สถานการณ์ค่าเงินช่วงนี้ถือว่าทะลุเข้าเขตน่ากังวลถึงผลกระทบอย่างยิ่ง… แม้อัตราแลกเปลี่ยนจะยืนเหนือตัวเลข 30 บาทนิดๆ ได้อยู่… แต่ความเชื่อมั่นของหลายๆ ฝ่ายเริ่มไม่มั่นใจอะไรแล้ว
ค่าเงินบาทแข็ง อะไรๆ ที่ต้องใช้เงินสกุลอื่นมาแลกเป็นเงินบาทก่อนซื้อ… ก็ย่อมแพงขึ้นเฉยๆ เพราะตัวคูณและตัวหารที่ใช้คำนวณต้องปรับ
หลายปีมานี้… ภาคอสังหาริมทรัพย์ก็พึ่งพายอดขายจากนักลงทุนต่างชาติไม่น้อย โดยเฉพาะคอนโดมีเนียมและนิคมอุตสาหกรรม ที่ชั่วโมงนี้ต้องถือว่าแพงขึ้นดื้อๆ… ซ้ำเติมภาวะซบเซาที่เป็นอยู่ ให้ซึมและทรุดกว่าเดิมเข้าไปอีก
สองสามสัปดาห์ก่อนผมนึกถึงเกณฑ์ถือครองกรรมสิทธ์ของนักลงทุนต่างชาติในเขต EEC ที่ผ่อนผันและบังคับใช้มาตั้งแต่ราวๆ กลางปี 2561
ซึ่งพื้นที่ EEC สามจังหวัดภาคตะวันออก ใช้พระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2561 ที่ประกาศใช้ตั้งแต่ 15 พ.ค. 2561เป็นต้นมา ให้สิทธิ์คนต่างด้าวและนิติบุคคลต่างด้าวในพื้นที่ 3 จังหวัด EEC ได้สิทธิพิเศษเกี่ยวกับที่ดินและอสังหาริมทรัพย์คือ
- ให้ผู้ประกอบกิจการในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งเป็นนิติบุคคลและเป็นคนต่างด้าวตามประมวลกฎหมายที่ดิน มีสิทธิถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินภายในเขตส่งเสริมฯ เพื่อประกอบกิจการที่ได้รับอนุญาตได้ โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตตามประมวลกฎหมายที่ดิน…
- ให้ผู้ประกอบกิจการในเขตส่งเสริมฯ ซึ่งเป็นนิติบุคคลและเป็นคนต่างด้าวตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด มีสิทธิถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุด โดยได้รับการยกเว้นจากการจำกัดสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด
เดิมนั้นกฏหมายที่ดินให้สิทธิ์ต่างด้าว ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินเพื่ออยู่อาศัยได้ไม่เกิน 1 ไร่ ภายใต้ใบอนุญาตที่กำกับดูแลจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และต้องนำเงินเข้ามาลงทุนในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท… ส่วนการถือกรรมสิทธิ์ห้องชุด กฎหมายให้คนต่างด้าวถือครองห้องชุดได้ไม่เกิน 49% ของเนื้อที่ห้องชุดในอาคารชุดที่จดทะเบียน
ประเด็นก็คือ… นักลงทุนในพื้นที่ EEC ฝั่งอสังหาริมทรัพย์ต่างขยับลงทุนล่วงหน้าไปก่อนที่ พระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2561 จะประกาศใช้แบบเสือปืนไวกันเยอะพอดู… พอกฏหมายประกาศใช้… ค่าเงินบาทก็ตึงตัวและแข็งค่าต่อเนื่อง พร้อมๆ กับมรสุมหลายเรื่องที่รุมเร้าเศรษฐกิจโลกและกระทบไทยในที่สุด… กำลังซื้อจากต่างชาติที่เก็งกันไว้… จึงลอยหายไปจากความหวัง
ถ้าไปสอบถามพูดคุยกับที่ปรึกษาการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ข้ามชาติหลายๆ ค่าย… คำตอบก็คงคล้ายกันที่ขณะนี้จำเป็นต้องแนะนำลูกค้าให้ Wait and See ไปก่อน
ข้อมูลเท่าที่ผมมีตอนนี้… ที่จริงก็ถือว่ายังสบสนและขาดหลักฐานเชิงประจักษ์หลายประเด็นที่จะชี้ชัด แต่ที่บอกได้คือ… เงินบาทแข็งเป็นปัจจัยสำคัญที่เม็ดเงินลงทุนต่างชาติ ยังรอดูสถานการณ์และไม่ตัดสินใจในระยะสั้นนี้
ท่านที่เล็งกำลังซื้อต่างชาติ… ที่ส่วนใหญ่ยังโฟกัสญี่ปุ่นและจีนช่วงนี้ก็คงโหวงๆ กว่าที่คาดเหมือนกัน ผมพูดคุยกับคนในวงที่ปรึกษาการลงทุนใน EEC… บางท่านกำลังมองกำลังซื้อจากรัสเซียที่หลายท่านอาจจะยังไม่สนใจ… แต่ภาพข่าวที่ ท่านดมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีรัสเซีย เข้าพบพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาก่อนเข้าร่วม การประชุมสุดยอดอาเซียนที่กรุงเทพรอบนี้ก็เชื่อว่า… เม็ดเงินจากรัสเซียกับอสังหาริมทรัพย์ใน EEC คงพอมีหนทางอีกสายจากทุนหมีขาว ที่พวกเรายังไม่คุ้นเคยนัก… แต่สถิติชาวต่างชาติในพัทยาและพื้นที่ตะวันออกโซนเดียว มีตัวเลขชาวรัสเซียอยู่ไม่น้อยเลย…

ยิ่งเห็นภาพบรรยากาศพูดคุยของทีมไทยกับทีมรัสเซีย ในภาพข่าวจากคมชัดลึกที่แทรกมาให้ทุกท่านดด้วยแล้ว… คิดว่าการบ้านผมช่วงนี้เรื่องหนึ่งคงจะเป็นเคสหมีขาวใน EEC นี่แหละครับ