ศตวรรษที่ 21 เป็นห้วงเวลาที่มนุษยชาติได้มาถึงยุคของการก้าวข้าม “ข้อจำกัดโดยธรรมชาติ” ได้มากมายโดยมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มนุษย์คิดค้นและดัดแปลงขึ้น เพื่อแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อจำกัดเดิมๆ ให้กลายเป็นโอกาสใหม่ๆ ซึ่งโลกที่เคยเป็นอยู่กันมา ก็จะไม่มีวันกลับไปเหมือนเดิมอีก ถึงแม้จะเพิ่งผ่านมาเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้าก็ตาม
เทคโนโลยีและนวัตกรรมในระดับที่พามนุษย์ก้าวข้าม “ข้อจำกัดโดยธรรมชาติ” มีชื่อเรียกเป็นการเฉพาะว่า Deep Technology หรือ DeepTech ซึ่งใช้เรียกวิทยาการที่พัฒนาขึ้นจนประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ โดยท้าทายข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมที่เคยเป็นข้อจำกัดมาก่อน และ สร้างผลกระทบอันเป็นคุณูปการต่อความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม ในขั้นการประยุกต์สู่เชิงพาณิชย์
เมื่อมีการพูดถึงธุรกิจที่ทำ DeepTech โดยเฉพาะ DeepTech StartUp… ปัจจุบันถือว่าดึงดูดนักลงทุนทั้งที่เป็นนักลงทุนสถาบัน และ นักลงทุนที่เป็น VC หรือ Venture Capital อย่างมาก ซึ่งผู้จัดการกองทุนเหล่านี้จะรู้ลึกซึ้งดีถึงผลตอบแทนการลงทุนใน DeepTech ที่มักจะเห็นการเติบโตของเงินลงทุนระดับ 1,000 เท่าขึ้นไปเป็นอย่างน้อย แถมอัตราความล้มเหลวก็แทบจะไม่มีให้ประสบพบเจออีกต่างหาก
ก่อนอื่นจึงต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า… DeepTech Business Model ที่กำลังก้าวหน้าทั้งในมิติของวิทยาการ และ กำลังเป็นที่สนใจของนักลงทุนอยู่ในปัจจุบันนั้นมีกี่ประเภท…
- Quantum Computing… เป็นเทคโนโลยีการประมวลผลอ้างอิงหลักการทางกลศาสตร์ควอนตัม Quantum Mechanics ซึ่งจะแตกต่างจากการประมวลผลเชิงตรรกะแบบคอมพิวเตอร์ที่มีใช้กันอยู่ทั่วไปในปัจจุบัน โดย Quantum Computer จะเข้ามามีบทบาทในการประมวลผลข้อมูลปริมาณมากและมีซับซ้อนเชิงโครงสร้างข้อมูลที่ไม่เป็นตรรกะ
- AI หรือ Artificial Intelligence หรือ ปัญญาประดิษฐ์… เป็นโมเดลการพัฒนาพัฒนาข้อมูลและระบบวิเคราะห์สังเคราะห์ข้อมูลเพื่อการประมวลผลต่อเนื่อง ซึ่งก้าวข้ามการวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณมากพร้อมเงื่อนไขประกอบเพื่อวิเคราห์และสังเคราะห์เป็นข้อมูลชุดใหม่ พร้อมกลไกการเรียนรู้ สืบค้นของเครื่องกลปัญญาประดิษฐ์ หรือ Machine Learning ซึ่งจะปลดล็อคให้ AI ไม่ต้องรอการป้อนข้อมูลจากมนุษย์อีกต่อไป
- AR/VR หรือ Augmented Reality / Virtual Reality… เป็นเทคโนโลยีภาพสามมิติเพื่อการนำเสนอภาพเสมือนจริง ทั้งสำหรับการสื่อสารชั้นสูงและความบันเทิง ซึ่งจะทำให้จินตนาการของมนุษย์ และ AI ถูกทำให้เห็นเป็น “สาร หรือ Message” อันทรงประสิทธิภาพต่อสติปัญญาและการรับรู้ไปอีกขึ้น
- IoT หรือ Internet of Things… เป็นโมเดลการพัฒนาเครื่องกลอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถทำงานร่วมกับข้อมูลทั้ง Input/Output โดยครอบคลุมเครื่องมือเพื่อการตรวจวัด หรือ Sensors ไปจนถึงจักรกลที่ใช้ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลภายนอกข้ามเครือข่าย และหรือ เชื่อมโยงผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต และ โครงข่ายสัญญาณสื่อสารอื่นๆ ที่มนุษย์จะพัฒนาขึ้นใช้อีกมากในอนาคต… โดย IoT จะเป็นกลไกหลักในการป้อนข้อมูลให้ทั้ง AI แล ML รวมทั้ง Data Warehouse นั่นเอง
- Blockchain… เป็นเทคโนโลยีฐานข้อมูลที่บันทึกพร้อมการประมวลผลด้วยการเข้ารหัส หรือ Encryption เพื่อให้ข้อมูลถูกจัดเก็บอย่างปลอดภัย และ เชื่อถือได้สูงสุดจนสามารถใช้พัฒนาใช้กับเอกสารสัญญา แบบที่เรียกว่า Smart Contract ได้ด้วยความโปร่งใสที่สุด และยังสามารถใช้เป็นหลักฐานทางบัญชีที่โปร่งใสไว้ใจได้สูงสุด เพราะสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ทั้งหมด และ ไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการทางบัญชี หรือ Ledger รวมทั้งรายการเดินบัญชี หรือ Statement ได้เลย
- Biotech หรือ เทคโนโลยีชีวภาพ… เป็นโมเดลทางเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตเพื่อมุ่งเป้า “อาหาร และ การแพทย์” เป็นสำคัญ ซึ่งครอบคลุมการเพาะพันธุ์พืชและเลี้ยงสัตว์ด้วยเทคนิคเฉพาะที่พัฒนาขึ้นใหม่ ตั้งแต่การเพาะและเลี้ยงในระดับเซลล์ไปจนถึงการเก็บเกี่ยวแปรรูป ทั้งเพื่อบริโภคและซ่อมสร้างเยียวยาจน “คุณภาพชีวิต” ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น
- Robotics หรือ หุ่นยนต์… อันเป็นเทคโนโลยีเครื่องกลชั้นสูงที่สามารถทำงานซับซ้อนและละเอียดอ่อนที่มนุษย์ไม่เคยทำได้มาก่อน หรือ ที่มนุษย์ได้ไม่ดีอย่างที่ควร โดยวิทยาการหุ่นยนต์จะเข้ามาเสริมการทำภารกิจที่มนุษย์อยากได้ผลงานแต่ไม่อยากรับภาระทำงานส่วนนั้นทั้งหมด
- Energy Technology หรือ เทคโนโลยีพลังงาน… เป็นโมเดลการพัฒนาและนำใช้พลังงานแบบใหม่ที่สะอาดกว่า ยั่งยืนกว่า และ ก้าวข้ามการใช้ไฟและการสันดาบโดยตรง ที่มนุษย์รู้จักและใช้เป็นมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์
- Advanced Materials หรือ วัสดุชั้นสูง… เป็นโมเดลการพัฒนาวัสดุสังเคราะห์ใหม่ จากวัตถุดิบและเทคโนโลยีที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งขบวนการ เพื่อใช้แก้ปัญหาข้อจำกัดทางวัสดุที่เคยได้จากสินแร่เท่าที่มีโดยธรรมชาติ รวมทั้งข้อจำกัดการแปรรูป
- Spacetech หรือ เทคโนโลยีอวกาศ… เป็นโมเดลโครงสร้างพื้นฐาน หรือ Infrastructure เพื่อรองรับการเดินทางและขนส่ง รวมทั้งอพยพโยกย้ายถิ่นที่อยู่ข้ามดวงดาว ซึ่งต้องการองค์ความรู้และวิทยาการที่มนุษย์ยังไม่เข้าใจและไม่รู้จักอีกมา
ประเด็นเป็นแบบนี้ครับ… ประเภทของ DeepTech และ DeepTech Business Model ที่กล่าวมาทั้ง 10 กลุ่มคร่าวๆ นี้ ในทางเทคนิคเป็นเพียงการแบ่งกลุ่มเพื่อให้เห็นที่มาที่ไป หรือ เป้าประสงค์ของโมเดลการพัฒนาเท่านั้น แต่ในทางการจัดการและการผลักดันในระดับการลงทุนจริง… นักลงทุนที่สนใจ DeepTech และ นักพัฒนา DeepTech ส่วนใหญ่รู้ดีว่า การทำ DeepTech ต้องการวิทยาการชั้นสูงหลายแขนงมาผสมผสานบูรณาการให้อยู่บนโมเดลเดียวกันเป็นส่วนใหญ่
ที่สำคัญคือ… โมเดลแต่ละประเภทยังสามารถมีรายละเอียดในการปรับใช้กับเป้าหมายเฉพาะได้อย่างหลากหลาย ตัวอย่างกรณีของ Advanced Materials สำหรับประยุกต์ใช้ในทางการแพทย์และทันตกรรม กับ Advanced Materials ในเทคโนโลยีก่อสร้างและการพิมพ์สิ่งก่อสร้าง ก็ยังสามารถแตกย่อยสาขาและเทคโนโลยีออกไปได้อีกมาก… ส่วนกรณีของ Energy Technology ซึ่งใกล้ชิดและบูรณาการร่วมกับ IoT และยังมี Photovoltaics Technology ซึ่งเป็นผลผลิตของ Advanced Materials เช่นกัน
ส่วนประเด็นที่น่าสนใจอย่างมากก็คือ… บทความและข้อมูลจากสำนักวิจัยและที่ปรึกษาทางธุรกิจใหญ่ๆ ทั่วโลก ต่างพูดถึงการลงทุนและยุทธศาสตร์ปี 2022 ที่ธุรกิจน้อยใหญ่ปักเป้าหมายไว้กับ DeepTech โดยมีข้อมูลชี้ชัดไม่ต่างกันว่า… DeepTech จะเป็นสงครามการค้าที่ดุเดือดที่สุดระหว่างจีนรัสเซีย กับ สหรัฐอเมริกาและพันธมิตร
ส่วนประเทศไทย… ถึงจะไม่โดดเด่นอะไรในเวทีโลก แต่ข้อมูลในมือผมก็มีหลายพัฒนาการ ถือว่ายังมีหวังกว่ายุค “ผลิตงานวิจัยที่ไม่มีใครได้กินได้ใช้” และ หนักหนาถึงขั้นคนทำก็ยังกลัวจะได้กินได้ใช้อีกต่างหาก!
References…