เทรนด์การท่องเที่ยวแบบ FIT แนวทางและโอกาส

Free Independent Traveler

ยังถือว่าอยู่ในช่วงสัปดาห์ของการท่องเที่ยว วันนี้ก็เลยจะพาทุกท่านโฟกัสเทรนด์การท่องเที่ยวต่ออีกหนึ่งวัน โดยเฉพาะแนวโน้มหรือเทรนด์ที่เรียกว่า Free Independent Traveler หรือ FIT ที่หมายถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตนเองโดยอิสระ และไม่ผ่านบริษัทนำเที่ยวหรือโปรแกรมท่องเที่ยวแบบเป็นหมู่คณะ

ความจริงก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ เคยมีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหิดล กรณีนักท่องเที่ยวอิสระชาวจีนที่หลั่งไหลเข้ามาประเทศไทยช่วงปี 2015-2017… ซึ่งช่วงปีนั้นประเทศไทยได้ทดลองอนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวจีนนำรถยนต์ส่วนตัวเข้ามาใช้ในประเทศไทยได้… แต่ก็เกิดโกลาหลวุ่นวายบนท้องถนนจนต้องพับแผนไป

งานวิจัยชิ้นนั้นรู้จักกันดีในชื่อ “หนีห่าวมาร์เก็ตติ้ง เคล็ดลับมัดใจนักท่องเที่ยวจีนสไตล์ FIT

มหาวิทยาลัยมหิดลเผยแพร่งานวิจัยชิ้นนี้เป็นอินโฟกราฟฟิคยาว 88 สไลด์ ผมแนบลิงค์ไว้ใต้อ้างอิงครับสำหรับรายละเอียด

เพราะประเด็นที่จะคุยกันต่อจากนี้ไม่ได้โฟกัสเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน… แต่เราสามารถมอง FIT ชาวไทย ชาวจีน เพื่อนบ้านมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เมียนมาร์ ลาว เวียดนาม เขมร… ตะวันออกกลาง  ยุโรป อเมริกา รัสเซีย อเมริกาใต้ แอฟริกา… ได้หมด!

ประเด็นก็คือ… นักท่องเที่ยวกลุ่ม FIT เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญทั่วโลก จากข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว ที่มีข้อมูลมากมายหลากหลายให้ทุกๆ ความสนใจ จนนักท่องเที่ยวสามารถวางแผนเดินทางได้ด้วยตัวเอง รวมทั้งมีข้อมูลและความรู้สำหรับการจัดการแผนการเดินทางได้อย่างมั่นใจ

คำถามคือ… ปัจจัยอะไรบ้างที่นักท่องเที่ยวกลุ่ม FIT ใช้นำทางและตัดสินใจ?

งานวิจัยหนีห่าวมาร์เก็ตติ้ง เปิดเผยแก่นหรือ Core สำหรับทำธุรกิจกับนักท่องเที่ยว FIT ไว้ 4 ประเด็นคือ

1. Thust รักษามาตรฐานบริการและสินค้า ให้นักท่องเที่ยวประทับใจและเกิดการบอกต่อ
2. Hospitality ดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานความจริงใจ สร้างความไว้วางใจและสานสัมพันธ์ต่อเนื่อง
3. Awareness สร้างการรับรู้และดึงดูดด้วยสื่อและช่องทางที่เหมาะสม
4. Identity สร้างเอกลักษณ์ให้โดดเด่นและแตกต่างเป็นที่จดจำ

หลักทั้ง 4 ประเด็นสามารถย่อรวมกันได้เป็น THAI พอดี… และผมมองว่าเป็น Concept Models ที่ชัดเจนและใช้ได้กับทุกๆ กิจการที่มองลูกค้ากลุ่มนักท่องเที่ยว ตั้งแต่โรงแรมที่พักไปจนถึงของฝาก

แต่การทำธุรกิจก็คือการทำธุรกิจ… การเข้าถึงลูกค้าโดยเฉพาะลูกค้าที่เป็นคนแปลกหน้าอย่างนักท่องเที่ยว ไม่ง่ายที่จะสร้าง Awareness และ Thust… แต่ไม่ยากที่จะสร้าง Identity และ Hospitality ที่เป็นปัจจัยภายในเป็นส่วนใหญ่

ในเชิงกลยุทธ์… การมี Identity และ Hospitality ก็ถือว่าโมเดลธุรกิจสมบูรณ์ไปแล้ว 50%… ที่เหลือก็แค่ออกแรงทางการตลาด ซึ่งก็มีทั้งกลยุทธ์ แนวทางและเครื่องมือที่หลากหลายให้เลือกใช้ เพื่อสร้าง Awareness และ Trust กับลูกค้าคนแรกๆ หรือกลุ่มแรกๆ ที่จะส่งสารเรื่อง Identity และ Hospitality ที่เรามีเต็มเปี่ยม… ส่วนความจำเป็นเรื่องออกแรงมากหรือออกแรงน้อย คงเป็นเรื่องเฉพาะกรณีไป และผมเชื่อว่า… ท่านที่คิดทำธุรกิจน้อยใหญ่ต่างเห็นทั้งโอกาสและวิธีเป็นเจ้าของโอกาสโดยสมบูรณ์กันทั้งนั้น!!!

ขอให้ศุกร์แรกของปีเป็นศุกร์ที่สุข… ครับผม!

อ้างอิง

https://www.cm.mahidol.ac.th

Share this post

Add Properea's Friend

เพิ่ม Properea.com เป็นเพื่อนทาง Line
ท่านจะได้ Link บทความใหม่ส่งตรงให้อย่างสม่ำเสมอโดยรบกวนแต่น้อย

Related Post

Digital Twin Construction

Digital Construction… ขอบเขตและแนวทาง

แนวทางการปรับตัว และ ยกระดับอุตสาหกรรมก่อสร้าง ในช่วงเวลาที่การเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมได้เดินหน้าเป็น Digital Driven กันหมด… คำถามสำคัญที่ท้าทายอุตสาหกรรมก่อสร้าง โดยเฉพาะ Construction SMEs ที่ส่วนใหญ่ไม่ได้มีศักยภาพในระดับ “พร้อมลงทุน” กับเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งแม้แต่ผู้รับเหมารายกลาง หรือ รายใหญ่ที่ไม่ได้มีปัญหาเรื่อง “เงินลงทุน” มากนัก… แต่เกือบทั้งหมดกลับเจอปัญหา “ทักษะ และ ทรัพยากรมนุษย์” ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากการลงทุนกับเทคโนโลยีเป็นส่วนใหญ่

สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัย (Reverse Mortgage)

ไทยเป็นอีกหนึ่งในหลายๆ ประเทศที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ มีหลายมิติหลายวงสนทนาที่ผู้สูงอายุเป็นโจทย์ใหญ่ที่แต่ละภาคส่วนต้องเกี่ยวข้อง… วงการสินเชื่อและอสังหาริมทรัพย์เองก็มีการเคลื่อนไหวกันคึกคัก โดยเฉพาะสินเชื่อแบบ Reverse Mortgage

Rail transport

Railway Logistics… Nanning Railway Logistics Center หรือ 南宁铁路物流中心

ช่วงนี้ผมกำลังค้นข้อมูล Railway Logistics ตามยุทธศาสตร์จีน–สิงคโปร์ ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว… เส้นทางรถไฟจากจีนถึงสิงคโปร์คงพัฒนาหลายอย่างตลอดเส้นทาง… ซึ่งประเทศไทยและคนไทยอย่างเราท่าน คงได้ประโยชน์กันบ้างมากน้อนหรือตรงอ้อมก็อีกเรื่องหนึ่ง

RPA : Robotics Process Automation

RPA with AI… Artificial Intelligence Bot #Digital–Transformation

แนวคิดการใช้ Macro ช่วยงานซ้ำซากและซับซ้อนโดยไม่ผิดพลาดนั้น มีอยู่คู่กับซอฟท์แวร์และคอมพิวเตอร์มาแต่ไหนแต่ไร… และเมื่อ Macro ได้รับการพัฒนาให้ทำงานแบบกำหนดเงื่อนไขซับซ้อนได้หลากหลายมากกว่าเดิม พร้อมๆ กับพัฒนาการอย่างครบเครื่องของภาษาสคริปต์ หรือ Scripting Language ที่ครบเครื่องและทรงพลังกว่าในอดีต… การกำหนดและสั่งงานซ้ำซากให้คอมพิวเตอร์ช่วยทำแทนจึงมาไกลจนเรียกใหม่ได้เต็มปากว่า Bot ซึ่งเป็นพัฒนาการจากแนวคิดและ DNA ของ Macro ที่เก่งกว่าบรรพบุรุษมากมาย