DeepTech 2022… ข้อมูลเบื้องต้น

Deep Tech

ศตวรรษที่ 21 เป็นห้วงเวลาที่มนุษยชาติได้มาถึงยุคของการก้าวข้าม “ข้อจำกัดโดยธรรมชาติ” ได้มากมายโดยมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มนุษย์คิดค้นและดัดแปลงขึ้น เพื่อแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อจำกัดเดิมๆ ให้กลายเป็นโอกาสใหม่ๆ ซึ่งโลกที่เคยเป็นอยู่กันมา ก็จะไม่มีวันกลับไปเหมือนเดิมอีก ถึงแม้จะเพิ่งผ่านมาเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้าก็ตาม

เทคโนโลยีและนวัตกรรมในระดับที่พามนุษย์ก้าวข้าม “ข้อจำกัดโดยธรรมชาติ” มีชื่อเรียกเป็นการเฉพาะว่า Deep Technology หรือ DeepTech ซึ่งใช้เรียกวิทยาการที่พัฒนาขึ้นจนประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ โดยท้าทายข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมที่เคยเป็นข้อจำกัดมาก่อน และ สร้างผลกระทบอันเป็นคุณูปการต่อความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม ในขั้นการประยุกต์สู่เชิงพาณิชย์

เมื่อมีการพูดถึงธุรกิจที่ทำ DeepTech โดยเฉพาะ DeepTech StartUp… ปัจจุบันถือว่าดึงดูดนักลงทุนทั้งที่เป็นนักลงทุนสถาบัน และ นักลงทุนที่เป็น VC หรือ Venture Capital อย่างมาก ซึ่งผู้จัดการกองทุนเหล่านี้จะรู้ลึกซึ้งดีถึงผลตอบแทนการลงทุนใน DeepTech ที่มักจะเห็นการเติบโตของเงินลงทุนระดับ 1,000 เท่าขึ้นไปเป็นอย่างน้อย แถมอัตราความล้มเหลวก็แทบจะไม่มีให้ประสบพบเจออีกต่างหาก

ก่อนอื่นจึงต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า… DeepTech Business Model  ที่กำลังก้าวหน้าทั้งในมิติของวิทยาการ และ กำลังเป็นที่สนใจของนักลงทุนอยู่ในปัจจุบันนั้นมีกี่ประเภท…

  1. Quantum Computing… เป็นเทคโนโลยีการประมวลผลอ้างอิงหลักการทางกลศาสตร์ควอนตัม Quantum Mechanics ซึ่งจะแตกต่างจากการประมวลผลเชิงตรรกะแบบคอมพิวเตอร์ที่มีใช้กันอยู่ทั่วไปในปัจจุบัน โดย Quantum Computer จะเข้ามามีบทบาทในการประมวลผลข้อมูลปริมาณมากและมีซับซ้อนเชิงโครงสร้างข้อมูลที่ไม่เป็นตรรกะ
  2. AI หรือ Artificial Intelligence หรือ ปัญญาประดิษฐ์… เป็นโมเดลการพัฒนาพัฒนาข้อมูลและระบบวิเคราะห์สังเคราะห์ข้อมูลเพื่อการประมวลผลต่อเนื่อง ซึ่งก้าวข้ามการวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณมากพร้อมเงื่อนไขประกอบเพื่อวิเคราห์และสังเคราะห์เป็นข้อมูลชุดใหม่ พร้อมกลไกการเรียนรู้ สืบค้นของเครื่องกลปัญญาประดิษฐ์ หรือ Machine Learning ซึ่งจะปลดล็อคให้ AI ไม่ต้องรอการป้อนข้อมูลจากมนุษย์อีกต่อไป
  3. AR/VR หรือ Augmented Reality / Virtual Reality… เป็นเทคโนโลยีภาพสามมิติเพื่อการนำเสนอภาพเสมือนจริง ทั้งสำหรับการสื่อสารชั้นสูงและความบันเทิง ซึ่งจะทำให้จินตนาการของมนุษย์ และ AI ถูกทำให้เห็นเป็น “สาร หรือ Message” อันทรงประสิทธิภาพต่อสติปัญญาและการรับรู้ไปอีกขึ้น
  4. IoT หรือ Internet of Things… เป็นโมเดลการพัฒนาเครื่องกลอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถทำงานร่วมกับข้อมูลทั้ง Input/Output โดยครอบคลุมเครื่องมือเพื่อการตรวจวัด หรือ Sensors ไปจนถึงจักรกลที่ใช้ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลภายนอกข้ามเครือข่าย และหรือ เชื่อมโยงผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต และ โครงข่ายสัญญาณสื่อสารอื่นๆ ที่มนุษย์จะพัฒนาขึ้นใช้อีกมากในอนาคต… โดย IoT จะเป็นกลไกหลักในการป้อนข้อมูลให้ทั้ง AI แล ML รวมทั้ง Data Warehouse นั่นเอง
  5. Blockchain… เป็นเทคโนโลยีฐานข้อมูลที่บันทึกพร้อมการประมวลผลด้วยการเข้ารหัส หรือ Encryption เพื่อให้ข้อมูลถูกจัดเก็บอย่างปลอดภัย และ เชื่อถือได้สูงสุดจนสามารถใช้พัฒนาใช้กับเอกสารสัญญา แบบที่เรียกว่า Smart Contract ได้ด้วยความโปร่งใสที่สุด และยังสามารถใช้เป็นหลักฐานทางบัญชีที่โปร่งใสไว้ใจได้สูงสุด เพราะสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ทั้งหมด และ ไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการทางบัญชี หรือ Ledger รวมทั้งรายการเดินบัญชี หรือ Statement ได้เลย
  6. Biotech หรือ เทคโนโลยีชีวภาพ… เป็นโมเดลทางเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตเพื่อมุ่งเป้า “อาหาร และ การแพทย์” เป็นสำคัญ ซึ่งครอบคลุมการเพาะพันธุ์พืชและเลี้ยงสัตว์ด้วยเทคนิคเฉพาะที่พัฒนาขึ้นใหม่ ตั้งแต่การเพาะและเลี้ยงในระดับเซลล์ไปจนถึงการเก็บเกี่ยวแปรรูป ทั้งเพื่อบริโภคและซ่อมสร้างเยียวยาจน “คุณภาพชีวิต” ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น
  7. Robotics หรือ หุ่นยนต์… อันเป็นเทคโนโลยีเครื่องกลชั้นสูงที่สามารถทำงานซับซ้อนและละเอียดอ่อนที่มนุษย์ไม่เคยทำได้มาก่อน หรือ ที่มนุษย์ได้ไม่ดีอย่างที่ควร โดยวิทยาการหุ่นยนต์จะเข้ามาเสริมการทำภารกิจที่มนุษย์อยากได้ผลงานแต่ไม่อยากรับภาระทำงานส่วนนั้นทั้งหมด
  8. Energy Technology หรือ เทคโนโลยีพลังงาน… เป็นโมเดลการพัฒนาและนำใช้พลังงานแบบใหม่ที่สะอาดกว่า ยั่งยืนกว่า และ ก้าวข้ามการใช้ไฟและการสันดาบโดยตรง ที่มนุษย์รู้จักและใช้เป็นมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์
  9. Advanced Materials หรือ วัสดุชั้นสูง… เป็นโมเดลการพัฒนาวัสดุสังเคราะห์ใหม่ จากวัตถุดิบและเทคโนโลยีที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งขบวนการ เพื่อใช้แก้ปัญหาข้อจำกัดทางวัสดุที่เคยได้จากสินแร่เท่าที่มีโดยธรรมชาติ รวมทั้งข้อจำกัดการแปรรูป
  10. Spacetech หรือ เทคโนโลยีอวกาศ… เป็นโมเดลโครงสร้างพื้นฐาน หรือ Infrastructure เพื่อรองรับการเดินทางและขนส่ง รวมทั้งอพยพโยกย้ายถิ่นที่อยู่ข้ามดวงดาว ซึ่งต้องการองค์ความรู้และวิทยาการที่มนุษย์ยังไม่เข้าใจและไม่รู้จักอีกมา

ประเด็นเป็นแบบนี้ครับ… ประเภทของ DeepTech และ DeepTech Business Model ที่กล่าวมาทั้ง 10 กลุ่มคร่าวๆ นี้ ในทางเทคนิคเป็นเพียงการแบ่งกลุ่มเพื่อให้เห็นที่มาที่ไป หรือ เป้าประสงค์ของโมเดลการพัฒนาเท่านั้น แต่ในทางการจัดการและการผลักดันในระดับการลงทุนจริง… นักลงทุนที่สนใจ DeepTech และ นักพัฒนา DeepTech ส่วนใหญ่รู้ดีว่า การทำ DeepTech ต้องการวิทยาการชั้นสูงหลายแขนงมาผสมผสานบูรณาการให้อยู่บนโมเดลเดียวกันเป็นส่วนใหญ่

ที่สำคัญคือ… โมเดลแต่ละประเภทยังสามารถมีรายละเอียดในการปรับใช้กับเป้าหมายเฉพาะได้อย่างหลากหลาย ตัวอย่างกรณีของ Advanced Materials สำหรับประยุกต์ใช้ในทางการแพทย์และทันตกรรม กับ Advanced Materials ในเทคโนโลยีก่อสร้างและการพิมพ์สิ่งก่อสร้าง ก็ยังสามารถแตกย่อยสาขาและเทคโนโลยีออกไปได้อีกมาก… ส่วนกรณีของ Energy Technology ซึ่งใกล้ชิดและบูรณาการร่วมกับ IoT และยังมี Photovoltaics Technology ซึ่งเป็นผลผลิตของ Advanced Materials เช่นกัน

ส่วนประเด็นที่น่าสนใจอย่างมากก็คือ… บทความและข้อมูลจากสำนักวิจัยและที่ปรึกษาทางธุรกิจใหญ่ๆ ทั่วโลก ต่างพูดถึงการลงทุนและยุทธศาสตร์ปี 2022 ที่ธุรกิจน้อยใหญ่ปักเป้าหมายไว้กับ DeepTech โดยมีข้อมูลชี้ชัดไม่ต่างกันว่า… DeepTech จะเป็นสงครามการค้าที่ดุเดือดที่สุดระหว่างจีนรัสเซีย กับ สหรัฐอเมริกาและพันธมิตร

ส่วนประเทศไทย… ถึงจะไม่โดดเด่นอะไรในเวทีโลก แต่ข้อมูลในมือผมก็มีหลายพัฒนาการ ถือว่ายังมีหวังกว่ายุค “ผลิตงานวิจัยที่ไม่มีใครได้กินได้ใช้” และ หนักหนาถึงขั้นคนทำก็ยังกลัวจะได้กินได้ใช้อีกต่างหาก!

References…

Share this post

Add Properea's Friend

เพิ่ม Properea.com เป็นเพื่อนทาง Line
ท่านจะได้ Link บทความใหม่ส่งตรงให้อย่างสม่ำเสมอโดยรบกวนแต่น้อย

Related Post

people wearing diy masks

PM 2.5 ฤดู 2020–2021

สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในเช้าวันอาทิตย์อย่างนี้ครับ จะเห็นว่าเยอะขึ้นตามคาดนะ ก็เชื่อว่า ถ้าไม่มีฝนหรือกระแสลมแรงมาช่วย ฝุ่นก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ (ถ้าดูใน app AirVisual จากที่เข้าสู่สีเหลือง ก็จะเป็นสีส้มและสีแดงในที่สุด)

ดังนั้น ถ้าใครยังไม่มีแอพพลิเคชั่นพวกนี้ (Air visual ด้านขวา และ Air4Thai ด้านซ้าย) ก็ควรจะติดตั้งในเครื่องไว้นะครับ จะได้สามารถตรวจสอบแบบ real time ได้ว่าขณะนี้ฝุ่นเยอะแค่ไหน ควรใส่หน้ากากN95หรือยัง

BTC Dominance

สถาพทั่วไปของเงินลงทุนในตลาดทุนใดๆ ก็มักจะมี “ปริมาณ หรือ มูลค่ารวม” ที่รวบรวมได้ไม่ยากจากการเอาตัวเลขมูลค่าทางการตลาด หรือ Market Capital ของสินทรัพย์ และหรือ หลักทรัพย์ทุกตัวในตลาดเดียวกันมาบวกกันเท่านั้นเอง… และ ธรรมชาติในสภาพทั่วไปของเงินลงทุนในตลาดทุนใดๆ ก็มักจะไหลไป–ไหลมาระหว่างหลักทรัพย์ หรือ สินทรัพย์ในตลาดเดียวกัน และหรือ ระบบนิเวศเดียวกันเสมอ… ในตลาดคริปโตที่มีสินทรัพย์ลงทุนเป็น Bitcoin และ Altcoin ทั้งหมดก็มีสภาพโดยธรรมชาติของการไหลไป–ไหลมาระหว่าง Bitcoin และ Altcoin เช่นกัน… นักลงทุนและนักวิเคราะห์หลักทรัพย์จึงได้พัฒนาดัชนี BTC Dominance หรือ Market Cap BTC Dominance ขึ้นใช้เพื่อติดตามว่าเงินทุนในตลาดคริปโตกำลังถูกโยกย้ายไป Bitcoin และ Altcoin มากกว่ากัน… ถ้าเปอร์เซนต์สัดส่วนฝั่ง Bitcoin เพิ่มขึ้นก็หมายถึงราคาบิตคอยน์กำลังขึ้น และ ราคา Altcoin บางตัวน่าจะกำลังถูกขายโดยนักลงทุนเพื่อเอาเงินกลับเข้มมาที่กระดานบิตคอยน์แทน

สถานการณ์ค่าเงินบาท… อืมมมส์

นับตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายปี 2018 เป็นต้นมา สถานการณ์ค่าเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักของโลก ก็พาเรากลับมาเห็นอัตราแลกเปลี่ยนระดับ 30 บาทเศษต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้… หากเราดูตัวเลขย้อนหลังช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ช่วงที่อ่อนค่าที่สุดคือเดือนตุลาคม 2558 ค่าเงินบาทอยู่ที่ 36.42 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เคลื่อนไหวไม่ต่ำกว่า 35 บาท จนเดือนมีนาคม 2560 ค่าเงินเริ่มแข็งค่ามาอยู่ที่ 34.00 บาทต่อดอลาร์สหรัฐ และแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันเดือนกันยายน

Data Visualization and Building Dashboards with Excel and IBM Cognos

แนวทางการบริหารจัดการด้วยข้อมูล หรือ การขับเคลื่อนด้วยข้อมูล หรือ Data Driven ซึ่งได้กลายเป็นความจำเป็นพื้นฐานที่ทุกๆ เป้าหมายจำเป็นต้องมี “ข้อมูล หรือ Data” ที่ถูกต้อง แม่นยำ และ เป็นปัจจุบันที่สุดเอาไว้ตัดสินใจ ซึ่งข้อมูลที่พร้อมใช้อย่างแท้จริงจะหมายถึงข้อมูลที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นสารสนเทศ หรือ Information แล้วเท่านั้น โดยเทคนิคการเปลี่ยนข้อมูลให้เป็น Information ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือการสร้างแดชบอร์ด หรือ Dashboard เอาไว้แสดงข้อมูลในรูปแบบสารสนเทศที่มี