Warren Buffett… ตำนานนักลงทุนและเจ้าพ่อตลาดหุ้น ที่มีสาวกภายใต้ลัทธิการลงทุนแบบ Value Investing หรือ VI ซึ่งถือเป็น Investment Paradigm หรือกระบวนทัศน์ด้านการลงทุนที่นักลงทุนน้อยใหญ่ใหม่เก่าทั่วโลก มักจะไม่พลาดที่จะเรียนรู้ศึกษาหลักการและแนวทาง VI รวมทั้งวิธีคิดของ Warren Buffett… อย่างน้อยก็เพื่อให้ตัวเองเชื่อมั่นและฮึกเหิมได้ต่อเนื่องในตลาดทุน… ซึ่งหอมหวลและท้าทายจิตวิญญาณนักลงทุนทุกผู้ทุกนามเสมอ
วอร์เรน บัฟเฟตต์ หรือ Warren Buffett เคยครองตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก ก่อนอันดับคนรวยจะไหลไปอยู่กับมหาเศรษฐีจากธุรกิจดิจิทัลและเทคโนโลยีอย่างในปัจจุบัน… Warren Buffett จึงได้รับการยกย่องให้เป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของโลก จากมูลค่าทรัพย์สินที่ชายคนนี้เข้าลงทุนและสร้างการเติบโตให้สินทรัพย์ทุกกองในมือของเขา… โดยมีฐานที่มั่นอยู่ที่ Berkshire Hathaway ใน Omaha รัฐ Nebraska
เรื่องราวของนักลงทุนผู้ยิ่งใหญ่ ที่ซื้อหุ้นตั้งแต่อายุ 11 ขวบอย่าง Warren Buffett นั้น… Properea Fan หลายท่านคงเคยได้อ่านเรื่องทั่วไปเกี่ยวกับเขามาแล้วจากบทความวันอาทิตย์ตอน The More You Learn, The More You’ll Earn. ~ Warren Buffett กันมาบ้าง
แต่เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา… Properea Fan สายคริปโตหลายท่านบาดเจ็บจากราคาร่วงแรงในตลาดคริปโตแทบจะทั้งสัปดาห์ กลุ่มสนทนาออนไลน์ของนักลงทุนสายคริปโตแทบทุกกลุ่มจึงมีดราม่าหลายรูปแบบให้เห็น… ซึ่งก็มีทุกอย่างให้ได้เห็นในทุกมิติที่สะท้อนออกมาจาก “ภายในของผู้คน”
ส่วนตัวผมนึกถึงคำพูดของ Warren Buffett อีกประโยคหนึ่งขึ้นมาในขณะที่นักลงทุนส่วนหนึ่งโอดครวญตื่นตระหนกและหวั่นไหวกับเหตุการณ์ “ทุนหายกำไรเหือดในพริบตา” ซึ่ง Warren Buffett กลับบอกว่า… I will tell you how to become rich. Close the doors. Be fearful when others are greedy. Be greedy when others are fearful… ผมจะบอกให้ว่าคุณจะรวยได้อย่างไร อยู่ใกล้ๆ ประตูฟังเสียงข้างนอกนั่น จงกลัวให้มากเมื่อเห็นผู้คนกำลังพากันตะกละ จงตะกละให้มากเมื่อผู้คนกำลังพากันหวาดกลัว
ประเด็นเป็นแบบนี้ครับ… การสมัครใจเข้ามาลงทุนเพื่อเก็งกำไร และใช้เงินทองหรือทรัพย์สินลงทุนโดยเชื่อว่าไม่ต้องลงแรงและสติปัญญา หรือเชื่อว่าไม่ต้องเรียนรู้พัฒนาอะไรอื่นอีกนั้น… ถือเป็นแนวคิดที่ “หลงทาง” อย่างมากในการเป็นนักลงทุน
ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่เชื่อคำพูดที่บอกว่า… ให้เงินทำงาน ซึ่งล่อแหลมต่อการเข้าใจเอาว่า แค่มีเงินแล้วทุ่มลงทุนไปกับบางกิจกรรมที่มีคนร่ำรวยจากสิ่งนั้นมามาก… ก็ไม่ต้องทำอะไรมากกว่านั้นอีกก็ได้ ทั้งๆ ที่การเป็นนักลงทุนต้องเปิดรับความรู้ความเข้าใจของตัวเอง มากกว่าการทำมาหากินอาชีพอื่นๆ ทั้งหมดก็ว่าได้… และยังต้องรู้จัก “ปิดประตู หรือ Close the doors” ทุกบานที่จะเปิดหาความเสี่ยง… ซึ่งความรู้ความเข้าใจจะชี้ให้เห็น “ความเสี่ยง” ในสถานการณ์ต่างๆ เอง… และยังต้อง Close the doors ด้วยนัยยะเพื่อสอดส่องสัญญาณความเคลื่อนไหวภายนอก ที่มักจะสะท้อนผ่านอารมณ์อันอ่อนไหวเปลี่ยนแปลงของผู้คนจำนวนหนึ่งเสมอ
Warren Buffett เคยเล่าถึงวิธีปิดประตูความเสี่ยงและเข้าใกล้ประตูความรู้สึกของตลาดทุนเอาไว้ด้วยตัวเองหลายเวทีว่า… เขาใช้เวลากว่า 80% ในแต่ละวันไปกับการอ่านหนังสือเพราะเชื่อว่า คนเราก่อนที่จะเข้านอนควรจะฉลาดเพิ่มขึ้นกว่าตอนตื่นนอน… และถึงขนาดนั้น Warren Buffett ก็ยังลงทุนผิดพลาดหลายครั้ง และขาดทุนมหาศาลหลายคราด้วย
ปี 2008… Warren Buffet ออกจดหมายถึงผู้ถือหุ้นว่า เขาตัดสินใจเข้าซื้อหุ้นบริษัท ConocoPhillips ซึ่งเป็นธุรกิจพลังงาน โดยเข้าซื้อหุ้นในขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกเกือบจะถึงจุดสูงสุด… ใช้เงินลงทุนไปราว 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ… แต่แล้วก็ปรากฏว่าราคาน้ำมันดิ่งเหวลงมาเกือบครึ่ง และมูลค่าหุ้น ConocoPhillips ในพอร์ตก็ตกลงมาเหลือเพียง 4,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น
ปี 2008 เช่นกัน… Warren Buffet ใช้เงินจำนวน 244 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นธนาคารในไอร์แลนด์ ด้วยราคาประเมินที่ตัวเขาและทีมเชื่อว่าเป็นราคาต่ำกว่าราคาประเมิน แต่พอถึงสิ้นปี… ราคาหุ้นก็ตกลงอย่างมาก จนต้องตัดสินใจ “Cut Loss” โดยขายหุ้นทิ้งแม้จะได้เงินกลับมาเพียง 27 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น… งานนี้ขาดทุนไปเบาะๆ 89 เปอร์เซ็นต์
ปี 2011… Warren Buffett ตกหลุมพราง “คนใน” ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจ David Sokol ซึ่งอยู่ในทีมผู้บริหาร Berkshire Hathaway ในตอนนั้น โดย David Sokol ผลักดันให้บอร์ดและ Warren Buffett ตัดสินใจซื้อหุ้น Lubrizol Corp ในขณะที่ David Sokol แอบดักเก็บหุ้นเป้าหมายไว้ก่อนและร่ำรวยจากเล่ห์เหลี่ยมไปกว่า 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ… จนกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวของ Berkshire Hathaway และกรณีศึกษาเรื่องความไว้เนื้อเชื่อใจ
ปี 2012… Berkshire Hathaway เข้าซื้อหุ้น Tesco มูลค่า 2,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อนจะแบ่งขายทำกำไรไปเพียงบางส่วนเพราะเชื่อว่า Tesco น่าจะเติบโตและทำกำไรได้อีก แต่พอถึงปี 2014… ราคาหุ้น Tesco ก็ลดลงกว่า 48% หรือเกือบครึ่งหนึ่ง… หุ้น Tesco ที่ถือไว้จนถึงปี 2014 จึงทำให้พอร์ตการลงทุนของ Berkshire Hathaway ปีนั้น… เงินหาย 444 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ที่สำคัญก็คือ… ความผิดพลาดจากวิสัยทัศน์ ที่ Berkshire Hathaway และ Warren Buffett ไม่กล้าลงทุนกับธุรกิจสตาร์ทอัพและเทคโนโลยีมากมายที่เดินมาหา Warren Buffett เพื่อเสนอโอกาสลงทุนราคาจิ๊บจ้อย แต่ถูก Warren Buffett ปฏิเสธเพียงเพราะว่าเขาไม่รู้จักธุรกิจใหม่ๆ เหล่านี้จนพลาดโอกาสที่จะได้ลงทุนใน Microsoft… Google หรือแม้แต่ Amazon ของ Jeff Bezos ที่ Warren Buffett มีโอกาสซื้อหุ้นราคาถูกก่อนคนอื่นๆ ในโลกใบนี้
สิ่งที่อยากจะบอกถึงทุกท่านที่จิตตกกับการลงทุน ไม่ว่าท่านจะเป็นมือใหม่หรือสายเก๋า รายใหญ่หรือรายเล็ก… ตัดขาดทุนไปแล้วหรือยอมติดดอยรออยู่บนนั้น… เกมส์ยังไม่จบหรอกครับถ้าท่านไม่ยอมจบ ขอแค่ท่านเรียนรู้และไม่ล้มเลิก
ส่งกำลังใจถึงทุกท่านครับ!
References…
