คุณกระทิง เรืองโรจน์ พูนผล CEO ของ KBTG ในเครือธนาคารกสิกรไทยและเจ้าของฉายา Godfather วงการเทคสตาร์ทอัพไทย และผู้ก่อตั้งกองทุน 500 TukTuks รวมทั้งการเป็น Mentor และ Commentator ที่วงการสตาร์ทอัพเมืองไทยต้องหยุดฟังเขาพูดเสมอ… ได้ให้ความเห็นไว้หลายเวที รวมทั้งเวที Thailand 2020 #ก้าวข้ามพายุเศรษฐกิจ ที่เครือมติชนประชาขาติธุรกิจเป็นเจ้าภาพด้วย
ประเด็นที่คุณกระทิงพูดถึง… แตกต่างจากช่วงที่ผ่านๆ เพราะเวทีนี้สรุปเปรี้ยงเดียวว่า… ปี 2020 คือปีแห่งการเปลี่ยนแปลงหนักมาก เพราะหลายอย่างถึงเวลาที่จะเกิด Game Change… คุณกระทิงเรียกปี 2020 ว่าปี The End Game ที่หมายถึงปีหน้ายังไงก็ต้องปรับ หมดเวลาเตรียมจะปรับตัวและเตรียมตัวแล้ว… ส่วนรอดไม่รอดหลังปรับอีกเรื่องหนึ่ง… แต่ไม่ปรับคงรอดยาก… ถ้าสนใจลองดูคลิปที่ผมแนบไว้ได้ครับ
เรื่องเทคนิคหรือเทคโนโลยีผมขอข้ามน๊ะครับ… เพราะประเด็นที่น่าสนใจมากกว่าคือ เป้าหมายที่สิงห์ปืนไว 5 ค่ายจะต้องเล่นเกมส์เร็วเพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดสินเชื่อในปี 2020… และธุรกิจน้อยใหญ่หรือเราท่านจะได้อะไรจากสงครามครั้งนี้
ย้อนมาดูข้อมูลดิบช่วงนี้ในสงครามข่าวที่แถลงตีกินพื้นที่ข้อมูลข่าวสารกันก่อนครับ…
- ปี 2563 ทางธนาคารไทยพาณิชย์ ตั้งเป้าสินเชื่อ digital lending ไว้ที่ประมาณ 8 หมื่นล้านบาท โดยที่ผ่านมายอดการปล่อยสินเชื่อ digital lending ของธนาคาร ทำได้ดีกว่าเป้าหมาย สัดส่วนลูกค้าที่ขอสินเชื่อ digital lending มีมากกว่า 25% ของจำนวนลูกค้าที่ขอสินเชื่อใหม่ในปีนี้ รวมถึงลูกค้าเก่ามีการใช้วงเงินสินเชื่อที่มีอยู่เดิมผ่านช่องทางดิจิทัลมากขึ้น คาดการณ์ว่าภายในสิ้นปี 2562 จะสามารถปล่อยสินเชื่อได้กว่า 45,000 ล้านบาท ด้านคุณภาพสินเชื่อภายหลังอนุมัตินั้นด้อยกว่า portfolio เล็กน้อย เนื่องจากลูกค้าที่สมัครผ่านช่องทางดิจิทัลเป็นกลุ่มที่มีอายุน้อยกว่าหรือประสบการณ์ทำงานน้อยกว่า
- ธนาคารกสิกรไทยตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อดิจิทัลปีหน้า จำนวน 1 แสนล้านบาท… จากสิ้นปีนี้คาดว่าจะอนุมัติสินเชื่อได้ราว 2 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันมียอดอนุมัติเข้ามาแล้ว 1.7 หมื่นล้านบาท โดยกลุ่มเป้าหมายทั้งลูกค้าของธนาคารบนโมบายแอพพลิเคชันเกือบ 12 ล้านคนและอีกส่วนจะมาจากความร่วมมือกับพันธมิตร
- ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อดิจิทัลปีหน้าประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท ที่ผ่านมาเริ่มทำลองตลาดในกลุ่มสินเชื่อบุคคลมีลูกค้าสมัครเข้ามาเกือบ 300 รายอนุมัติไปเพียง 100 ราย โดยพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไปใช้ช่องทางดิจิทัลมากขึ้นจะสนับสนุนการทำธุรกรรมดิจิทัลในปีหน้าให้คึกคักมากกว่าในปีนี้
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ตั้งเป้าหมายว่า… ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ธนาคารจะเริ่มปล่อยสินเชื่อออนไลน์ได้ เบื้องต้นจะเน้นสินเชื่อไม่มีหลักประกัน ทั้งในส่วนของสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อบัตรเครดิต คาดว่าจะมีลูกค้าใหม่ผ่านทางออนไลน์สัดส่วนขยับเพิ่มขึ้นจาก 15% เป็น 30% จากยอดสมัครบัตรใหม่ 2 ล้านบัญชี จะเป็นลูกค้าใหม่ราว 8 แสนบัญชี
- ธนาคารธนชาต ปรับปรุง platform ส่งเสริมการรับสมัครสินเชื่อ online ซึ่งใน 8 เดือนปีนี้มียอดความสนใจลูกค้าสมัครเบื้องต้น ประมาณ 150,000 ใบสมัครโดยมียอดอนุมัติสินเชื่อแล้วประมาณ 5,000 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดทำแผนธุรกิจ
- ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารเริ่มปล่อยสินเชื่อบุคคลผ่านดิจิทัลกลุ่มลูกค้าเพย์โรลล์และกลุ่มร้านค้าที่ใช้คิวอาร์โค้ดโดยเฉพาะผู้มีรายได้ต่อเนื่อง 6 เดือนเกิน 5 หมื่นบาทต่อเดือน วงเงินสินเชื่อ 2-5 เท่าของรายได้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถปล่อยดิจิทัลเลนดิ้งในกลุ่มลูกค้าเพย์โรลล์ ได้ 10% ของลูกค้ากลุ่มนี้ที่มี 2 ล้านราย จากฐานลูกค้าเงินฝากทั้งหมด 17 ล้านบัญชี
โหมโรงกันประมาณนี้ครับ…
ประเด็นก็คือ… ข้อเท็จจริงแล้วสถาบันการเงินทุกแห่ง ผมหมายถึงทั้งธนาคาร ทั้งไฟแนนซ์และประกันภัยด้วยน๊ะครับ… ต่างพร้อมสำหรับลุย Digital Lending กันหมด แม้จะเหลือคิวเอาระบบเข้าทดสอบใน Regulatory Sandbox เพื่อรับใบอนุญาตอีกพอสมควรก็ตาม… แต่ไม่ว่าจะยังไง ระบบจากทุกสถาบันการเงินจะผ่านการอนุมัติค่อนข้างแน่… ผมกล้ายืนยันเพราะว่า บริษัท เนชั่นแนลดิจิทัล ไอดี จำกัด หรือ NDID และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA ที่เป็นต้นทางของการยืนยันตัวตนบุคคลทางดิจิตอลหรือ National Digital ID หรือ NDID… พร้อมสำหรับให้สมาชิกเชื่อมต่อมาพักใหญ่ๆ แล้ว
คนอสังหาเตรียมตัวยังไงกันบ้างครับ… พี่น้องท่านไหนทำอะไรยังไง เตรียมตัวยังไงกันบ้าง… ค่ายใหญ่ๆ ที่ปลั๊กกับธนาคารอยู่แล้วคงพูดคุยกันมาระยะหนึ่งแล้ว เรื่องการยื่นกู้ลูกค้าอสังหาผ่าน Digital Lending Platform… แล้วท่านอื่นๆ หล่ะครับ?… ส่งข่าวทาง Line @properea มาเล่าให้ฟังบ้างก็ดีครับ… เผื่อมีอะไรช่วยเหลือดูแลแลกเปลี่ยนระหว่างกัน
ขอบคุณที่ติดตาม Properea ครับ!