ช่วงต้นเดือนตุลาคม ปี 2021 ที่ผ่านมา… ประชาชนในนครเบอร์ลินของเยอรมนีได้ออกมารวมตัวกันเคลื่อนไหวห้ามการใช้รถยนต์ในเขตใจกลางมหานครเบอร์ลินเพื่อลดมลพิษและเพิ่มพื้นที่ให้คนใช้ชีวิต โดยมีองค์กร Berlin Autofrei หรือ เบอร์ลินปลอดรถ เป็นแกนนำจัดการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง… และดูเหมือนจะจุดกระแสได้อย่างสมบูรณ์ในการเคลื่อนไหวช่วงต้นเดือนตุลาคมปีนี้
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะทำกิจกรรมรณรงค์อย่างเดียว เพราะ Berlin Autofrei ได้รวบรวมรายชื่อเสียงสนับสนุนจากประชาชนได้กว่า 50,000 รายชื่อ ซึ่งจะนำไปสู่การเสนอทำประชามติ หรือ Referendum ในกรณีการขอให้เขตพื้นที่ตอนกลางของนครเบอร์ลิน เป็นเขตห้ามใช้รถยนต์ส่วนตัว ซึ่งหากความริเริ่มนี้ประสบผลสำเร็จเป็นรูปธรรม… นครเบอร์ลินก็จะกลายเป็นพื้นที่ปลอดรถยนต์กลางมหานครที่มีพื้นที่กว้างที่สุดในโลกราว 88 ตารางกิโลเมตร กลางเมือง ซึ่งล้อมรอบด้วยวงแหวนทางรถไฟ S-Bahn อยู่แล้ว
แกนนำกลุ่ม Berlin Autofrei ให้ความเห็นว่า… ปัจจุบันทางรัฐบาลเยอรมนีกำลังมีเป้าหมายที่จะลดการปล่อยมลพิษจากการขนส่งอยู่ แต่การลดมลพิษที่ว่าจะเป็นจริงได้ ก็ต่อเมื่อรถในประเทศเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้าให้ได้ 50%… แต่สถิตการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพียง 1.3% ในปัจจุบัน คงขับเคลื่อนเป้าหมายภายในปีหน้าคงจะเป็นไปได้ยาก
ถ้าแคมเปญนี้ผ่านการอนุมัติ รถยนต์ส่วนตัวแทบทุกชนิดรวมทั้งรถไฟฟ้าส่วนบุคคล จะไม่สามารถวิ่งในพื้นที่ใจกลางกรุงเบอร์ลินได้เว้นแต่รถฉุกเฉิน และ พาหนะสำหรับผู้พิการ… ส่วนที่เหลือจะได้รับอนุญาตให้เช่ารถได้ 12 ครั้งต่อปี หากต้องใช้รถจริง เช่นกรณีการย้ายบ้าน
References…