ข่าวความขัดแย้งรอบใหม่ของเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC กรณีผังเมือง ล็อกที่ดินขีดแนวถนนตามผังเมือง ลงในแผนผังการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค ทำความกว้างเขตทาง ตั้งแต่ 10-60 เมตร มากถึง 268 สายทาง… ข่าวว่ามีทั้งตัดถนนใหม่และขยายเขตทางเดิม สัดส่วน 50:50
และฝ่ายเอกชนมองว่าเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์โควิด-19 เนื่องจาก โฉนดทุกแปลง หากอยู่ในข่ายโครงสร้างพื้นฐานรัฐ ต้องถูกสลักหลังเป็นทางสาธารณะ ไม่สามารถทำประโยชน์ได้ อีกทั้งยังรอนสิทธิ์ หากไม่ลงมือเวนคืนใช้ประโยชน์ในทันที
ที่สำคัญคือ เขตทางในชุมชนปัจจุบันกว้างโดยเฉลี่ยประมาณ 5-6 เมตร มีบ้านเรือนประชาชนค่อนข้างหนาแน่นตลอด 2 ข้างทาง… การขีดแนวขยายเขตทางใหม่ หรือตัดถนนใหม่เชื่อมโยงระหว่างกัน แม้ระยะทางสั้นๆ แต่หากเขตทางกว้าง 10-60 เมตร… บ้านเรือนนับพันจะถูกผลักให้อยู่ในแนวเขตทางที่ต้องเวนคืน ส่งผลทำให้เจ้าของที่ดิน เสียโอกาสการต่อเติม ดัดแปลง รอนสิทธิ์ในการซื้อ–ขาย มูลค่าลด สถาบันการเงินไม่รับจำนอง
เช่นเดียวกับดีเวลอปเปอร์ ก็ไม่สามารถยื่นขออนุญาตจัดสรรต่อเนื่องได้ บางแปลงซื้อที่ดินรอพัฒนา แต่ทราบภายหลังว่ากลายเป็นเขตทางสาธารณะ ตามผังเมืองไปเสียแล้ว…โดยเฉพาะจังหวัดชลบุรีต้องขยายถนนเดิมมากกว่า 20 เส้นทางไม่รวมถนนตัดใหม่อีกจำนวนมาก จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รับผลกระทบค่อนข้างมากมีถนนตัดใหม่ กว่า 20 เส้นทาง
รายงานข่าวจากเวบไซต์ฐานเศรษฐกิจระบุว่า… เอกชนได้ยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เพื่อขอทบทวน แต่เนื่องจากผังอีอีซีประกาศใช้แล้ว สำหรับทางออกนางพจนีย์ อรรถโรจน์ภิญโญ รองเลขาธิการ คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เปิดเผยว่า ต้องรอ ขั้นตอนกรมโยธาธิการและผังเมืองวางผังเมืองรวม ทั้ง 3 จังหวัด 30 อำเภอเสียก่อน ซึ่งต้องใช้เวลาและขณะนี้ได้ส่งหนังสือไปยังกรมโยธาธิการเพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว
การเปลี่ยนแปลงระดับนี้มีประเด็นขัดแย้งมากมายอยู่แล้วครับ! และทางออกคงมีซักทาง… ก็หวังแต่ว่าเพื่อนๆ พี่ๆ ฝั่ง EEC ทุกท่านจะไม่อับโชคกับผังเมืองใหม่จนเกินไป
ส่งกำลังใจไปครับ!
อ้างอิง