ผมเป็นแฟน thinkwithgoogle.com มาซักพักใหญ่แล้วหล่ะครับ และผมแนะนำให้ทุกท่านแวะเวียนไปค้นดู และรู้จักกับ thinkwithgoogle.com เอาไว้บ้าง เพราะข้อมูลและบทความ รวมทั้งความเคลื่อนไหวต่างๆ ของที่นี่ หลายเรื่องสามารถจุดประกายใหม่ๆ ได้เยอะทีเดียว… โดยเฉพาะ Digital Marketing Mindset ที่ผมคิดว่า สามารถ Update ข้อมูลให้สมองมีอะไรสดใหม่ได้ตื่นตัวรับการเปลี่ยนแปลงได้อีก
ผมเจองานเขียนของคุณไมค์ จิตติวาณิชย์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด Google Thailand เรื่อง 4 เส้นทางสู่การสร้าง Digital Marketing Experience ในประเทศไทย ซึ่งแบ่งปันวิธีการต่างๆ ที่แบรนด์ใช้สร้างแคมเปญดิจิทัล ให้ลูกค้าชาวไทยชื่นชอบ และสนใจ
คุณไมค์บอกว่า… ชาวไทยเป็นผู้บริโภคกลุ่มที่รับข้อมูลข่าวสารทางอินเตอร์เน็ตสูงมาก โดยประเทศไทยถูกจัดอันดับเป็นประเทศที่ประชากรใช้เวลาบนอินเตอร์เน็ตสูงสุดเป็นอันดับ 3 ของโลก ในปี 2019 โดยใช้เวลาออนไลน์เฉลี่ย 9 ชั่วโมง 11 นาที ต่อวัน นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมชอบใช้งานหลายหน้าจอ (Multi-Screen) โดยจะดูทีวี และใช้สมาร์ทโฟนไปพร้อมๆ กัน
นักการตลาดดิจิทัลจะต้องพัฒนาวิธีใหม่ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจและเข้าถึงผู้บริโภค ที่ใช้สื่อหลายหน้าจอพร้อมๆ กัน แต่ให้ความสนใจกับมือถือเป็นหลัก นี่คือไฮไลท์ 4 วิธีการสร้าง Digital Marketing Experience ที่ Google แนะนำ
1. ทำความเข้าใจความต้องการของกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง กรณีนี้ Google แนะนำให้ศึกษา ข้อมูลเชิงพฤติกรรม (Behavioral data) ของกลุ่มเป้าหมายให้มาก เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาสื่อที่ “โดนใจ” กลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด โดย Google แนะนำ Google Trends และ What’s Trending บน YouTube เป็นต้นทางของการค้นคว้า
2. ใช้ Machine Learning ช่วยสร้างแบรนด์ คีเวิร์ด Machine Learning พูดกันมากมายว่าสำคัญและมีความหมายกับทุกธุรกิจ… Google จึงแนะนำ ตัวอย่างบางตอนของการใช้งาน Machine Learning บน YouTube ชื่อ YouTube Director Mix4 ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยนักการตลาดดิจิทัล สร้างคลิปโฆษณาหลากหลายแบบได้จากวิดีโอชิ้นเดียว และ ใช้ Machine Learning เพื่อเลือกแสดงคลิปโฆษณาแบบที่เหมาะสมที่สุด ให้กับผู้บริโภคที่มีแนวโน้มจะชอบคลิปโฆษณานั้น ซึ่งภาษานักการตลาดเรียกว่า Target Audience นั่นเอง
เมื่อปีที่ผ่านมา Google ได้ทดลองทำแคมเปญเพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคชาวไทยใช้ Search บนมือถือ ซึ่ง Google ใช้ข้อมูล Insight ที่รู้ว่าคนไทยเป็นแฟนฟุตบอลตัวยง… Google Search จึงช่วยให้แฟนบอลชาวไทย ค้นตารางการแข่งขันฟุตบอลที่กำลังจะมาถึงได้ง่ายๆ ด้วยการยิงโฆษณาหา Target Audience ที่กำลังดูคลิปอื่นๆ บน YouTube ไปเลย
3. ออกแบบคลิปโฆษณาใหม่สำหรับสมาร์ทโฟน แทนการปรับปรุงคลิปโฆษณาเก่าให้เข้ากับอุปกรณ์ ผลการสำรวจของ Brand Lift surveys บอกว่า คลิปวิดีโอแนวตั้งบนมือถือ จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าวีดีโอแนวนอนแบบดั้งเดิม เพราะการนำเสนอวีดีโอแนวตั้ง ทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การรับชมที่น่ารื่นรมย์กว่า ซึ่งคลิปโฆษณาแนวตั้ง ทำให้ Awareness เพิ่มขึ้น 11.1% และ Usage Intent เพิ่มขึ้นสูงกว่าผลลัพธ์จากโฆษณาแนวนอนถึง 5.4%
4. ใช้มาตรวัดที่เหมาะสมเพื่อวัดประสิทธิภาพของแคมเปญ สุดท้าย google แนะนำให้สร้างและใช้ มาตรวัดทางการตลาด เช่น YouTube Brand Lift, Google Analytics, MOAT, Match Panel Analysis รวมทั้ง Bots ต่างๆ ที่มีบริการมากมาย หรือจะเขียนขึ้นใช้เองก็ได้ครับ
ทั้งหมดผมสรุปย่อคร่าวๆ มาให้ทราบพอสังเขป… ถ้าท่านสนใจอยากให้เข้าไปอ่านต้นฉบับที่ thinkwithgoogle.com ก็รีบคลิกไปเลยครับ
โดยส่วนตัว… เป้าหมายหนึ่งของการกลับมาทำคอนเทนต์ออนไลน์ในรอบหลายปีอย่างจริงจัง ก็เพื่อจะอัพเดทความรู้และทักษะทาง Digital Marketing มาแบ่งปันทุกท่าน โดนเฉพาะท่านที่อยู่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ที่ผมเห็นหลายกรณีชัดเจนว่า… น่าจะตามการตลาดยุคดิจิตอลไม่ทัน และคงโดน Disrupt ในอีกไม่ช้าถ้าไม่ปรับตัว…
ท่านพร้อมและปรับตัวหรือยังครับ?