สัปดาห์ที่แล้วผมเขียนถึง Bitcoin Cash จากบทความเรื่อง Bitcoin Cash… P2P Cash Ecosystem ที่เติบโตอย่างเงียบๆ และอวยกันจนเพื่อนฝูงสาย BSV ส่งสติกเกอร์ถล่มไลน์ส่วนตัวผมมาเยอะทีเดียว เพราะในบทความไม่ได้เอ่ยถึง BSV หรือ Bitcoin Satoshi Vision ที่ Dr.Wright หรือ Dr. Craig Steven Wright ผู้อยู่ร่วมอุดมการณ์ Bitcoin Adjustable Blocksize Cap จนกระทั่ง Hard Fork เป็น Bitcoin Cash โดยที่ยังมีความเห็นต่างระหว่างการเพิ่ม Block Size เป็น 8MB หรือ 32MB… กับการเพิ่ม Block Size เป็น 128MB ให้เหลือเฟือกันไปเลย รวมทั้งผลประโยชน์เบื้องหน้าของเทคโนโลยีใน Blockchain Industry และผลประโยชน์เบื้องหลังอีกนับไม่ไหว ท้าทายวิสัยทัศน์อีกมาก
และสุดท้ายก็จบลงเหมือนเหตุการณ์ในอดีตคือ ต้อง Hard Fork เอา Bitcoin Cash แยกไปทำ Block Size 128MB จนกลายเป็น Bitcoin Satoshi Vision หรือ BSV ในท้ายที่สุด… โดยมีชื่อ Craig Wright เป็นหัวหอกในการนำ
ตลาดและคนในชุมชนบิทคอยน์ช่วงปลายปี 2018 ต่างรับรู้และได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งของกลุ่ม Bitcoin ABC กับกลุ่ม Bitcoin SV รวมทั้งความขัดแย้งของ Craig Wright กับ Roger Ver ที่เคยเป็นคนกันเองเฉ่งกันเละจนกลายเป็นตำนานบทหนึ่งของโลกคริปโตที่เรียกว่า… Hash War หรือ Hash Power War หรือ สงครามชิงกำลังขุดบิทคอยน์
Craig Wright เป็นนักธุรกิจและวิศวกรคอมพิวเตอร์สัญชาติออสเตรเลีย ที่มีความรู้หลากหลายและสำเร็จปริญญาหลายสาขาเข้าขั้นอัจฉริยะคนหนึ่ง เขานำทีมกลุ่ม Bitcoin SV หรือบางทีก็เรียก BCH SV ที่เสนอให้คง Block Size ของ Bitcoin เอาไว้ที่ 1MB เท่าเดิม เพื่อเก็บจิตวิญญาณของ Satoshi Nakamoto เอาไว้… แต่ให้เพิ่ม Block Size ของ Bicoin Cash ที่ Fork แยกออกในปี 2017 เป็น 128MB… โดยกล่าวอ้างถึงวิสัยทัศน์ Satoshi Nakamoto ผู้สร้าง จนถึงขั้นอ้างว่าตนเองคือ Satoshi Nakamoto จึงรู้ดีว่าต้องปรับปรุง Bitcoin และ พัฒนาสิ่งนี้ไปทางไหน
ฝ่าย Roger Ver เป็นเจ้าของเว็บไซต์ Bitcoin.com และ ผู้นำทีมกลุ่ม Bitcoin ABC หรือ BCH ABC แม้จะต้องการให้เพิ่ม Block Size ไม่ต่างกัน แต่ก็ต้องการให้ Bitcoin Cash ที่ปรับปรุงขึ้นใหม่ ทำงานกับคริปโตสกุลอื่นและเทคโนโลยีอื่นๆ ได้ด้วย และไม่พอใจที่ Craig Wright อ้างตนว่าเป็น Satoshi Nakamoto และปฏิเสธความร่วมมือ หรือ ความต้องการของ Craig Wright ทุกอย่าง… โดยมี Bitcoin Cash Blockchain ทำงานบนทรัพยากรของ Bitcoin.com แบบไม่ต้องใยดีก็ไม่มีอะไรเสีย
ในชุมชนบิตคอยน์ที่ถือว่าเป็นกลุ่มทรงอิทธิพลอย่างที่จริงก็คือ Mining Pool รายใหญ่ทั้งหลาย ที่ทำเหมืองรับค่าจ้างบน Blockchain ทั้งของ Bitcoin และ Bitcoin Cash… เมื่อแกนนำแตกกันชัดเจน บรรดา Miner หรือนายเหมืองทั้งหมดจึงต้องเลือกข้าง… และเป็นข้าง Roger Ver ที่มีกำลังขุดเลือกฝ่ายสูงกว่า… โดยเฉพาะเหมืองของ Jihan Wu อดีต CEO Bitmain บริษัทผลิตเครื่องขุด Bitmain ที่ใหญ่ที่สุดในโลกมาเป็นพันธมิตร… ส่วน Craig Wright จับมือกับ BCH Mining Pool ชื่อ CoinGeek ได้เพียงเจ้าเดียวที่ใหญ่หน่อย
Craig Wright ไม่ยอมแพ้… เขาออกมาทวีตข่มขู่ว่าจะเทขาย Bitcoin ทิ้งให้ราคาเหลือ $1,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้เหมืองขุดรายใหญ่ขาดทุนย่อยยับ จนต้องเปลี่ยน Pool มาขุด BCH SV ที่เตรียม Fork ออกมาจาก BCH ชัดเจนแล้วตั้งแต่ช่วงกลางปี 2018… ในขณะที่ Craig Wright กลับไม่หยุดโจมตีฝ่ายตรงข้ามทุกทาง แม้แต่เขียน E-Mail ข่มขู่ Roger Ver ตรงๆ จนฝ่ายหลังทนไม่ไหว ต้องเอาข้อความใน E-Mail สุดกร่างนั้นมาคอมเมนต์ออกสื่อว่า Craig Wright วุฒิภาวะต่ำ และ แอบอ้างเป็น Satoshi Nakamoto อย่างน่าขำไร้ยางอายและปลิ้นปล้อนที่สุด
15 พฤษจิกายน 2018… Dr. Craig Steven Wright กับมิตรสหายร่วมสงคราม Hash War ก็ประกาศเป็นวัน Bitcoin Independence Day เมื่อ Bitcoin SV Blockchain ทำ Hard Fork สำเร็จและระบบทำงานเต็มประสิทธิภาพ และแยกกันเดินตลอดกาลกับ Bitcoin Cash… โดยมีเหตุการณ์ Panic Sell ในคืนวันที่ 14 พฤศจิกายน ปี 2018 ด้วยการเทขาย BTC จนราคาร่วงจาก $6,300 ดอลลาร์สหรัฐไหลลงมาแตะ $5,400 ดอลลาร์สหรัฐ ต่ำสุดในรอบปีในไม่กี่ชั่วโมงเป็นอนุสรณ์สงคราม… ตลาดคริปโตทุกสกุลเงินในวันนั้นแดงหมดไม่มีเว้น จนมูลค่าตลาดลดลงจากราว 209,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มาเหลือเพียงราว 180,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ… หายไปเกือบสามหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในไม่กี่ชั่วโมง ที่แปลว่า… มีคนขาดทุนยับจำนวนมาก
เหตุการณ์ Panic Sell วันที่ 14 พฤศจิกายน ปี 2018 เริ่มจากทวีตข่มขู่ว่าจะเทขาย Bitcoin ทิ้งให้ราคาเหลือ 1,000 USD ของ Craig Wright… ตามมาด้วยคำขู่จาก Jihan Wu ที่บอกว่าพร้อมจะย้ายกำลังขุด หรือ Hash Power ทั้งหมดมาขุด BCH ให้ Blockchain ของบิตคอยน์ไม่มีคนสร้าง Block จนธุรกรรมบิตคอยน์ต้องรอนานและล้มเหลวไป… และ Roger Ver ประกาศให้เหมืองขุด Bitcoin.com เปลี่ยนกำลังขุดจาก BTC มาขุด BCH เป็นเวลา 1 วันเต็ม
วันที่ 15 พฤศจิกายน ปี 2018… Hash War เกิดขึ้นจริง โดยมีกำลังขุดจาก Antpool… Bitcoin.com… btc.com และ Viabtc สนับสนุน BCH ABC หรือฝั่ง Roger Ver… ส่วนกำลังขุดจาก BMG Pool… SV Pool… Mempool และ Coingeek สนับสนุน BCH SV หรือฝั่ง Craig Wright… จนถึงบล็อกที่ 556766 ก่อนที่ Bitcoin.com จะสร้างบล็อกแรกของ ABC และ Mempool สร้างบล็อกแรกของ SV… และจากกันตลอดกาล ระหว่าง Bitcoin Cash และ Bitcoin SV
รายละเอียดในเหตุการณ์นี้ยังมีอีกมาก ซึ่งสาวก Satoshi Nakamoto ส่วนใหญ่จะทำความเข้าใจ และ เรียนรู้ Bitcoin ผ่านความผันผวนโดยมีตัวละครหลักๆ ส่วนใหญ่ที่ยัง “ห้ำหั่นอดีตคนกันเอง” จนกระทบการลงทุนกับบิทคอยน์อย่างมากจนถึงปัจจุบัน
โดยส่วนตัวผมเชื่อว่า Craig Wright มีส่วนสำคัญในการพัฒนา Blockchain ยุคเริ่มต้น Bitcoin ซึ่งชุมชนบน Bitcointalk.org ยังแบ่งปันช่วยเหลือทรัพยากร เทคโนโลยีและองค์ความรู้อยู่… ซึ่งในทางเทคนิคและความล้ำเลิศของการพัฒนา Bitcoin SV ตั้งแต่ Hash War จบลง… ผมก็ยังมองว่า Bitcoin SV มีเทคโนโลยีที่โดดเด่นไม่ธรรมดา… เพียงแต่พฤติกรรมส่วนตัวของ Craig Wright ที่ออกแนวหยิ่งยโสซึ่งมีคนรังเกียจมากกว่าจะชอบ ทำให้ Bitcoin SV ถูกเมินจากตลาดไม่น้อยทีเดียว… กรณีการ Delist หรือ เอาออกจากกระดานเทรดเพราะเกลียด Craig Wright ของแพลตฟอร์ม Binance และ Kraken ถือว่าคนถือ Bitcoin SV เสียโอกาสไปมากทีเดียว
นอกจากนั้นยังมีคนไล่จิกและโจมตี Craig Wright เรื่องอ้างว่าเป็น Satoshi Nakamoto มาตลอด… แม้แต่การใช้บันทึกข้อความใน Blockchain ที่ Craig Wright อ้างว่าเป็นของ Satoshi Nakamoto และตนเองครอบครองอยู่ เผยแพร่ข้อความโจมตีความหลอกลวงของเขา
เอาเป็นว่า… เราเรียนรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับบิทคอยต์ก็เพื่อหาช่องทางลงทุนทำกำไร หรือ นำศักยภาพของ Blockchain มาใช้พัฒนาธุรกิจให้ตามทันยุค Blockchain Internet ไปพร้อมกัน… เรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่อาจจะเกิดซ้ำ ซึ่งมักจะเกิดซ้ำเสมอในโลกของคริปโต และ การเทรด… และใช้ประโยชน์จากข้อมูลข่าวสารให้เป็นก็เหลือเฟือแล้ว
References…
