที่พักและการเดินทางย่ำแย่หนักที่สุดในประวัติศาสตร์ว่า…
งานรวบรวมข้อมูลและสถิติของ JLL พบว่า… เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี 2019 ซึ่งเป็นปีที่มีการซื้อขายโรงแรมรวมมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเอเชีย-แปซิฟิก ปริมาณการลงทุนซื้อขายโรงแรมในช่วงครึ่งปีแรก ปี 2021 มีมูลค่าลดลง 18%
แต่ดีลซื้อขายโรงแรมรายใหญ่ เกิดขึ้นหลายรายการยังสะท้อนให้เห็นว่า ตลาดการลงทุนซื้อขายโรงแรมของภูมิภาคนี้ ยังคงรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นด้วยความเชื่อมั่นของนักลงทุน แม้การดำเนินธุรกิจโรงแรมจะยังคงติดขัด และ ได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากมาตรการคุมเข้มการเดินทาง… ซึ่งตัวเลขเฉพาะเอเชีย ไม่รวมออสเตรเลียและนิวซีแลนด์… การลงทุนซื้อขายโรงแรมในช่วงครึ่งปีแรก ปี 2021 มีมูลค่ารวม 3,530 ล้านดอลลาร์ เป็นสัดส่วน 94% ของมูลค่าทั้งหมดของเอเชีย-แปซิฟิก ทั้งนี้ “จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้” เป็นประเทศที่มีการลงทุนซื้อขายเกิดขึ้นมากที่สูงสุดมูลค่ารวมกัน 86% ของภูมิภาค
โดยตลาดโรงแรมของจีนมีการซื้อขายมูลค่าสูงสุดในภูมิภาคราว 1,300 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 54% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แซงหน้าโตเกียว ซึ่งเดิมเป็นตลาดที่มีการลงทุนซื้อขายโรงแรมมูลค่าสูงสุด โดยในครึ่งปีแรก โตเกียวมีการซื้อขายมูลค่ารวม 1,100 ล้านดอลลาร์ ลดลง 47% อย่างไรก็ดี คาดว่าการซื้อขายจะมีมูลค่าปรับเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง เนื่องจากมีซื้อขายโรงแรมหลายรายการที่กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการหรืออยู่ในแผนที่จะเกิดขึ้น
Nihat Ercan ในฐานะ Senior Managing Director หน่วยธุรกิจบริการการลงทุนด้านโรงแรม ภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิกของเจแอลแอล ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า… เป็นที่ชัดเจนว่าราคาที่ผู้ซื้อและผู้ขายคาดหวังยังคงมีช่องว่าง แต่โดยส่วนใหญ่ เจ้าของโรงแรมในภูมิภาคนี้ ยังไม่อยู่ภายใต้แรงกดดันสูงจนถึงกับต้องยอมขายลดราคาลงมาก เนื่องจากไม่ได้มีหนี้สูง อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับสถาบันการเงิน เจ้าหนี้ และในบางกรณียังได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการรัฐด้วย
การวิเคราะห์ของเจแอลแอลเผยให้เห็นว่า นักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ซื้อรายหลักในตลาดโรงแรมของออสเตรเลีย และ ญี่ปุ่น ในขณะที่ในจีนและเกาหลี ผู้ซื้อส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนภายในประเทศ… นอกจากนี้ เมืองที่เป็นตลาดรีสอร์ตกลับมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนอีกครั้ง เนื่องจากเป็นที่คาดหมายว่าจะฟื้นตัวได้เร็วกว่าตลาดโรงแรมทั่วไป จากความต้องการสะสมของผู้คนที่ไม่สามารถออกเดินทางท่องเที่ยวมาเป็นเวลานาน
ทั้งนี้ มัลดิฟส์ ภูเก็ต เกาะสมุย และบาหลี คาดว่าจะเป็นตลาดรีสอร์ตที่มีการซื้อขายโรงแรม-รีสอร์ตเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยเฉพาะมัลดิฟส์มีแนวโน้มว่าจะเป็นตลาดรีสอร์ตที่มีการซื้อขายคึกคักมากที่สุดในปีนี้
JLL ประเมินว่า… แม้นักลงทุนจะยังกังวลเกี่ยวกับปัจจัยลบต่างๆ ในระยะสั้นที่ภาคธุรกิจโรงแรมของเอเชีย-แปซิฟิกกำลังเผชิญ อาทิ การกระจายวัคซีนที่ล่าช้า และ ผลกระทบจากการเกิดการระบาดระลอกใหม่ แต่การลงทุนซื้อขายโรงแรมในภูมิภาคสำหรับทั้งปีนี้จะมีมูลค่าปรับตัวเพิ่มขึ้น
คุณจักรกริช จักรพันธุ์ ณ อยุธยา รองกรรมการผู้จัดการหน่วยธุรกิจบริการการลงทุนด้านโรงแรม ภาคพื้นเอเชีย ของเจแอลแอล กล่าวว่า… ตลาดโรงแรมของไทย โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ภูเก็ต และ สมุย ยังคงได้รับความสนใจสูงจากนักลงทุนในภูมิภาค โดยจากข้อมูลการลงทุนซื้อขายที่เรารวบรวมในครึ่งแรกของปีนี้ มีการซื้อขายโรงแรมเกิดขึ้น 2 รายการ และจะมีการซื้อขายอีกอย่างน้อย 5 รายการ… ที่มีกำหนดจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในครึ่งหลังของปีนี้
References…
- https://www.jll.com.sg/en/people/mike-batchelor
- https://www.prachachat.net/property/news-719678
- Featured Image: Photo by Asad Photo Maldives from Pexels