ในอดีตที่ฮ่องกงยังเป็นเขตเช่าของอังกฤษ… ฮ่องกงมีความรุ่งโรจน์ในฐานะศูนย์กลางทางการค้า และ การลงทุนของเอเชีย และ ตะวันออกไกลโดยไร้คำถาม แต่พลันที่ฮ่องกงหมดพันธะกลับคืนเป็นของจีนแผ่นดินใหญ่ ก็ได้ถูกความวุ่นวายทางการเมืองทำลายโอกาสจากรากฐานความรุ่งเรืองเฟื่องฟูแบบเดิมไปหมดสิ้น… ฐานะศูนย์กลางทางการค้า และ การลงทุนของเอเชียจึงถูกย้ายมาสิงคโปร์ที่เป็นกลาง และ เปิดกว้างรออยู่ก่อน… อนาคตของฮ่องกงนับจากนี้จึงต้องมองหาโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจเพื่อนำศักยภาพทางเศรษฐกิจของฮ่องกงกลับคืนมา โดยฮ่องกงกำลังทำหลายอย่างเพื่อจะกลับมายิ่งใหญ่ในฐานะ “ศูนย์กลางคริปโตโลก” เพื่อเป็นที่หนึ่งอีกครั้ง!
รายงานข่าวจาก South China Morning Post ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ปี 2022 ระบุว่า… สถาบันการเงินจากจีนแผ่นดินใหญ่กำลังพิจารณาจะกลับมาให้บริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัลในเขตบริหารพิเศษฮ่องกงอีกครั้ง หลังจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของจีนสั่งปราบปรามการขุด และ ห้ามการซื้อขายสินทรัพย์ดังกล่าวก่อนหน้านั้น… โดยรัฐบาลจีนมองว่าคริปโตเคอร์เรนซี หรือ Cryptocurrency เป็นภัยต่อความมั่นคงทางการเงิน และ ห้ามไม่ให้ธนาคารทุกแห่งเปิดให้ประชาชนทำธุรกรรมเกี่ยวกับสินทรัพย์ดังกล่าวทุกประเภท
ในขณะเดียวกัน… ฮ่องกงซึ่งประสบกับความท้าทายมากมาย ทั้งมาตรการการเดินทางที่เข้มงวดจากวิกฤตโควิด และ การจัดการภายในด้านความมั่นคงอันส่งผลให้เศรษฐกิจภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษฮ่องกงถดถอย… การเร่งออกนโยบายจำนวนมากเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ… โดยเฉพาะการผลักดันนโยบายเพื่อจะเป็น “ศูนย์กลางคริปโตเคอร์เรนซี” โดยริเริ่มการออกใบอนุญาตสำหรับผู้ให้บริการรายใหญ่เพื่อให้บริการสกุลเงินดิจิทัลให้ผู้ค้ารายย่อย
Robert Lui หรือ โรเบิร์ต ลุ่ย หัวหน้าฝ่ายสินทรัพย์ดิจิทัล Deloitte China เคยเปิดเผยข้อมูลในงาน Hong Kong’s FinTech Week 2022 ว่า… ธนาคารขนาดใหญ่ในจีนจำนวนหนึ่งเตรียมกลับมาให้บริการด้านสกุลเงินดิจิทัลในฮ่องกง โดยหนึ่งในนั้นคือบริการซื้อและขายคริปโตเคอร์เรนซี
โรเบิร์ต ลุ่ย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า สถาบันการเงินหลักของจีนบางแห่งได้พัฒนาสินทรัพย์ NFT หรือ Non-Fungible Token รวมทั้งพัฒนาธุรกิจเกี่ยวกับเมตาเวิร์ส หรือ Metaverse เพื่อทำธุรกิจในเขตเศรษฐกิจพิเศษฮ่องกงอยู่แล้ว… แต่ความไม่ชัดเจนของมาตรการจากรัฐบาลกลางที่ยังไม่ชัดเจน ทำให้หลายธุรกิจต้องชะลอโครงการออกไปก่อน… แต่ทางการก็ได้ออกนโยบายที่จะอนุญาตให้ชาวฮ่องกงซื้อขาย Cryptocurrencies ได้ในท้ายที่สุด
นอกจากนั้น… รัฐบาลยังมีแผนการศึกษาวิธีการพัฒนาการซื้อขาย ETF หรือ Exchange-Traded Funds หรือ กองทุนรวมดัชนีที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ผ่านตลาด Cryptocurrencies รวมทั้งปรับใช้กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา ให้เข้ากับระบบ สัญญาอัจฉริยะ หรือ Smart Contract และ โทเคนดิจิทัลด้วย
ข้อมูลจาก South China Morning Post รายงานว่า… Christopher Hui ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังฮ่องกงยืนยันว่า… รัฐบาลฮ่องกงมองเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ หรือ Distributed Ledger Technology หรือ DLT ซึ่งใช้กับสกุลเงินดิจิทัล และ แนวคิดการใช้งาน WEB 3.0 ที่เอื้อให้ผู้ใช้งานถือสิทธิความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์… ถือเป็นอนาคตของระบบการเงินการธนาคาร
ด้าน Elizabeth Wong ในฐานะผู้อํานวยการฝ่ายออกใบอนุญาตของ The Securities and Futures Commission หรือ SFC หรือ สํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ก็ได้ยืนยันเช่นกันว่า… แม้ฮ่องกงจะต้องยึดหลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ทว่าจุดยืนของเราต่อ Cryptocurrencies แยกขาดจากจุดยืนของจีนแผ่นดินใหญ่อย่างชัดเจน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2023… The Securities and Futures Commission หรือ SFC ของฮ่องกงได้ร่างระบบใบอนุญาตการดำเนินธุรกิจคริปโตฉบับใหม่ที่เสนอให้การแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์ทั้งหมดที่ทำงานในภูมิภาคนี้ ต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแล… โดยเสนอให้ผู้ค้าปลีกเข้าถึงแพลตฟอร์มการซื้อขาย Cryptocurrency ที่ได้รับอนุญาต… โดยการดำเนินการในครั้งนี้ได้อ้างอิงความคิดเห็นสาธารณะที่เน้นว่า การปฏิเสธการเข้าถึงตลาดคริปโต อาจผลักดันให้ชาวฮ่องกงซื้อขายคริปโตกับแพลตฟอร์มต่างประเทศที่ไม่ได้รับการควบคุม
ความเคลื่อนไหวนี้ได้ผลักดัน และ กระตุ้นให้ธุรกิจคริปโตจำนวนมากแสวงหาการขยายตัวในเขตเศรษฐกิจพิเศษฮ่องกงอย่างคึกคัก… เช่นกรณีของ Huobi Global ซึ่งเป็นกระดานเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลสัญชาติจีนซึ่งออกมายืนยันเชิงตอบรับข่าวทันทีว่า พวกเขาจะขอใบอนุญาตในประเทศ และ วางแผนที่จะเปิดการแลกเปลี่ยนใหม่เฉพาะในฮ่องกง โดยมุ่งเน้นไปที่สถาบัน และ กลุ่มนักลงทุนรายบุคคลที่มีความมั่งคั่งสูงก่อน
References…