ศักยภาพของกัญชาในฐานะพืชเศรษฐกิจ…

Cannabis Greenhouse

ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมที่มีพืชเศรษฐกิจหลายตัวผลักดันผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ หรือ GDP ของประเทศมานาน แต่ในระยะหลังๆ มานี้ สินค้าเกษตรหลายตัวขาดศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลกอย่างชัดเจน โดยเฉพาะข้าว

ประเทศไทยส่งออกข้าวในปริมาณที่น้อยกว่าอินเดียมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้บางฝ่ายที่รายงานสถิติ จะพยายามเอา “มูลค่าการส่งออกข้าว” มายันอันดับแทนการเอา “ปริมาณผลผลิตที่ส่งออก” มาเทียบเคียง เพื่อปลอบใจกันว่าข้าวเราขายได้แพงกว่า คุณภาพดีกว่า ส่งออกในปริมาณน้อยกว่าแต่ได้ราคาดีกว่า

แต่ข้อเท็จจริงก็อย่างที่รู้ๆ กันคือ อันดับการส่งออกข้าวของไทยสิ้นปี 2020 ที่ผ่านมาหลุดไปอยู่อันดับสามเรียบร้อย… ในขณะที่ผู้ส่งออกข้าวอันดับหนึ่งอย่างอินเดียสามารถดันผลผลิตราคาต่ำกว่าออกมาขายแข่งแบบยังไม่ได้ออกแรงด้วยซ้ำ แถมในปี 2021 นี้… รัฐบาลอินเดียมีนโยบายขายข้าวราคาถูกให้ประชาชนแบบคนละราคากับที่ส่งออก… ซึ่งผู้เชี่ยวชาญสินค้าเกษตรส่งออกบางท่านที่ผมได้คุยด้วยฟันธงว่า… อินเดียเผลอทำสต๊อกข้าวราคาถูกในประเทศ หลุดออกต่างประเทศถล่มคู่แข่งแน่ๆ

ข้าวส่งออกของไทยจึงเข้าสู่ขาลงอย่างชัดเจนนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ไม่ว่าจะเอาตัวเลขอะไรมาดูก็คงสู้เขาไม่ได้แล้ว… การมองหาพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ ที่จะเอามาช่วยดันตัวเลข GDP ทดแทนพืชเศรษฐกิจหลักตัวเก่าอย่างข้าว ยางพาราและพืชไร่อีกมากนั้น… จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนสำหรับหลายๆ ฝ่ายที่ต้องร่วมมือกันให้เร็วและเข้มแข็งกว่าที่เป็นมา… โดยเฉพาะการผลักดันกัญชาและผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องจากกัญชาที่ประเทศไทยมีศักยภาพอย่างมาก

มกราคม ปี 2020… ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้เผยแพร่บทวิเคราะห์เกี่ยวกับศักยภาพของกัญชาในฐานะพืชเศรษบกิจตัวใหม่ โดยเผยแพร่เป็นบทความในหัวข้อ “กัญชา” จะกลายเป็นพืชเศรษฐกิจไทยได้หรือไม่? หลังจากที่ความชัดเจนเรื่องการอนุญาตให้ใช้กัญชาอย่างถูกกฎหมาย เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้งการอนุญาตให้สามารถนำบางส่วนของพืชกัญชา มาเป็นวัตถุในอาหารและเครื่องดื่มได้… ซึ่งทั้งหมดเป็นทิศทางและแนวโน้มระดับโลกตลอดสองสามปีก่อนหน้านั้น… 

ปัจจุบัน… หลายประเทศได้รับรองและอนุญาตให้ใช้กัญชาอย่างถูกกฎหมาย โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มการอนุญาต ได้แก่

  1. ประเทศที่รับรองและอนุญาตให้ใช้กัญชาในทางการแพทย์… มี 33 ประเทศ
  2. ประเทศที่รับรองและอนุญาตให้ใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ… มี 6 ประเทศ 
  3. ประเทศที่รับรองและอนุญาตให้ใช้กัญชาอย่างเสรี… มี 3 ประเทศ

สำหรับประเทศไทย… ถือเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่อนุญาตให้ใช้กัญชาอย่างถูกกฎหมายเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และการวิจัยทางวิทยาศาสตร์… ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มที่ 1 มาตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2019 

จากรายงาน The Global Cannabis Report ของ Prohibition Partners ผู้ให้บริการข้อมูลเชิงลึกและที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ชั้นนำระดับโลก คาดว่า… มูลค่าตลาดกัญชาทั่วโลกจะมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 103.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024… แบ่งเป็นตลาดกัญชาเพื่อการแพทย์มีสัดส่วนราวร้อยละ 60 ของมูลค่าตลาดกัญชาทั้งหมด และอีกร้อยละ 40 เป็นตลาดกัญชาเพื่อการสันทนาการ 

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันเริ่มมีกลุ่มทุนอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ของโลก สนใจการใช้สารสกัดจากกัญชาเป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มของตนอย่างกว้างขวาง ส่งผลให้การคาดการณ์ความต้องการในเบื้องหน้า มูลค่าทางการตลาดของผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของกัญชา จะเติบโตและกระจายในหลายธุรกิจอย่างรวดเร็ว

ปัจจุบัน… ตลาดกัญชาถูกกฎหมายของประเทศไทยยังมีมูลค่าน้อยมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นส่วนผสมอยู่ในตำรับยาไทย และ แม้จะมีการปลดล็อคให้มีการใช้กัญชาอย่างถูกกฎหมายแล้ว แต่ก็ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการทดลองทางการแพทย์เพื่อใช้กับผู้ป่วย และยังต้องได้รับการควบคุมดูแลโดยหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ… หากคำนวณค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะค่ายาของผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ในระยะสุดท้าย หรือ ระยะประคับประคอง หรือ Palliative Care จะมีสัดส่วนราวร้อยละ 60-80 ของค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายทั้งหมด โดยมีมูลค่าประมาณ 6,000-8,000 ล้านบาทต่อปี 

หากมีการผลักดันและสนับสนุนให้เกิดการใช้กัญชาทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง และ มีการจำหน่ายในรูปแบบเชิงพาณิชย์ ตลาดกัญชาเพื่อการแพทย์ของไทยน่าจะมีมูลค่าราว 3,600-7,200 ล้านบาทในปี 2021… แม้จะยังมีมูลค่าทางการตลาดน้อยนิดด้วยสัดส่วนเพียงร้อยละ 0.02-0.04 ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP 

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังไม่สามารถประเมินมูลค่าตลาดกัญชาเพื่อการแพทย์ของไทยในระยะกลางถึงยาวได้ เพราะต้องรอผลตอบรับยืนยันผลการการใช้ในทางคลินิคที่ชัดเจนก่อน… โดยประเด็นที่สามารถชี้ขาดอนาคตของกัญชาทางการแพทย์ก็คือ ผลการใช้กัญชาช่วยให้คนไข้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและยาวนานขึ้นอย่างชัดเจน ก็จะทำให้มูลค่าตลาดกัญชาเพื่อการแพทย์ของไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น… ในทางตรงกันข้าม หากผลการใช้กัญชาไม่ได้ช่วยให้คนไข้มีคุณภาพชีวิตที่ดีหรือแตกต่างไปจากเดิม มูลค่าตลาดกัญชาทางการแพทย์ก็อาจจะไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างที่คาด

อนึ่ง… ในกรณีที่ผลการใช้กัญชาช่วยให้คนไข้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและยาวนานขึ้นอย่างชัดเจน… ตัวเลขค่าใช้จ่ายเฉพาะสำหรับดูแลผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ในระยะสุดท้าย หรือ ระยะประคับประคอง หรือ Palliative Care ในหลายสิบประเทศที่รับรองและอนุญาตให้ใช้กัญชาในทางการแพทย์… อาจหมายถึงโอกาสที่กัญชาจะกลายเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ถึงขั้นขับเคลื่อน GDP เป็นเลขเต็มจำนวนของไทยก็เป็นได้… ยิ่งเมื่อเห็นตัวเลขค่าใช้จ่ายดูแลผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายเฉพาะในสหรัฐอเมริกาประเทศเดียวที่สูงระดับแสนล้านบาทต่อปี… โอกาสของกัญชาจึงเหลือทั้งกว้างและยาวไกลอีกแสนไกลสุดท้าทาย

ฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่าอ่อนซ้อมและหน่อมแหน้มทำเป็นแต่ตั้งด่านตรวจจับกินหัวคิวอย่างเดียวก็พอ… ในมือผมตอนนี้มีข้อมูลการเคลื่อนไหวของกองทุนขนาดใหญ่ ที่มองหาการลงทุนบนโอกาสของกัญชาเคลื่อนไหวกันคึกคักมาก… ท่านที่สนใจลงทุนลองปรึกษาไปทางคุณเผ่า ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ที่ Jitta ดูก่อนก็ได้ครับ… ผมเห็นมีกองทุนกัญชาในจิตตะของแกอยู่… ไม่ได้ค่าโฆษณามาพูดถึงหรอกน๊ะครับ แต่ผมเห็นว่ามันเป็นโอกาสของคนไทย… หรือ อยากตะลุยกองทุนกัญชาในต่างประเทศ ทักผมมาทางไลน์ส่วนตัวที่ ID: dr.thum ก็ได้ครับ…

References…

Share this post

Add Properea's Friend

เพิ่ม Properea.com เป็นเพื่อนทาง Line
ท่านจะได้ Link บทความใหม่ส่งตรงให้อย่างสม่ำเสมอโดยรบกวนแต่น้อย

Related Post

Commerce Technology

Anywhere Commerce… การลงทุนครั้งใหม่ของธุรกิจและแบรนด์

ภายใต้แนวคิด Anywhere Commerce จะหมายถึงการลงทุนกับแพลตฟอร์มส่วนตัวของธุรกิจและแบรนด์ ที่เข้าใจและให้ความสำคัญกับการ “ยืนด้วยลำแข้งตัวเอง” เพื่อเข้าสู่การแข่งขันในยุคถัดไป ที่อำนาจการต่อรองของแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ทรงอิทธิพลจากยุค Web 2.0 ได้กลายเป็นอุปสรรคส่วนหนึ่งในโอกาสค้าขายที่ “อาจจะไม่เหมือนเดิม” อีก

คุณวุฒิวิชาชีพนายหน้าค้าที่ดิน โดยสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ

นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ มีความสำคัญในฐานะเป็นคนกลาง… เป็นตัวช่วยที่ดีของการซื้อขาย ทำให้ผู้บริโภคมีความสะดวกสบาย มั่นใจ และมีที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญคอยช่วยเหลือทุกขั้นตอน… ที่สำคัญคือ ช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดช่วงของการซื้อขาย โดยเฉพาะบ้านมือสอง… ที่ต้องมีการตรวจสอบความน่าเชื่อถือ ทั้งสภาพบ้าน เอกสารที่ดิน และเอกสารที่เกี่ยวข้องซึ่งมีความยุ่งยาก…

Aston Martin Hybrid Hydrogen Rapide S… ไฮเปอร์คาร์พลังไฮโดรเจน #สุดสัปดาห์พาดูรถ

การแข่งขัน Nürburgring 24 Hours ฤดูกาลปี 2013 ซึ่งใช้เวลาการแข่งขันในวันที่ 19-20 พฤษภาคม ปี 2013… ถือเป็นฤดูกาลพิเศษที่ถูกพูดถึงอย่างมากจนถึงปัจจุบัน โดยมีตำนานของรถ Aston Martin Rapide S เครื่องยนต์ไฮบริดแบบสันดาปภายใน ที่มาพร้อมความสามารถในการรีดพลังจากน้ำมัน และ เชื้อเพลิงไฮโดรเจน… ถูกปรับแต่งเพื่อลงสนามที่ท้าทายที่สุดโปรแกรมหนึ่งของโลก… โดยเบื้องหลังของ Aston Martin Rapide S แบบ Hybrid Hydrogen ในสนาม Nürburgring ปีนั้นได้ปรากฏเงาของกลุ่มธุรกิจพลังงานไฮโดรเจนจากออสเตรีย ชื่อ Alset Global ซึ่งเป็นผู้ถือสิทธิบัตร Hybrid Hydrogen Technology… อยู่เบื้องหลังทีม Aston Martin อย่างสำคัญ

Aerogels

Aerogel… วัสดุแห่งอนาคต

คุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของ Aerogel ก็คือ ความสามารถในการ “ป้องกันการถ่ายเทความร้อน” ได้ทั้งแบบ Convection หรือ การพาความร้อน… Conduction หรือ การนำความร้อน และแบบ Radiation หรือ การแผ่รังสีความร้อน… Aerogel จึงถูกจัดให้เป็นฉนวนความร้อนที่ดีที่สุดในโลก และมีการใช้ Silica Aerogels และ Carbon Aerogels มาพัฒนาเป็นวัสดุฉนวนในผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมทั้งวัสดุก่อสร้างและตกแต่งซึ่งจะมีบทบาทอย่างมากในอนาคตอันใกล้