มีหลายท่านที่ยังสงสัยว่า… Cryptocurrencies มากมายหลายสกุลเงินดิจิทัลนั้น ทำไม่บางส่วนเรียกว่า Coin ในขณะที่บางสกุลเงินดิจิทัลเรียกว่า Token…
คำตอบง่ายๆ ชัดๆ คือ… Coin เป็นคริปโตที่ออกใช้โดยมี Blockchain ของตัวเอง ซึ่งการโอน Coin จะถูกหักค่าธรรมเนียม หรือ Fee เป็น Coin ชนิดเดียวกัน… ส่วน Token จะเป็นคริปโตที่ออกใช้โดยอาศัย Blockchain ของ Coin เมื่อมีการโอน Token จึงต้องมี Coin เอาไว้จ่ายค่าธรรมเนียม หรือ Fee ด้วย
ดังนั้น… Cryptocurrencies ที่ถูกเรียกว่า Coin หรือ เหรียญ จึงถูกสร้างขึ้นพร้อม Blockchain และจะยังอยู่คู่กับการใช้งาน Blockchain เครือข่ายนั้นไปตราบเท่าที่ยังมีการใช้ทำธุรกรรมกันอยู่
ส่วน Token… โดยหลักการจะถูกสร้างบน Blockchain แม่ข่าย หรือ Main Chain แต่ในบางเทคโนโลยีอาจจะสร้างบน Side Chain ซึ่งในปัจจุบันถูกสร้างขนานไปกับ Main Chain เพื่อขยายขีดความสามารถของโครงข่าย… ซึ่งในทางเทคนิค Side Chain ก็คือ Blockchain อีกเครือข่ายหนึ่งที่สามารถประมวลผลเป็นอิสระจาก Main Chain เพียงแต่ธุรกรรมส่วนหนึ่งจาก Side Chain จะถูกส่งไปประมวลผลและบันทึกธุรกรรมบน Main Chain ตามเงื่อนไขทางสถาปัตยกรรมของระบบที่ออกแบบไว้… ซึ่ง Side Chain เองก็มีทั้งที่ใช้ Coin ของ Main Chain เป็นค่าธรรมเนียม หรือ Fee และ มีทั้งที่ออกโทเคนบน Main Chain เพื่อเอามาใช้เป็นค่าธรรมเนียม หรือ Fee ของ Side Chain อีกที… ซึ่งมีประโยชน์หลายประการ โดยเฉพาะในวันที่ราคา Coin จาก Main Chain หลักๆ ที่เชื่อถือได้เรื่องธรรมาภิบาล หรือ Governance ในปัจจุบัน… มีราคาปรับสูงขึ้นจากความนิยม และ คุณค่าเชิงนวัตกรรมธุรกิจที่สร้างมูลค่าเพิ่มได้ชัดเจน
Token Cryptocurrencies ที่เกิดขึ้นมากมายในปัจจุบันจึงซับซ้อน… และ ต้องศึกษาที่มาที่ไปของโทเคนที่ท่านจะเข้าไปเกี่ยวข้องให้ชัดเจน โดยเฉพาะการเข้าไปลงทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน ซึ่งผมเห็น “คำถามแบบคนไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่โอนเงินเปิดบัญชีซื้อเข้าพอร์ตไปแล้ว” แทบทุกวันปรากฏอยู่ตามกลุ่มนักลงทุนบนโซเชียลมีเดีย… ทั้งๆ ที่แก้ไขได้ไม่ยากด้วยการอ่าน และ เรียนรู้ให้มาก… โดยเฉพาะให้รู้ก่อนอื่นว่ากำลังเทรดคริปโตที่เป็น Coin หรือ Token อยู่ก่อน
ส่วน Coin ในนิยามของพระราชบัญญสินทรัพย์ดิจิทัลไทย หมายถึง… เหรียญ หรือ สกุลเงินดิจิทัล “ถูกสร้างขึ้นมาแบบเฉพาะเจาะจง” สำหรับใช้ในการแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการต่างๆ คล้ายกับเงินตรา หรือ Currency หรือ แม้แต่ใช้สำหรับซื้อขายเหรียญดิจิทัลสกุลอื่น… และ Token ในนิยามของ พระราชบัญญสินทรัพย์ดิจิทัลไทย หมายถึง… Digital Token ที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นเสมือนตั๋ว หรือ แต้มสำหรับแลก หรือ เข้าใช้บริการต่างๆ รวมไปถึงการใช้เสมือนตั๋วผ่านทางไปสู่การลงทุนหรือออกเสียงในธุรกิจ ในรูปแบบของระบบนั้นๆ
ประเภทของ Token จะถูกแยกย่อยออกมาอีก 2 คือ…
1. Utility Token หรือ โทเคนอรรถประโยชน์… เป็นแต้ม หรือ เหรียญชนิดหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นบนระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อ “กำหนดสิทธิ” ในการรับสินค้าหรือบริการที่เจาะจง
2. Investment Token หรือ โทเคนเพื่อการลงทุน… เป็นแต้ม หรือ เหรียญชนิดหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นบนระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อ “กำหนดสิทธิ” ของบุคคลที่ถือครองเหรียญที่มีสิทธิในการรับ “สิทธิประโยชน์หรือการปันผล” หรือ รับส่วนแบ่งรายได้ รวมไปถึงการปันผลจากธุรกิจหนึ่งๆ ที่กำหนดผูกพันไว้กับ Investment Token สกุลนั้นๆ
สุดท้าย… ท่านที่สนใจคริปโต หรือ Cryptocurrencies แบบไหน และ เพื่ออะไรก็ตามแต่ ก่อนอื่นเลยคือ ศึกษาพื้นฐานของคริปโตสกุลนั้นๆ ให้เข้าใจ และ รู้จักก่อนจะดีที่สุด… เหมือนการซื้อหุ้น หรือ ซื้อกองทุนที่นักลงทุนยังต้องศึกษารายละเอียด หรือ ก็คือการศึกษา “ความเสี่ยง” การตัดสินใจนั่นเอง
ด้วยความเป็นห่วงจริงๆ
References…