Blockchain เป็นเทคโนโลยีการบันทึกข้อมูลแบบกระจายศูนย์หรือ Decentralized ที่โครงสร้างพื้นฐานของ Blockchain ถูกออกแบบไว้เพื่อการนี้และเป็นหัวใจสำคัญของ Blockchain… นอกจากนั้น Blockchain ยังบันทึกข้อมูลต่อกันไปเรื่อยๆ แบบที่นักบัญชีเรียกว่า Ledger หรือรายการเดินบัญชี ที่กลับไปแก้ไขไม่ได้ เพราะข้อมูลชุดเดียวกันนี้ จะถูกเก็บกระจายไว้ทุก Node ในเครือข่าย ที่เป็นเหมือนสำเนายืนยันความถูกต้องของข้อมูล… ที่สำคัญกว่านั้น ข้อมูลทุกชุดที่บันทึกไว้ ยังเข้ารหัสเฉพาะ ที่ต้องใช้รหัส 2 ชุดเป็นอย่างน้อยในการเข้าถึงข้อมูลด้วย
ซึ่งทั้งหมดออกแบบมาเพื่อความโปร่งใส เหมือนรายการเดินบัญชีในสมุดเงินฝากธนาคาร ที่บันทึกข้อมูลการเงินต่อๆ กันไปและแบ่งสำเนากันเก็บไว้กับเจ้าของเงินและผู้รับฝากหรือธนาคารคนละสำเนา… แต่รายการบันทึกข้อมูลหรือ Ledger ของ Blockchain มีการสำเนาให้บุคคลที่สามสี่ห้าช่วยถือเป็นพยานไว้อีกมาก ทำให้การแก้ข้อมูลและสำเนาทั้งหมดเป็นไปไม่ได้
ซึ่งข้อดีเรื่องความโปร่งใสของ Blockchain นี่เองที่ได้รับการพิจารณานำมาพัฒนาระบบข้อมูลที่เชื่อถือได้… และในปัจจุบันก็มีธุรกิจมากมาย เริ่มใช้ Blockchain พัฒนาธุรกิจกันแล้วอย่างกว้างขวาง
ธุรกิจอย่างการเงินการธนาคาร ล้วนพัฒนาบน Blockchain คู่ไปกับการให้บริการ Internet Banking กันทั้งโลกก็ว่าได้
ธุรกิจที่เกี่ยวกับหุ่นยนต์ AI และ IoT ทั้งหลายก็จำเป็นต้องพัฒนาบน Blockchain เพราะถือเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมที่ต้องสอบให้ผ่านก่อนถึงมือลูกค้าและผู้บริโภค
ธุรกิจฝั่งสุขภาพ ที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวของคนไข้ ข้อมูลยา ข้อมูลเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่กิจกรรมทางการแพทย์ในอนาคตต้องโปร่งใสทั้งหมด และจะกลายเป็นจริยธรรมพื้นฐานที่ไม่จำเป็นต้องถามหาจากแพทย์หรือพยาบาลให้เคืองกันอีก
ธุรกิจอาหารและการเกษตรก็เป็นอีกหนึ่งสาขาที่ Blockchain จะเข้ามามีบทบาท โดยเฉพาะการออกใบรับรองที่เกี่ยวกับอาหารและยา รวมถึงมาตรฐานสินค้าทางการเกษตรอย่างมาตรฐาน GAP หรือ Good Agriculture Practice และอะไรอีกมากมายที่เกี่ยวข้อง
ฝั่งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เอง… ก็มีการตื่นตัวเรื่อง Blockchain กันมาระยะหนึ่ง เพียงแต่ยังเป็นความเคลื่อนไหวระดับเอกชนรายเล็กๆ และธุรกิจเกิดใหม่อย่าง Startup ทั้งหลายที่ยังขาดพลังในการผลักดันการเปลี่ยนแปลง… ส่วนฝ่ายกำกับดูแลและผู้เล่นรายใหญ่ตัวจริงกลับดูเหมือนไม่มีความเคลื่อนไหวมากนัก ทั้งที่ความจริงแล้วเป็นความเงียบที่ซุ่มทำโครงการแบบลองผิดลองถูกกันอยู่เป็นส่วนใหญ่… ข้อมูลในมือผมที่ใช้อ้างอิงมาจากการจ้างงานโปรแกรมเมอร์ครับ… รวมทั้งการพาร์ทเนอร์กับค่ายเทคโนโลยีก็ดี หรือแม้แต่การจ้างที่ปรึกษา โดยเฉพาะประเด็นพูดคุยแลกเปลี่ยนกันของเครือข่ายนักพัฒนา Blockchain บนเวบไซต์ Reddit รวมทั้งสถิติการ Fork Projects บน GitHub… ยืนยันว่าวงการอสังหาริมทรัพย์ก็ไต่บันไดเข้าหา Blockchain กันหมดแล้วทั้งโลก… รวมทั้งประเทศไทย
Pain Point มากมายในวงการอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ จะวนเวียนอยู่กับความผิดพลาดของข้อมูลและความไม่โปร่งใส่… ซึ่งทั้งหมดสามารถจัดการได้ด้วย Blockchain และที่สำคัญกว่านั้น… Blockchain อสังหาริมทรัพย์หลายแพลตฟอร์มสามารถเปิดมิติการลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์ ที่ให้สภาพคล่องเท่าเทียมตลาดหุ้นได้แล้ว เหลือก็แต่ตลาดไหนหรือประเทศไหนจะเคาะเริ่มก่อนอย่างเป็นทางการเท่านั้นเอง… ทั้งที่ข้อเท็จจริงแล้วก็มีไม่น้อยที่ทดสอบใหญ่กันอยู่ในปัจจุบัน…
ของบ้านเราก็มีโครงการ Blockchain ที่ก้าวหน้าที่สุดโครงการหนึ่งเป็นของธนาคารแห่งประเทศไทย ชื่อ Project Inthanon… ซึ่งล่าสุดได้ทดสอบใหญ่ภายใต้รหัส Inthanon-LionRock…โครงการทดสอบระบบต้นแบบการโอนเงินระหว่างประเทศโดยใช้สกุลเงินดิจิทัลจำลองที่ออกโดยธนาคารกลาง หรือ Central Bank Digital Currency หรือ CBDC ซึ่งธนาคารกลางฮ่องกงและธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ทดสอบระบบแล้วเสร็จไปเมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา… ส่วนฝั่งเอกชนก็มีสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็น Regulator สำคัญภายใต้พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 แล้ว… แม้ทั้งหมดยังไม่สัมพันธ์โดยตรงกับอสังหาริมทรัพย์ แต่… เสร็จเมื่อไหร่! พร้อมใช้เมื่อไหร่! คนอสังหาปรับใช้ได้ทันทีอยู่แล้ว

คำถามคือ… ถ้าอยากพัฒนาโมเดลธุรกิจด้วย Blockchain จะทำอย่างไร?
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า… Blockchain เป็นระบบหลังบ้านเหมือนระบบบัญชีของธนาคารที่ใช้กับโมเดลธุรกิจฝากถอนโอนกู้ของธนาคาร… อยากใช้ Blockchain ก็แค่เปิดหลังบ้านของโมเดลธุรกิจของท่าน มาเติม Blockchain เข้าไปตรงข้อมูลที่ต้องบันทึกเรื่อยๆ นั่นแหละครับ… จากนั้นก็เลือกว่าจะพัฒนา Blockchain เครือข่ายของตัวเองใช้เอง หรือจะเช่าเครือข่าย Blockchain as a Services ที่มีให้บริการมากมายอยู่ในปัจจุบัน อย่างบริการ Azure Blockchain Service ของ Microsoft… หรือบริการ AWS Blockchain-as-a-service ของ Amazon… หรือจะข้ามมาใช้ Blockchain ของ Alibaba, Baidu กับฝั่งจีนก็ได้… และคงจะมีผู้ให้บริการเพิ่มขึ้นอีกมากในอนาคต
Blockchain เป็นการปฏิรูปครั้งสำคัญของอินเทอร์เน็ต ที่จะมาเป็นโครงสร้างพื้นฐานเรื่องความถูกต้องโปร่งใส ที่อินเตอร์เน็ตในปัจจุบันให้ไม่ได้… ตัว Blockchain เองสามารถพัฒนาต่อจากเวบแอพพลิเคชั่นเดิมด้วยการปรับระบบหลังบ้านไปใช้ Blockchain ได้เลยเป็นส่วนใหญ่… แต่ผมก็เจอหลายโครงการที่ถือโอกาสสร้างนวัตกรรมใหม่ในโอกาสนี้เยอะเหมือนกัน…
ในวงการอสังหาริมทรัพย์เอง… จะมีการใช้ Blockchain อย่างแน่นอน โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวของกรมที่ดิน ภายใต้วิสัยทัศน์ไทยแลนด์ 4.0 ที่รัฐบาลไทยพัฒนา Blockchain ใช้กับธุรกรรมของคนไทยในอนาคตมากมาย ซึ่งนอกจากจะนำพาประเทศไทยออกจากบริการภาครัฐแบบเดิมแล้ว ยังถือเป็นไม้ตายเพื่อจัดการเรื่องทุจริตได้อีกระดับหนึ่งอย่างแน่นอน
ส่วนเอกชนและนักลงทุน… ถ้าท่านไม่รีบก็รอไปก่อนครับ แต่ถ้าเชื่อว่านี่คือโอกาส เหมือนคำแนะนำเรื่องพัฒนาเวบไซต์องค์กรในยุค 90-95… ก็ต้องไวแล้วครับ!!!
อ้างอิง