เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2020 ที่ผ่านมา… เวบไซต์ bloomberg.com ของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ได้เปิดเผยรายงานการวิเคราะห์เศรษฐกิจของประเทศตลาดเกิดใหม่ 17 ประเทศในปี 2021 ผ่านตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจและการเงิน 11 ข้อ โดยบลูมเบิร์กจัดให้อนาคตเศรษฐกิจของไทยอยู่ในอันดับ 1 ของตาราง
บลูมเบิร์กให้เหตุผลว่า ประเทศไทยมีเงินทุนสำรองที่มั่นคงและมีศักยภาพสูงที่จะดึงดูดเงินทุนเข้าประเทศ และยังคาดการณ์ว่า ปีหน้า GDP ของไทยจะเติบโต 3.9% ดุลบัญชีเดินสะพัดต่อ GDP จะเกินดุล 3.1% และดุลงบประมาณต่อ GDP จะขาดดุล 4.9% ขณะที่หนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่ที่ 41%
การวิเคราะห์ของบลูมเบิร์กยังพบอีกว่า บรรดาประเทศตลาดเกิดใหม่มีความพร้อมที่จะฟื้นตัวจากความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นแล้ว โดยเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่แข็งแกร่งของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่โดยเฉพาะในเอเชีย เป็นตัวช่วยรองรับแรงสั่นสะเทือนจากปัจจัยภายนอก… ทั้งนี้ ตัวชี้วัดที่บลูมเบิร์กใช้วิเคราะห์ว่าตลาดเกิดใหม่ใดจะรับมือกับความท้าทายและโอกาสเหล่านั้นได้ดีกว่าคู่แข่งประกอบไปด้วย
การฟื้นตัวจาก Covid-19
เกิดความกังวลว่าประเทศยากจนและประเทศด้อยพัฒนาจะถูกทิ้งไว้ข้างหลังในการกระจายวัคซีน และหลายประเทศในกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่ก็ได้รับผลกระทบจาก COVID19 อยู่แล้ว โดยเฉพาะไทยที่ต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก… นักวิเคราะห์ของบลูมเบิร์กมองว่า เศรษฐกิจของประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจาก Covid-19 ในปีนี้ จะฟื้นตัวและเห็นการเติบโตอย่างมากในปี 2564 โดย 5 อันดับแรกของประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตสูงมากล้วนมาจากเอเชียทั้ง อินเดีย จีน และฟิลิปปินส์
การฟื้นตัวหลังล็อกดาวน์
เมื่อควบคุมการแพร่ระบาดได้แล้ว ประเทศกำลังพัฒนาส่วนใหญ่จะได้รับอานิสงส์อย่างมากจากการกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจตามปกติ โดยข้อมูลล่าสุดพบว่า มาเลเซีย ชิลี และฟิลิปินส์ อนาคตสดใสที่สุด
ช่องโหว่ของโครงสร้าง
โครงสร้างทางเศรษฐกิจที่ทรุดแย่ลงในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID19 เป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ โดยเฉพาะปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด และการขาดดุลงบประมาณที่จะเพิ่มภาระทางการเงินให้รัฐบาล
References…