แรงงานก่อสร้างขาดแคลน… แรงงานภาคเกษตรฤดูเพาะปลูกก็ขาดแคลน ซึ่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. มีมติเห็นชอบดำเนินมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 6 โดยจะอนุญาตให้แรงงานต่างด้าวกลับเข้ามาทำงานในประเทศได้ กว่า 100,000 คน
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พูดถึงกรณีการเปิดพรมแดนรับแรงงานจากเพื่อนบ้านเมียนมา กัมพูชาและลาว
โดยมาตรการหลักเกณฑ์ของการนำแรงงาน 3 สัญชาติ คือ เมียนมา กัมพูชา และลาว เข้ามาในประเทศโดยทางกระทรวงแรงงาน มีความต้องการใช้แรงงานไร้ฝีมือจากทางกัมพูชา ลาว เมียนมา มีความต้องการ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีใบอนุญาตการทำงาน และ มีวีซ่าอยู่แล้ว กลุ่มนี้ต้องการกลับเข้ามาทำงานใหม่ 69,235 คน แล้วแรงงานที่ยังไม่มีเวิร์คเพอร์มิต หรือวีซ่ามาเลย แต่ต้องการที่จะเข้ามา นายจ้างก็ได้มีการยื่นติดต่อกันแล้ว 42,168 คน กระทรวงแรงงานคงจะได้นำข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามาพิจารณา
อย่างไรก็ตาม นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ยังไม่ได้ระบุว่า จะอนุญาตแรงงานและชาวต่างชาติเข้าประเทศได้เมื่อใด แต่หน่วยงานของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการเตรียมการ
ผมตัดข่าวเฉพาะที่ นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธินพูดถึง “แรงงานไร้ฝีมือ” จากเพื่อนบ้านซึ่งเป็นกำลังหลักในอุตสาหกรรมก่อสร้างและแรงงานภาคเกษตรตามฤดูกาล เพราะอย่างที่ทราบๆ กันว่า… งานก่อสร้างในบ้านเรา แค่เฉพาะโครงการใหญ่ๆ ก็ต้องการแรงงานมากมายเพื่อผลักดันโครงสร้างพื้นฐานของชาติ ที่หลายโครงการรอไม่ได้เช่นกันเพราะแผนงานใหญ่ของชาติมีหมุดหมายชัดเจนหมดแล้ว
ที่จะบอกก็คือ… งานก่อสร้างในปัจจุบันได้รับผลกระทบจากแรงงานขาดแคลนอย่างชัดเจนแล้ว จะต่ออายุใบอนุญาต หรือเปิดด่านรับแรงงานกลับก็รีบทำเถอะครับ อย่างน้อยๆ โครงการใหญ่ๆ ทั้งหลายที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ก็น่าจะช่วยตัวเลขเศรษฐกิจตกต่ำเกินคาดได้อีกหน่อย
ก็ยังดี!!!
อ้างอิง