Autonomous Things หรือ AuT หรือ Internet of Autonomous Things หรือ IoAT หรือสรรพสิ่งที่ทำงานด้วยตนเอง ทั้งพาหนะ หุ่นยนต์ เรือและยานใต้น้ำ อากาศยานทุกขนาดทุกวัตถุประสงค์ เครื่องใช้ไฟฟ้า จักรกลทางการเกษตร หรือแม้แต่ผู้ช่วยส่วนตัว รวมทั้งของใช้และ Gadget อีกมากที่มีกลไกการตัดสินใจของตัวเองในการทำงานหรือจัดการภาระกิจตามที่โปรแกรมเอาไว้…
แน่นอนว่า… Autonomous Thing ทั้งหมดล้วนติดตั้ง AI Processing Unit ในการประมวลผลเพื่อข้ามขีดจำกัดการประมวลผลแบบ Standard Logical ที่นักวิทยาศาสตร์และนวัตกรมองว่า… คงไปไกลถึงการประมวลผลแบบคิวบิตด้วย Quantum Processing Units หรือ QPUs อย่างแน่นอน
แต่ในปัจจุบัน Autonomous Things ยังคงใช้การประมวลผลแบบ Standard Logical ภายใต้สภาพแวดล้อมระดับ Artificial Intelligent หรือ AI เท่านั้น… และคงใช้เวลาอีกหลายสิบปีกว่าที่ชิบประมวลผลแบบควอนตัมจะมีขนาดเล็กลงและทรงประสิทธิภาพถึงขีดสุด…
Autonomous Things หรือ AuT ในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 5 ประเภทหยาบๆ ด้วยกัน ประกอบด้วย…
1. Robotics หรือ หุ่นยนต์… หุ่นยนต์เป็นศาสตร์ที่มีวิวัฒนาการด้วยอัตราเร่งที่สูงมากในปัจจุบัน และหุ่นยนต์เป็นศาสตร์ที่มีแขนงย่อยของสาขาย่อยที่มีการจัดหมวดหมู่ไว้มากมายหลายรูปแบบ… แต่โดยหลักคิดและออกแบบของสิ่งที่เรียกว่า Robotics จะเป็นเครื่องจักรที่สามารถทำงานซับซ้อนเหมือนมนุษย์ได้ และมักจะออกแบบมาเพื่อทำงานแทนมนุษย์ ในงานที่มนุษย์เองยังทำได้ไม่ดี หรือทำได้ไม่ตลอดรอดฝั่ง หรือทำได้ไม่มากพอ… หลายครั้งเราจึงเห็นแขนกลที่จำลองการใช้งานแขนของมนุษย์ ถูกเรียกว่าหุ่นยนต์… หรือแม้แต่เครื่องกลช่วยการผ่าตัดในโรงพยาบาล ที่เลียนแบบมือของแพทย์ถือเครื่องมือผ่าตัด ทำงานตามขั้นตอนการผ่าตัดที่แพทย์ออกแบบไว้… ซึ่งจักรกลเหล่านี้ถูกพัฒนาต่อเนื่องจนเข้าสู่ยุค AI/ML หรือ Artificial Intelligence/Machine Learning ที่หุ่นยนต์จะสามารถประมวลผลด้วยสมองกลพร้อมกลไกการเรียนรู้ด้วยตัวเอง เพื่อให้งานที่ซับซ้อนสูงแค่ไหนก็สามารถเรียนรู้เพิ่มเติม และสะสางงานนั้นให้ลุล่วงได้ดีกว่ามนุษย์เสียอีก
2. Vehicles หรือยานพาหนะ… โดยข้อเท็จจริงแล้ว ยานพาหนะกับหุ่นยนต์ล้วนมาจากพื้นฐานทางวิศวกรรมเดียวกัน เพียงแต่ Self-driving Vehicle หรือ Autonomous ถูกออกแบบเพื่อขนส่งสิ่งของและเป็นพาหนะให้มนุษย์ใช้เดินทาง… ในขณะที่หุ่นยนต์หรือ Robot บางประเภทก็ออกแบบให้มีความสามารถในการขนย้ายสิ่งของ หรือพาคนเดินทางในฐานะพาหนะได้เช่นกัน แต่อาจจะไม่ใช่งานหลัก เช่น หุ่นยนต์ BigDog ของ Boston Dynamics ที่ DARPA หรือ The Defense Advanced Research Projects Agency สนับสนุนทุนวิจัยหุ่นยนต์ทางทหารเลียนแบบสัตว์ต่าง เพื่อช่วยขนสิ่งของในภูมิประเทศที่ยากลำบาก… และปัจจุบัน Boston Dynamics ได้ผลิตรุ่นที่ใช้งานกับพลเรือนออกขายแล้วในชื่อ Spot ที่แม้หน้าที่ของ Spot Robot จะเป็นการขนส่งและเคลื่อนย้ายสิ่งของเป็นหลัก แต่ก็ไม่ได้เรียกว่ายานพาหนะในนิยามนี้ และยังเรียกหุ่นยนต์อยู่เพราะ Spot จำลองการเคลื่อนที่จากสิ่งมีชีวิตอย่างสัตว์ 4 เท้านั่นเอง… แต่ทั้งหมดถือเป็น AuT เช่นกัน
3. Self-Flying Drones หรือโดรนบินเอง… ที่เป็นพัฒนาการขั้นต่อมาของยานบินที่ชาญฉลาดกว่าโดรนที่ต้องใช้คนควบคุม… โฆษณาของ Skydio 2 ซึ่งเป็นโดรนถ่ายภาพแบบ Self-Flying ที่เริ่มต้นซีนโฆษณาด้วยการบอกว่าโดรนรุ่นเก่าล้วนซื่อบื้อ… ซึ่งเทคโนโลยี Self-Flying เพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่หลายฝ่ายเชื่อว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ Self-Flying จะพัฒนาแซงหน้าเทคโนโลยี Self-Driving ที่ซับซ้อนมากกว่าอย่างแน่นอน… และปัจจุบัน Startup สายโดรนล้วนมีมูลค่าเกิน 1,000 ล้านดอลลาร์กันหลายค่ายแล้ว เพราะเทคโนโลยีอย่าง Self-Flying จะทำให้การบินโดรนเป็นเรื่องง่ายเหมือนแกะกล่องมือถือเครื่องใหม่ใช้เลยทีเดียว…
4. Analytic & AI Appliances หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ… เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านยุคปัญญาประดิษฐ์จะเป็นมากกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียบปลั๊กใช้ แต่จะมีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เพื่อใช้ข้อมูลปัจจุบันที่สุดตั้งแต่ระบบปฏิบัติการที่ต้องมีการ Update สม่ำเสมอ รวมทั้งข้อมูลการบริการเช่น ตู้เย็นก็เชื่อมต่อกับเครือข่าย E-Commerce เพื่อแนะนำของกินของใช้ในตู้เย็นที่หมดแล้วหรือใกล้จะหมด และตู้เย็นเจอโปรโมชั่นร้อนแรงจากเวบไซต์ E-Commerce แต่เพียงแค่เรายืนยันการสั่งซื้อและยอมให้หักเงินในระบบ… เดี๋ยวก็จะมีของมาส่งถึงบ้านมาเติมตู้เย็น… นอกจากนั้นยังจะมีเครื่องปรับอากาศที่วิเคราะห์อุณภูมิ วัดคุณภาพอากาศและทำงานร่วมกับระบบ HVAC ของ Smarthome หรือแม้แต่ระบบบริหารพลังงาน… ที่สำคัญกว่านั้นคือ ผู้ช่วยในครัวอย่าง Robot Chef ที่จะช่วยตั้งแต่ทำอาหารล้างจานและเช็ดช้อนอบฆ่าเชื้อให้ด้วย… ก็จะเป็นทั้งหุ่นยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำงานร่วมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ด้วย
5. AI Agents หรือ ตัวแทนอัจฉริยะ… ซึ่งหมายถึง ของใช้หรือเครื่องมือที่สามารถรับรู้ หรือ Perception ต่อสภาวะแวดล้อมโดยรอบและตอบสนองต่อเงื่อนไขการสั่งการหรือ Programming ที่ออกแบบไว้ เพื่อช่วยให้ฟังก์ชั่นการจัดการใดๆ ที่ต้องการๆ ประมวลผลระดับปัญญาประดิษฐ์ สามารถดำเนินการผ่านตัวแทนหรือ Agent ได้ทันทีเช่น การสั่งเปิดปิดไฟแสงสว่างด้วยลำโพงอัจฉริยะ ซึ่งหลอดไฟไม่จำเป็นต้องมีชุดรับคำสั่งระดับ AI ของตัวเองเพราะจะทำให้ต้นทุนการผลิตสูงเกินความจำเป็น การสั่งปิดเปิดจึงใช้ผ่านลำโพงอัจฉริยะที่ทำงานจุกจิกหลายอย่างที่มนุษย์เกียจคร้านจะทำเอง… ซึ่งโดยข้อเท็จจริงแล้ว เทคโนโลยี Autonomous Things ทุกชนิดที่สื่อสารระหว่างเครื่องจักรหรือ Machine กับมนุษย์ ล้วนสื่อสารกันผ่าน Agents ระดับ AI ทั้งสิ้น… เพียงแต่มีการติดตั้งมาภายในระบบ หรือไม่มีมาพร้อมระบบเท่านั้นเอง… และหากไม่มีติดตั้งมาก็สามารถสั่งงานผ่าน Agent ได้เหมือนกัน… Agent ในปัจจุบันถูกพัฒนาให้รับคำสั่งเสียงและตอบรับด้วยเสียงจนเรียกกันติดปากว่าลำโพงอัจฉริยะ แต่ในระยะเวลาไม่นานจากนี้ Agents จำนวนหนึ่งจะอยู่ในโทรศัพท์ นาฬิกาและหุ่นยนต์แบบต่างๆ … ถ้าท่านเป็นแฟนหนังมหากาพย์สตาร์วอร์ ก็จะเห็นหุ่น R2D2 ที่เป็นทั้ง Robot และ Agent ที่ทำหลายอย่างในฐานะผู้ช่วยมนุษย์ที่ยอดเยี่ยม… และนี่คือยุคสมัยที่เราจะมีของใช้แบบ R2D2 ใช้กันเป็นเรื่องธรรมดากันแล้วครับ
ทั้งหมดนี้เป็นพัฒนาการเพื่อการอยู่อาศัยและใช้ชีวิตของมนุษย์ในอนาคตอันใกล้ ที่ผมมองว่าใกล้มากจนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันสามารถเอามาประยุกต์ใช้ในทางธุรกิจได้มากมาย
