Autonomous… กับผังเมืองในอนาคต 

Parking

รถยนต์เป็นสินทรัพย์ราคาแพงชิ้นใหญ่อีกชิ้นหนึ่งรองจากบ้าน ที่คนส่วนใหญ่ยอมจ่ายราคาแพงเพื่อเป็นเจ้าของ และเพื่อความสะดวกสบายเมื่อต้องเดินทางไปนั่นมานี่… แต่ข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งของการเป็นเจ้าของรถยนต์ก็คือ ช่วงอายุของรถทุกคันล้วนซื้อมาจอดมากกว่าจะวิ่ง… เวบไซต์ ReinventingParking.org อ้างข้อมูลจาก Professor Dr.Donald Shoup ภาควิชาผังเมืองจาก University of California, Los Angeles หรือ UCLA เจ้าของหนังสือชื่อ The High Cost of Free Parking ยืนยันว่า… รถทุกคันจอด 95% ตลอดอายุการใช้งาน… ทั้งๆ ที่เจ้าของซื้อมาวิ่ง

ประเด็นคือ บ้านและเมืองในโลกนี้ล้วนออกแบบเพื่อให้มีที่จอดรถ บ้านทุกหลังที่ออกแบบเพื่อขายคนชั้นกลางล้วนต้องมีที่จอดรถ… อาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียม โบสถ์ วัด โรงเรียน หรือแม้แต่ร้านตัดผม ร้านขายข้าวแกงข้างทาง… ก็ล้วนต้องเตรียมที่จอดรถและมีรถไปจอดทั้งนั้น… โดยเฉพาะไหล่ถนนทุกสายก็จะออกแบบเพื่อให้รถจอดได้

คำถามคือ… เราจำเป็นต้องซื้อรถอยู่มั๊ยถ้ารถทุกคันบนถนนสามารถเรียกมารับเราได้หมด!!!

ผมกำลังพูดถึง Autonomous Ride-sharing อยู่ครับ… ท่านที่เคยใช้บริการ Grab Taxi หรือ Grab Van คงคุ้นเคยกันดี… และให้ลองจินตนาการต่อว่า รถที่ท่านเรียกมารับไม่มีคนขับ รับท่านเหมือน Taxi ส่งท่านถึงปลายทางและจากไปเหมือน Taxi

ในแวดวง Startup ที่การสนทนาส่วนใหญ่พูดถึงกระแสหรือแนวโน้มห้าปีสิบปีข้างหน้า ที่ผู้คนในวงการนี้จะตื่นเต้นกับจินตนาการว่าอะไรจะหายไป? อะไรจะมาแทนที่อะไร? และอะไรจะยังอยู่ไปอีกนาน… ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่หัวข้อสนทนา วนมาที่ Self-driving Car หรือ Autonomous ที่อาจจะไม่ใช่รถอีกแล้ว แต่จะเป็นพาหนะที่วิ่งไปวิ่งมาเองได้ และมีเพียงพอสำหรับทุกคนที่อยากเดินทาง… ซึ่ง Autonomous ทั้งหมดไม่มีความจำเป็นจะต้องจอดหรือ Parking อีกแล้ว สำหรับการใช้ในชีวิตประจำวัน

งานสำรวจและวิเคราะห์ของบริษัท Uber ที่เข้ามาดำเนินกิจการในประเทศช่วงปี 2015-2017 ก่อนจะขายหน่วยธุรกิจให้ Grab พบแนวโน้มปัญหาการจราจรติดขัดในหลายๆ เมืองของภูมิภาคอาเซียนเลวร้ายลงทุกปี โดยกรุงเทพมหานคร มีปัญหาการจราจรติดขัดมากที่สุดในภูมิภาค ตามมาด้วย Jakarta, Manila, Hanoi และ Kuala Lumpur และ Uber ได้เสนอใช้บริการร่วมเดินทางช่วยแก้ปัญหารถติด

งานสำรวจครั้งนั้นทำขึ้นปี 2017… พบว่า ผู้คนที่ขับรถบนถนนในกรุงเทพมหานคร เสียเวลาไปกับรถติดโดยเฉลี่ย 72 นาทีในแต่ละวัน และอีก 24 นาทีเพื่อวนหาที่จอดรถ… ปี 2017 กรุงเทพมหานครมีรถมากกว่า 5.8 ล้านคัน และต้องใช้พื้นที่เท่ากับสนามบินสุวรรณภูมิ 8 แห่งในการจอดรถทั้งหมด… และรถทั้งหมดล้วนใช้ที่จอดจนนับรวมกันได้ขนาดนั้นจริงๆ เสียด้วย

ปีนั้น… Uber เสนอให้เปิดบริการ Ride-sharing ซึ่งจะลดจำนวนรถบนถนนในกรุงเทพมหานครได้ 60% หรือเท่ากับ 3.5 ล้านคัน และได้พื้นที่คืนจากที่จอดรถคิดเป็นพื้นที่มากถึง 275 เท่าของสวนลุมพินี

แต่แล้ว Taxi ในกรุงเทพเอย… พัทยาเอย… รถแดงและสามล้อเชียงใหม่เอย… ก็ไล่ยำ  Uber Ride-sharing จนสุดท้าย Uber ตัดขายหน่วยธุรกิจในเอเชียทั้งหมด เพื่อกลับไปโฟกัสโครงการ Self-Driving Car ที่ Uber ATG ซึ่งเป็นแนวทาง Startup สายเทคที่ต้องจริงจังกับการบ่มเพาะและพัฒนาจนถึงเวลาของยุคสมัยอย่างแท้จริงจึงค่อยทำธุรกิจ

https://www.youtube.com/watch?v=0E5IQJj_oKY

เทคโนโลยี Self-Driving ของ Uber ATG ใน Volvo XC90

แต่ประเด็นที่ผมยกมาวันนี้ไม่ใช่เรื่องของ Uber โดยตรงหรอกครับ… เพราะในความเป็นจริง ค่ายรถยนต์ทุกค่ายต่างพัฒนา Self-Driving Car กันทั้งหมด… รวมทั้ง Goolge, Amazon และ Apple… เมื่อทุกอย่างพร้อม รถดัดแปลงให้เป็น Self-Driving ที่ยังมีหน้าตาเหมือนรถยนต์ในปัจจุบันจะหายไป… แม้ว่าจะยังคงเป็นพาหนะที่พาคนเดินทางจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งอยู่… แต่ผู้โดยสารในรถและในระหว่างเดินทางคงไม่มีวันเหมือนเดิม ในวันที่การเดินทางถูก Disrupted จากผู้คนที่ใช้รถใช้ถนนนั่นเอง

เมื่อห้วงเวลาที่รถวิ่งได้เองโดยไม่ต้องรอคนมาขับ… รถก็ไม่ต้องจอดและสามารถวิ่งไปรับผู้โดยสารรายอื่นได้อีกเรื่อยๆ… และสิ่งที่จะหายไปคือพื้นที่จอดรถมากมายจะถูกนำไปใช้ประโยชน์ทางอื่น… ถ้าเทียบตัวเลขจาก Uber ที่ประเมินตัวเลขพื้นที่จอดรถจะหายไปเมื่อใช้ Ride-Sharing คือ 275 เท่าของพื้นที่สวนลุมพินี… ซึ่งล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 พระราชทานเนื้อที่สร้างสวนลุมพินีไว้ 360 ไร่ครับ… คูณ 275 ก็จะมีเนื้อที่ราวๆ 99,000 ไร่ที่ไม่ต้องเอามาทำที่จอดรถ

และทั้งหมดนั้นจะนำไปสู่การวางผังเมืองใหม่ ที่หลายอย่างคงเปลี่ยนไปจากศตวรรษที่ 20 อีกมากค่อนข้างแน่… แต่ที่ผมคิดว่าน่าตื่นตายิ่งกว่า Self-Driving Car หรือ Autonomous กระทบผังเมืองและชีวิตผู้คนก็คือ… Autonomous เป็นแค่ส่วนหนึ่งของ Autonomous Thing หรือ Autonomous Thing AI ที่ทั้งวิ่งบนถนน บินในอากาศ แล่นบนราง ไหลไปตามท่อ วิ่งบนเคเบิล บนผิวน้ำ ในน้ำหรือแม้แต่ท้องมหาสมุทร และไม่ใช่รองรับเพียงการเดินทางหรือขนส่ง แต่ Autonomous Thing เหล่านี้ ยังมีงานและหน้าที่ๆ ถูกโปรแกรมไว้มากมาย… เล่าวันเดียวไม่หมดจริงๆ ครับ

อ้างอิง

https://www.reinventingparking.org/2013/02/cars-are-parked-95-of-time-lets-check.html?m=1
http://shoup.bol.ucla.edu/PayAsYouPark.htm

Share this post

Add Properea's Friend

เพิ่ม Properea.com เป็นเพื่อนทาง Line
ท่านจะได้ Link บทความใหม่ส่งตรงให้อย่างสม่ำเสมอโดยรบกวนแต่น้อย

Related Post

Nanosatellite

Nanosatellites… อุปกรณ์ IoT ลอยฟ้า

เมื่อมนุษย์ต้องขยับขยายขึ้นไปทำอะไรกันอีกมากมายในอวกาศ ก็คงเหมือนคนเมืองอพยพเข้าไปบุกรุกป่าสงวน สุดท้ายก็มีเสาไฟฟ้าตามไป จนทำให้ป่ากลายเป็นชุมชนและกลายเป็นเมืองเติบโตขึ้น… ดินแดนในวงโคจร LEO ก็เช่นกัน… ธุรกิจหลากวิสัยทัศน์ที่เห็นโอกาสก่อนจึงเคลื่อนไหวกันคึกคัก ตั้งแต่รายใหญ่ไปก่อนอย่าง SpaceX และ Blue Origin รวมทั้ง Virgin Galactic ที่บินรับงานขนส่งขึ้นลงระหว่างพื้นโลกและชั้นบรรยากาศ… ซึ่งในปัจจุบันมีเอกชนมากมายที่มีขีดความสามารถในการส่งของขึ้นอวกาศ ซึ่งคนในวงการรู้ดีว่าคึกคักและอู้ฟู้กันขนาดไหน

LiVE

LIVE FIN CORP… CrowdFunding ทายาทรุ่นหลานของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

Live Fin Corp หรือ บริษัท ไลฟ์ฟินคอร์ป จำกัด ถือหุ้นใหญ่โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย… มีสำนักงานอยู่ตึกเดียวกันกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET นั่นเลย… LiVE ย่อมาจาก Launchpad and investment Vehicle for Enterprise เป็นผู้ให้บริการเครือข่าย Blockchain เพื่อระดมทุนและซื้อขายหลักทรัพย์สำหรับ SME และ Startup โดยเฉพาะ โดยมีเงื่อนไขที่เหมาะสมทั้งกับผู้ประกอบการและนักลงทุน

พระราชบัญญัติคุ้มครองประชาชนในการทำสัญญาขายฝากที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมหรือที่อยู่อาศัย พ.ศ. ….

ข่าวการ “มอบคืนโฉนดที่ดิน คืนความสุขให้ประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม” ที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้กลไกความมั่นคงและกฏหมาย เข้าไปจัดการวงการเงินกู้นอกระบบกลุ่มสัญญาจำนองขายฝากที่ไม่เป็นธรรมและฉ้อโกง จนกลายเป็นผลงานโดดเด่นชิ้นหนึ่งของรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งดาบสุดท้ายของการจัดการปัญหาหนี้สินที่เกิดจากสัญญาขายฝากที่อาศัยช่องว่างตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เดิม ก็คือ “พระราชบัญญัติคุ้มครองประชาชนในการทำสัญญาขายฝากที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมหรือท่ีอยู่อาศัย พ.ศ. ….” ฉบับนี้นี่เอง

dYdX

dYdX และ $DYDX

dYdX โดดเด่นไม่เหมือนใครด้วยการเป็น Decentralized Exchange ที่มาพร้อมเครื่องมือทางการเงินขั้นสูง ซึ่งนอกจากจะรองรับการเทรดทั้ง Margined Trading และ Spot Trading แล้ว… บัญชีเทรดบน dYdX ยังได้รับ Leverage ทั้งในการเทรด และ การเปิดสัญญาฟิวเจอร์ หรือ Futures Contract ด้วย