ผมได้รับข้อความทาง email ทักถามมาปรึกษาเรื่องโฮมสเตย์เข้ามมาครับ และผมตอบคำถามกลับไปทาง email ให้ท่านที่ถามมาแล้วเช่นกัน… ส่วนข้อมูลอ้างอิงที่ผมรวบรวมไว้ดูน่าสนใจและเป็นประโยชน์กับหลายๆ ท่านที่อาจจะมีที่สวนหรือที่นาเหลือๆ อยากลุกมาทำอะไรสนุกๆ โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้ชุมชนที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสายวัฒนธรรม ความเชื่อและแหล่งท่องเที่ยวเมืองรองที่เติบโตขึ้นมาก
ตัดเข้าข้อมูลไปรู้จักความหมายกันก่อน… โฮมสเตย์ หมายถึง ที่พักเพื่อการท่องเที่ยวรูปแบบหนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวจะต้องพักรวมกับเจ้าของบ้านชายคาเดียวกัน โดยแบ่งห้องพักหรือพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน นำมาดัดแปลงให้นักท่องเที่ยวได้พักชั่วคราว และมีจำนวนไม่เกิน 4 ห้อง มีผู้พักรวมกันไม่เกิน 20 คน โดยมีค่าตอบแทน และจัดบริการสิ่งอำนวยความสะดวกตามสมควร อันมีลักษณะเป็นการประกอบกิจการเพื่อหารายได้เสริม ซึ่งเป็นไปตามบทนิยามคำว่า “โรงแรม” แห่งพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 และได้ขึ้นทะเบียนกับกรมการท่องเที่ยว กรทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตามหลักเกณฑ์ที่กรมการท่องเที่ยวกำหนด
ส่วนการจัดการห้องพัก ควรพิจารณาความเต็มใจของสมาชิกในครอบครัวต่อแขกพักเป็นสำคัญ… เพราะโฮมสเตย์ส่วนใหญ่มีข้อกำหนดเรื่องการพักร่วมชายคากับเจ้าของบ้าน ส่วนทางเทคนิคแล้ว เจ้าของโฮมสเตย์สามารถจัดการอะไรแค่ไหนอย่างไร ก็อีกเรื่องหนึ่ง… ประเด็นหลักๆ ก็ยังอยู่ที่ว่า คนในครอบครัวล้วนเป็นเจ้าบ้านที่ให้บริการแขกพัก… แม้แขกพักไม่ได้คาดหวังการบริการระดับโรงแรมหรือรีสอร์ท แต่สมาชิกในครอบครัวต้องเข้าใจและไม่เป็นปัญหาต่อการให้บริการที่พักแบบโฮมสเตย์ก่อนอื่น
ส่วนห้องพัก ห้องนอน ห้องน้ำ เครื่องเรือน ที่นอน หมอนมุ้ง ผ้าห่ม… และความสะอาด รวมทั้งความปลอดภัยก็ควรพิจารณาตามความเหมาะสมทั้งความปลอดภัยในสวัสดิภาพ ในชีวิตและทรัพย์สิน
ในขณะเดียวกัน… ฝั่งเจ้าของบ้าน หรือเจ้าของโฮมสเตย์ก็ควรจัดการข้อมูลแขกพักอย่างเหมาะสมเพื่อความปลอดภัยส่วนตน ซึ่งข้อมูลแขกพักยังจะเป็นประโยชน์อีกมากในหลายกรณี… รวมทั้งข้อกำหนดของฝ่ายปกครองด้วย
ส่วนประเด็นสำคัญจริงๆ คือเรื่องการขออนุญาตและขอรับรองมาตรฐานมาตรฐานโฮมสเตย์ไทย… ซึ่งประสบการณ์ส่วนตัวผม ยังเจอการเข้าใจคลาดเคลื่อนประเด็นนี้มากพอสมควร โดยเฉพาะชุมชนที่รัฐเข้าไปส่งเสริมและดำเนินการหลายอย่างให้ จนเป็นผู้ประกอบการโฮมสเตย์ แต่พอมีคนมาสอบถามรายละเอียดกลับให้ข้อมูลคลาดเคลื่อนส่งต่อๆ กันไป
ซึ่งมาตรฐานโฮมสเตย์ไทย หรือที่พักสัมผัสวัฒนธรรมชนบทมาตรฐานไทย ต้องมีคุณสมบัติโฮมสเตย์เบื้องต้น 6 ประการ ดังนี้
- เจ้าของบ้านและสมาชิกในครอบครัวต้องถือว่าการทำโฮมสเตย์เป็นเพียงรายได้เสริมนอกเหนือรายได้จากอาชีพหลักของครอบครัวเท่านั้น
- มีห้องพักหรือพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเหลือและไม่ได้ใช้ประโยชน์ สามารถนำมาดัดแปลงให้นักท่องเที่ยวเข้าพักได้
- นักท่องเที่ยวต้องเข้าพักค้างแรมในชายคาเดียวกับที่เจ้าของบ้านอาศัยอยู่ โดยมีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมและวิถีชีวิตระหว่างกัน
- สมาชิกในครอบครัวต้องมีความยินดีและเต็มใจที่จะรับนักท่องเที่ยวให้เข้ามาพักค้างแรมในชายคา เดียวกับเจ้าของบ้าน พร้อมทั้งถ่ายทอดวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่นนั้นแก่นักท่องเที่ยว
- เจ้าของบ้านและสมาชิกในครอบครัวให้ความร่วมมือกับชุมชนในการจัดการโฮมสเตย์เป็นอย่างดี
- บ้านนั้นต้องเป็นสมาชิกของกลุ่ม ชมรม หรือสหกรณ์ ที่ร่วมกันจัดการโฮมสเตย์ของชุมชนนั้น
เกณฑ์การพิจารณาโฮมสเตย์ของคณะกรรมการมาตรฐานโฮมสเตย์ไทย จะต้องมีคุณสมบัติโฮมสเตย์เบื้องต้น 6 ประการ ครบถ้วน… บ้านที่ขอรับการประเมินทุกหลังต้องมีเลขที่บ้านที่ออกให้โดยส่วนราชการ
ที่ตั้งของชุมชนหรือกลุ่มโฮมสเตย์หรือบ้านพักต้องไม่อยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ เช่น อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เป็นต้น ยกเว้นได้รับอนุญาตจากเจ้าของพื้นที่เป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว
ดำเนินการจัดทำโฮมสเตย์ตามข้อกำหนดมาตรฐานโฮมสเตย์ไทยของกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
ขั้นตอนการขอใบอนุญาตประกอบกิจการโฮมสเตย์
โฮมสเตย์ ถือเป็น สถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมตามที่ระบุในกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับกฎกระทรวง ว่าด้วยการกำหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2551 หมวดที่ 1 สถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมและประเภทโรงแรม… ซึ่งความตามข้อ 1. ให้สถานที่พัก มีห้องพักในอาคารเดียวกัน หรือหลายอาคารรวมกันไม่เกิน 4 ห้องและมีผู้พักรวมกันไม่เกินทั้งหมด 20 คนตั้งขึ้น เพื่อบริการที่พักชั่วคราวสำหรับคนเดินทาง โดยมีค่าตอบแทน ที่มีลักษณะเป็นการประกอบกิจการเพื่อหารายได้เสริม และได้แจ้งนายทะเบียนทราบ ไม่เป็นโรงแรม
หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขในการยื่นคำขอ และในการพิจารณาอนุญาต
ผู้ใดประสงค์จะยื่นคำขอแบบหนังสือแจ้งสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม จะต้องเป็นสถานที่พักที่มีจำนวนห้องพักในอาคารเดียวกันหรือหลายอาคารรวมกันไม่เกินสี่ห้อง และมีจำนวนผู้พักรวมกันไม่เกินยี่สิบคน ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อให้บริการที่พักชั่วคราวสำหรับคนเดินทางหรือบุคคลอื่นใดโดยมีค่าตอบแทน อันมีลักษณะเป็นการประกอบกิจการเพื่อหารายได้เสริม และได้แจ้งให้นายทะเบียนทราบตามแบบที่รัฐมนตรีกำหนด
ผู้ที่จะขอรับแบบหนังสือแจ้งสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม ตามกฎกระทรวงกำหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2551 จะต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังนี้
- มีสัญชาติไทย
- มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์
- มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรไทย
- ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
- ไม่เป็นบุคคลคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
- ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
- ไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่าเป็นผู้กระทำผิดในความผิดเกี่ยวกับเพศตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการค้าหญิงและเด็ก หรือความผิดตามกฎหมายว่าด้วยมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี
- ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาต
- ไม่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาต หรือเคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตโดยเหตุอื่นที่มิใช่เหตุตาม (6) แต่เวลาได้ล่วงพ้นมาแล้วไม่น้อยกว่าสามปี
ส่วนรายละเอียดและเอกสารหลักฐานประกอบการขออนุญาต สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ที่
- กรุงเทพมหานคร ยื่นคำขอได้ที่ ส่วนรักษาความสงบเรียบร้อย 3 สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง (วังไชยา) ถนนนครสวรรค์ เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร โทร 02-3569559
- ต่างจังหวัด ยื่นคำขอได้ที่ ที่ว่าการอำเภอที่สถานที่พักนั้นตั้งอยู่
ข้อมูลคร่าวๆ ประมาณนี้ครับ… ที่ต้องจำคือ ห้องพักไม่เกิน 4 ห้อง… พักร่วมชายคากับเจ้าของบ้าน… พักได้ไม่เกิน 20 คนต่อคืน… ขออนุญาตที่ฝ่ายปกครอง ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือกรมการปกครอง… ส่วนการขอรับรองมาตรฐาน ตราสัญญาลักษณ์ รูปหลังคาทรงไทยลายกลอน อยู่บนตัวอักษร Home Stay Standard Thailand ให้ยื่นขอมาตรฐานโฮมสเตย์ได้ที่ มาตรฐานการท่องเที่ยวที่พักสัมผัสวัฒนธรรมชนบท (HOMESTAY) กรมการท่องเที่ยว 154 สนามกีฬาแห่งชาติ ถ.พระราม 1 เขตปทุมวัน กทม. 10330 โทร 02-216-6512


ส่วนท่านที่สนใจใบอนุญาตโฮมสเตย์ทำ AirBNB… หลังไมค์มาที่ line @properea ได้ครับ… คุยกัน