เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา อาจารย์ทศพร ศิริสัมพันธ์ ในฐานะเลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้แถลงกรอบแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีทุนทรัพย์จาก พระราชกำหนดดูแลเสถียรภาพภาคการเงิน หรือ พ.ร.ก.เงินกู้ วงเงิน 4 แสนล้านบาท ซึ่งสภาพัฒน์ได้เชิญหัวหน้าส่วนราชการมารับทราบกรอบแนวทางการเสนอโครงการ
ซึ่งสภาพัฒน์เน้นย้ำส่วนราชการ ให้เสนอโครงการที่ทำให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากในท้องถิ่นเป็นหลัก และคาดว่าจะมีเงินลงไปยังระบบเศรษฐกิจในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคนี้ ซึ่งแต่ละโครงการต้องอยู่ภายใต้แผนงานหลัก 4 ข้อ คือ
1. กิจกรรมการพัฒนาที่สามารถพลิกฟื้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เช่น เกษตรอัจฉริยะ อุตสาหกรรมอาหาร ท่องเที่ยวเน้นคุณภาพ และเศรษฐกิจสร้างสรรค์
2. การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากหรือเศรษฐกิจชุมชน โดยจะใช้วงเงินในส่วนนี้ไม่ต่ำกว่า 50% ของวงเงินสี่แสนล้านบาท เช่น เกษตรพอเพียง เกษตรผสมผสาน สินค้าโอทอป และท่องเที่ยวชุมชน
3. ส่งเสริมและกระตุ้นการบริโภคภาคครัวเรือนและเอกชน
4. ต้องสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานและสนับสนุนกระบวนการผลิต ไม่เน้นโครงการขนาดใหญ่ เสร็จช้าหรือใช้เวลานาน
รายละเอียดโครงการที่หน่วยงานต่างๆ คาดว่าจะเตรียมข้อมูลเสนอคณะรัฐมนตรีให้แล้วเสร็จภายในต้นเดือนกรกฎาคมนี้

ประเด็นคือแบบนี้ครับ… เงินกู้ 400,000 ล้านบาทที่จะลงพื้นที่ในอีกไม่กี่สัปดาห์จากนี้ ต้องการเห็น “ชุมชนและภาคเกษตรกรรม เข้มแข็งอยู่ในห่วงโซ่การผลิตอาหารและสินค้าชุมชนที่สามารถต่อยอดเรื่องการท่องเที่ยวได้”
ถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครทราบหรอกว่า… แผนงานที่จะผ่านคณะรัฐมนตรีในสี่ห้าสัปดาห์ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่เป้าหมายที่ต้องการผลักดันการท่องเที่ยวภายในประเทศ หลังจากคนไทยช่วยกันหยุดยั้งการแพร่ระบาดนอกเขตควบคุมภายในประเทศได้อย่างดี และถึงคราวเดินทางท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจ… รัฐบาลวางแผนดึงคนเดินทางท่องเที่ยวสู่ชุมชน เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านกลไกทางการตลาด ที่มีเงินงบประมาณสี่แสนล้านเป็นเหยื่อล่อ ดึงเงินส่วนตัวของเราท่านออกจากกระเป๋าเพื่อคืนโอกาสให้คนไทย ที่เสียสละร่วมกันในยามยากมาตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม
โดยส่วนตัวผมคิดว่า… แคมเปญกระตุ้นเศรษฐกิจรอบนี้ คงมีสีสันยิ่งกว่า “ร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย” หรือ “ช้อปช่วยชาติ” ครั้งก่อนๆ
เดี๋ยวมีรายละเอียดชัดกว่านี้ค่อยว่ากันอีกที… ถึงตอนนั้นคงมีหลายอย่างให้พูดถึงในหลายแง่ แต่ก็น่าจะมีหลายอย่างที่แปลงเป็นโอกาสได้เหมือนกัน… อึดไว้ครับ!!!