การสำรวจความคิดเห็นในตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการท่องเที่ยว หรือตลาดซื้อขายโรงแรมของ JLL ซึ่งเป็นที่ปรึกษาการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของโลก พบว่า… นักลงทุนยังให้ความสนใจการซื้อโรงแรมอยู่ โดยมีธุรกิจโรงแรมในญี่ปุ่นได้รับความสนใจมากที่สุด อยู่ที่ 52%… ตามมาด้วยโรงแรมในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ 46%… โดยมองว่า เป็นตลาดการท่องเที่ยวที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งในระยะยาว นักลงทุนยังคงมีความเชื่อมั่นในศักยภาพระยะยาวของตลาดอสังหาริมทรัพย์กลุ่มโรงแรมและรีสอร์ทในเอเชียแปซิฟิก แม้ภาคการท่องเที่ยวจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤติการณ์โควิด
ผลการสำรวจครั้งนี้ยังพบว่า… 70% ของกลุ่มนักลงทุนยังคงเชื่อมั่นในภาคธุรกิจโรงแรมและสนใจที่จะลงทุนซื้อโรงแรมในปี 2021… และ JLL ยังคาดด้วยว่า ในปี 2021 นี้… การลงทุนซื้อขายโรงแรมในเอเชียแปซิฟิกจะมีมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 20% จากปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสิ้น 5,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนอุปสรรคสำคัญของการตกลงซื้อขายคือราคา โดยนักลงทุนส่วนใหญ่คาดหวังว่าจะสามารถซื้อโรงแรมในราคาที่ถูกลง 20–30% ในขณะที่เจ้าของโรงแรมส่วนใหญ่ยอมรับการลดราคาได้ที่ระดับประมาณ 10% จากราคาที่เสนอขาย… แต่ความคาดหวังด้านราคาระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายเริ่มขยับเข้ามาใกล้กันมากขึ้นในปี 2021 นี้เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หลังจากที่เริ่มมีการใช้วัคซีนป้องกันโควิดในหลายประเทศมากขึ้น ทำให้นักลงทุนเริ่มลดคาดหวังในเรื่องความสามารถในการ “กดราคา” ในขณะเดียวกัน แม้จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เจ้าของโรงแรมเองยังคงต้องแบกรับภาระต้นทุนการดำเนินการในภาวะที่การท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัว
Nihat Ercan ในฐานะ Senior Managing Director และ Head of Investment Sales, Asia Pacific, JLL Hotels & Hospitality กล่าวว่า… วงจรของตลาดโรงแรมกำลังเริ่มต้นขึ้นใหม่ โดยกำลังอยู่ในช่วงแรกเริ่มของการเตรียมเข้าสู่ระยะฟื้นตัว แนวโน้มที่ดีขึ้นจากการเริ่มมีการใช้วัคซีนที่ทำให้มีความคาดหวังสูงเกี่ยวการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวในระยะต่อไป ทำให้นักลงทุนมีความตื่นตัวมากขึ้นในการมองหาโอกาสการลงทุนซื้อโรงแรมก่อนที่ตลาดและราคาจะฟื้นตัว
อย่างไรก็ดี การสำรวจความคิดเห็นของเจแอลแอลเผยว่า ราว 25% ของนักลงทุนยังคงลังเลที่จะตัดสินใจลงทุนเนื่องจากยังต้องการรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับสถานการณ์โรคระบาดต่อไป ในขณะที่ 5% ของนักลงทุนที่เข้าร่วมการสำรวจความคิดเห็น มีแผนที่จะถอนการลงทุนออกจากภาคธุรกิจโรงแรม และเปลี่ยนไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นแทน
โดยนักลงทุนส่วนใหญ่มองว่า ช่วงเวลานี้ เป็นโอกาสที่ดีที่จะลงทุนเพิ่มในโรงแรมที่มีอยู่แล้วในพอร์ตการลงทุนของตนเอง ไม่ว่าจะโดยการปรับปรุง การเปลี่ยนประโยชน์การใช้ในบางส่วน และการปรับระดับโรงแรมให้สอดรับกับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป
ปีที่ผ่านมา… เจ้าของและผู้ประกอบการโรงแรมส่วนใหญ่ มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาด้านสภาพคล่องทางการเงินเป็นหลัก ซึ่งแนวโน้มนี้จะดำเนินต่อไปในอีก 12-18 เดือนข้างหน้า… ในขณะเดียวกัน “เจ้าของโรงแรมที่ยังคงมีสายป่านยาว” มองว่า ขณะนี้เป็นจังหวะที่ต้องลงทุนปรับปรุงโรงแรมเพื่อให้เสร็จพร้อมจังหวะที่ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัว เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและรองรับความต้องการของลูกค้า”
ผลการสำรวจความเห็นของเจแอลแอลยังพบว่า… นักลงทุน 36% ตั้งเป้าที่จะลงทุนปรับปรุงโรงแรมในพอร์ทการลงทุนของตนเองในปีนี้ ควบคู่ไปกับการยังคงรักษาวินัยทางการเงินและสภาพคล่องอย่างเคร่งครัด… ในสภาพตลาดขณะนี้ ยังคงมีการซื้อขายโรงแรมเกิดขึ้น มีนักลงทุนหลายรายที่พร้อมเข้าซื้อโรงแรมเพื่อปรับปรุงและรอจังหวะขายออกเพื่อทำกำไรในอีก 3-5 ปี
การสำรวจความคิดเห็นเชิงลึกของ JLL ครั้งนี้ มีนักลงทุนเข้าร่วมให้ข้อมูลราว 100 ราย… สำหรับท่านที่ต้องการตัวเลขเชิงสถิติจากรายงานฉบับเต็ม ดาวน์โหลดรายงานเรื่อง Hotel Investment Outlook 2021 จากเวบไซต์ JLL ได้โดยตรงครับ
References…