ธนาคารแห่งประเทศไทยเปิดเผยข้อมูลจำนวนสาขาและจุดให้บริการของธนาคารพาณิชย์ ล่าสุด ณ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2563 มีจำนวนอยู่ที่ 6,672 แห่ง ลดลง 137 แห่ง จากสิ้นเดือน ธันวาคม พ.ศ. 2562 ที่เคยมี 6,809 แห่ง ซึ่งเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีการปรับลดลงประมาณ 50 สาขา
เมื่อดูตามสังกัดพบว่า ธนาคารไทยพาณิชย์มีการปรับลดสาขาและจุดให้บริการมากที่สุดถึง 80 แห่ง จากสิ้นปี 2562 มีจำนวน 1,034 แห่ง ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2563 ลดลงเหลือ 954 แห่ง… รองลงมาคือ ธนาคารกรุงไทยลดลง 26 แห่ง จาก 1,105 แห่ง ลงมาอยู่ที่ 1,079 แห่ง… และธนาคารกรุงเทพปรับลดลง 11 แห่ง จาก 1,148 แห่ง เหลืออยู่ที่ 1,137 แห่ง
ที่จริงแนวโน้มนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะโมเดลธุรกิจ หรือ Business Model และ โมเดลรายได้ หรือ Revenue Model ของธนาคารไม่ได้มาจาก Customer Journey แบบเดิมอีกแล้ว… และลูกค้าธนาคารเปลี่ยนไปสู่ Digital Banking/Mobile Banking กันหมด
ดูจากตัวเลข Internet Banking เดือนเมษายน พ.ศ. 2563 มีจำนวนบัญชี 30.36 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้นจากเดือน ธันวาคม พ.ศ. 2562 ที่เคยมีอยู่ 29.40 ล้านบัญชี… และปริมาณธุรกรรมเดือน เมษายน อยู่ที่ 77.85 ล้านรายการ เพิ่มจากเดือน ธันวาคม พ.ศ. 2562 มีเพียง 71.50 ล้านรายการ… ส่วนมูลค่าธุรกรรมจากเดือน ธันวาคม พ.ศ. 2562 มีมูลค่า 2.45 ล้านล้านบาท ในช่วงเดือน มีนาคม พ.ศ. 2563 มีธุรกรรมสูงถึง 2.82 ล้านล้านบาท… แม้จะชะลอตัวลงในช่วงเดือน เมษายน พ.ศ. 2563 อันเนื่องมาจากการล๊อคดาวน์ธุรกิจต่างๆ
หลายปีก่อนที่คำว่า Digital Disruption และ Startup ยังเป็นของใหม่อยู่… บางการพูดคุยประเด็นการเงินการธนาคารมีเรื่องการลดสาขาธนาคารในหัวข้อสนทนาเสมอ และลามเลยไปถึง “ทำเลสาขาธนาคาร” ที่ส่วนใหญ่ปักหลักใจกลางย่านธุรกิจสำคัญของพื้นที่ต่างๆ ทั้งสิ้น โดยเฉพาะสาขานอกห้างสรรพสินค้า ที่มีทั้งที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตั้งอยู่
ผมกำลังจะบอกว่า… เมื่อธนาคารย้ายออกหรือปิดสาขาไป ที่เหลืออยู่คืออสังหาริมทรัพย์ทำเลชั้นดีที่หาได้ยากแล้วในปัจจุบัน… นักลงทุนที่ถือเงินสดในมืออยู่ สนใจทำเลไหนลองเดินไปคุยกับธนาคารดูซิครับ… ขอซื้อธนาคารหน่อยจะเป็นไรไป!
อ้างอิง
