ความพยายามที่จะหาโมเดลชดเชยรายได้จากการท่องเที่ยวที่หายไป 100% ก็ว่าได้ ตั้งแต่วิกฤต COVID19 ลุกลามออกนอกแผ่นดินจีนช่วงต้นปี 2020 จนถึงปลายปี 2020 ก็ยังมีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อให้น่ากังวลอยู่ทั่วโลก… การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยคุณยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งเคลื่อนไหวหารือกับศูนย์บริหารสถานการเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หรือ ศบศ. เรื่อง เตรียมผลักดันโครงการชื่อ Elite Flexible Program มาตั้งแต่ช่วงตุลาคม 2020 ที่ผ่านมา
ความพยายามของท่านผู้ว่ายุทธศักดิ์ ได้แถลงไว้ช่วงนั้นว่า… ต้องการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ เพื่อช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์ เสริมกำลังซื้อที่กำลังขาดแคลนในไทยผ่านกลไกลสนับสนุนของ Thailand Elite Card ที่อยู่ในความรับผิดชอบของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยได้แบ่งออกเป็น 2 โปรแกรม ได้แก่ Flex 1 และ Flex Plus
โปรแกรม Flex 1 จะสนับสนุนให้เอกชนจากภาคอสังหาริมทรัพย์เสนอ Thailand Elite Card ขายร่วมในแพ็คเกจ โดยผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย Thailand Elite Card ให้กับลูกค้าและลูกค้าจะได้รับสิทธิประโยชน์จาก Elite Privilege Entry Visa หรือ PE Visa หรือวีซ่าท่องเที่ยวอายุเริ่มต้น 5 ปี รวมถึงสิทธิประโยชน์อื่นๆ จาก Thailand Elite Card ตามแต่ประเภทที่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เสนอ
ส่วนโปรแกรมที่ Flex Plus จะเสนอช่องทางการขอใบอนุญาตทำงาน หรือ Work Permit โดยไม่ต้องมีวีซ่าทำงาน หรือไม่ต้องขอ Non-Immigrant Visa-B โดยเปิดให้ขอใบอนุญาตทำงานได้เลย แม้จะถือ Elite Privilege Entry Visa… โดยโปรแกรมนี้จะเป็นโปรแกรมสำหรับนักลงทุนที่ถือ Thailand Elite Card ประเภทบัตรที่มีมูลค่าสูงกว่า 1 ล้านบาท อายุเหลือมากกว่า 5 ปี และมีการลงทุนเกินกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐภายใน 1 ปี
ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนก็มีความเคลื่อนไหวออกมาจาก ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ ศบศ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน… ได้เห็นชอบมาตรการ Elite Flexible Program โดยเฉพาะโปรแกรม Flex Plus ที่ปรับสิทธิประโยชน์รับนักลงทุนต่างชาติกำลังซื้อสูง โดยให้สิทธิสมาชิกบัตรไทยแลนด์อีลิทการ์ดประเภทบัตรที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป โดยกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติม คือ บัตรต้องมีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 5 ปีขึ้นไป โดยเข้ามาลงทุนระยะยาวในสินทรัพย์ 3 ประเภท ที่มีมูลค่าไม่น้อยกว่า 1 ล้านดอลลาร์ ภายใน 1 ปี ได้แก่
- การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ตามสิทธิที่ต่างชาติได้รับ
- การลงทุนในบริษัทจำกัด หรือ บริษัทจำกัดมหาชน
- การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ผ่านการถือครองหุ้นสามัญ หุ้นกู้ หรือหน่วยลงทุน
ทั้งนี้ ต้องเข้ามาลงทุนในเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี ให้ยื่นเรื่องต่อกระทรวงการคลังเพื่อขอใบอนุญาตการทำงานในไทย โดยกระทรวงการคลังและกระทรวงแรงงานจะพิจารณาความเหมาะสม ซึ่ง ศบศ. มอบหมายให้ ททท. หารือกับกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เมื่อความคืบหน้าของโครงการเดินมาถึงช่วงต้นเดือนธันวาคม ปี 2020… เสียงวิพากษ์วิจารณ์โครงการ Elite Flexible Program ก็เริ่มดังมาจากฝั่งอสังหาริมทรัพย์ โดย 3 สมาคมใหญ่ทั้ง สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และสมาคมอาคารชุดไทย ซึ่งรายละเอียดของ Elite Flexible Program หลายเงื่อนไขและข้อจำกัด… ยังถือว่าเกาไม่ถูกที่คันและท่าทีจะเกาได้ไม่หายคันค่อนข้างชัดประมาณนั้น
ประเด็นก็คือ… Thailand Elite Card เป็นการเปิดให้วีซ่าระยะยาวทางอ้อม ผ่านเงื่อนไขว่าต้องซื้อห้องชุดราคา 10 ล้านบาท แล้วลูกค้าชาวต่างชาติจะต้องซื้อบัตร Elite Flexible One เพิ่ม ซึ่งมีค่าธรรมเนียมอีก 500,000 บาท อันเป็นการเพิ่มต้นทุนและเป็นภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ซื้อและผู้ขายโดยตรง… นอกจากนั้น เงื่อนไขยังมีความย้อนแย้ง เช่น โครงการกำหนดกรอบเวลาดำเนินการถึง 2 ปี แต่ Thailand Elite Card ตั้งเป้าขายคอนโดมิเนียมไว้เพียง 100 ยูนิต ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับสต๊อกห้องชุดราคา 5-10 ล้านบาทที่มีอยู่ในตลาดมากกว่า 20,000 ยูนิต… คนอสังหาเบอร์ใหญ่ๆ จึงเรียงกันออกมาวิพากษ์วิจารณ์บัตร Elite Flexible One ว่าไม่ได้ช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์หรอก แต่เป็นการให้คนทำอสังหาริมทรัพย์ช่วยขายบัตร Thailand Elite Card มากกว่า
หันสถิติห้องชุดราคาเกิน 5 ล้านบาทขึ้นไป ทางศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ REIC จัดทำรายงาน ณ ครึ่งปีแรก 2563 มีซัพพลายเหลือขายรวมกัน 21,479 ยูนิต มีมูลค่ารวมกันถึง 250,576 ล้านบาท เทียบกับเป้าระบายสต๊อกห้องชุดของบัตร Elite Flexible One เพียง 100 ยูนิต มูลค่า 1,000 ล้านบาทภายในเวลา 2 ปี… จึงถือเป็นแผนฟื้นฟูที่ไม่ได้ขยับเพื่อใช้อสังหาริมทรัพย์เป็นเครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเติมตัวเลข GDP ให้มีนัยยะเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด เหมือนที่ฝั่งอสังหาริมทรัพย์ตั้งข้อสังเกต
เสียงร้องขอให้ทบทวนมาตรการจากฝั่งอสังหาริมทรัพย์ จึงถูกเสนอไว้อ้างอิงข้อสังเกตข้างต้นไว้สองประการคือ… ขอให้รัฐสนับสนุนด้วยการแถมบัตร Elite Flexible One ฟรี ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หรือ รัฐให้วีซ่าระยะยาว 5-10 ปีทันทีที่นักลงทุนต่างชาติใส่เงินลงทุนตามเงื่อนไข โดยไม่จำเป็นต้องใช้ช่องทางผ่านโครงการ Thailand Elite Card แต่อย่างใด
แต่ผมก็เห็นความเคลื่อนไหวของคนที่พร้อมแจก Thailand Elite Card ลูกค้าฟรีเริ่มขยับกันแล้วหละครับ… 100 ยูนิตแรกที่ผ่านทุกความเห็นชอบมาแล้วรอบนี้… แม้ไม่ค่อยพึงใจ แต่คงไม่มีใครไม่เอาหรอกครับ